อานเป่ยเยว่เห็นว่าคำพูดของซูจื่ออวี๋ฟังดูเหมือนมืออาชีพมาก ก็อดรู้สึกไม่สบายใจไม่ได้แล้วตำหนิว่า “เจ้าพูดไปพูดมา ก็แค่จะพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้จมน้ำตายเท่านั้น และพิสูจน์ว่าเขาไม่ตายด้วยน้ำมือเจ้า!”
ซูจื่ออวี๋ตรวจสอบศพไปพลางแล้วกล่าวไปพลาง “ถ้าอยากรู้ว่าใครคือฆาตกร ก็ต้องหาสาเหตุการตายเจอนั่นคือปัจจัยที่สำคัญที่สุด”
ใต้เท้าจ้าวหัวหน้าสำนักจิงจ้าวพยักหน้าและเห็นด้วยกับคำพูดของซูจื่ออวี๋เป็นอย่างมาก
ในตอนที่อานเป่ยเยว่กำลังจะบ่นอีกครั้ง สองมือของซูจื่ออวี๋ก็หยุดลงตรงคำว่าฆาตกร ก่อนจะพูดว่า “ข้าเจอแล้ว!”
เจอแล้ว? เจออะไร?
ใต้เท้าจ้าวและขุนนางชันสูตรศพเข้ามาด้วยความอยากรู้อยากเห็น เหล่าท่านอ๋องที่กล้าหาญเหล่านั้นก็ค่อยๆ ล้อมรอบเข้ามา ทุกคนก็อยากรู้อยากเห็นเช่นกัน
ซูจื่ออวี๋ยื่นมือออกไป ไม่มองไปที่ขุนนางชันสูตรศพก็เอ่ยว่า “มีดโกน”
ขุนนางชันสูตรศพตกตะลึง ไม่รู้ว่าจะตอบสนองอย่างไร ซูจื่ออวี๋ไม่ได้มีดโกนสักทีก็มองขุนนางชันสูตรศพด้วยความประหลาดใจ แล้วถามว่า “ถ้าอยากทำงานให้ดีก็ต้องลับเครื่องมือให้แหลมคม แต่เจ้าไม่มีแม้แต่มีดโกนจะเป็นขุนนางชันสูตรได้อย่างไร?”
มุมปากของขุนนางชันสูตรศพกระตุก ไม่ใช่ว่าเขาไม่มี แต่เขาไม่สามารถนำมีดโกนเข้าวังได้
ในขณะที่ขุนนางชันสูตรศพกำลังจะอธิบาย กริชเล่มหนึ่งก็ถูกส่งไปให้ซูจื่ออวี๋
ฝักกริชแกะสลักรูปมังกรและหงส์ แสงอัญมณีแวววาว มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นของราคาแพง ซูจื่ออวี๋มองขึ้นไปตามฝักที่สวยงาม ก็เหมือนใบหน้าที่ทำให้คนรู้สึกขยะแขยง
ที่แท้ก็คือจวินมู่หลานท่านอ๋องรองนี่เอง
“ใช้ของข้าก็ได้!” เสียงของจวินมู่หลานสุภาพและอ่อนโยน แต่ซูจื่ออวี๋กลับรู้สึกหนาวสั่นเมื่อได้ยิน จะมีอะไรที่น่าขยะแขยงเท่ากับคนหน้าซื่อใจคด?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...
รอตอนต่อไปค่าาา ลงเยอะๆนะคะ สนุกมากจริงๆ...
หมิงโหลวคือใครกันระ...