ยอดชายานักปรุงพิษ นิยาย บท 17

อานเป่ยเยว่เห็นว่าคำพูดของซูจื่ออวี๋ฟังดูเหมือนมืออาชีพมาก ก็อดรู้สึกไม่สบายใจไม่ได้แล้วตำหนิว่า “เจ้าพูดไปพูดมา ก็แค่จะพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้จมน้ำตายเท่านั้น และพิสูจน์ว่าเขาไม่ตายด้วยน้ำมือเจ้า!”

ซูจื่ออวี๋ตรวจสอบศพไปพลางแล้วกล่าวไปพลาง “ถ้าอยากรู้ว่าใครคือฆาตกร ก็ต้องหาสาเหตุการตายเจอนั่นคือปัจจัยที่สำคัญที่สุด”

ใต้เท้าจ้าวหัวหน้าสำนักจิงจ้าวพยักหน้าและเห็นด้วยกับคำพูดของซูจื่ออวี๋เป็นอย่างมาก

ในตอนที่อานเป่ยเยว่กำลังจะบ่นอีกครั้ง สองมือของซูจื่ออวี๋ก็หยุดลงตรงคำว่าฆาตกร ก่อนจะพูดว่า “ข้าเจอแล้ว!”

เจอแล้ว? เจออะไร?

ใต้เท้าจ้าวและขุนนางชันสูตรศพเข้ามาด้วยความอยากรู้อยากเห็น เหล่าท่านอ๋องที่กล้าหาญเหล่านั้นก็ค่อยๆ ล้อมรอบเข้ามา ทุกคนก็อยากรู้อยากเห็นเช่นกัน

ซูจื่ออวี๋ยื่นมือออกไป ไม่มองไปที่ขุนนางชันสูตรศพก็เอ่ยว่า “มีดโกน”

ขุนนางชันสูตรศพตกตะลึง ไม่รู้ว่าจะตอบสนองอย่างไร ซูจื่ออวี๋ไม่ได้มีดโกนสักทีก็มองขุนนางชันสูตรศพด้วยความประหลาดใจ แล้วถามว่า “ถ้าอยากทำงานให้ดีก็ต้องลับเครื่องมือให้แหลมคม แต่เจ้าไม่มีแม้แต่มีดโกนจะเป็นขุนนางชันสูตรได้อย่างไร?”

มุมปากของขุนนางชันสูตรศพกระตุก ไม่ใช่ว่าเขาไม่มี แต่เขาไม่สามารถนำมีดโกนเข้าวังได้

ในขณะที่ขุนนางชันสูตรศพกำลังจะอธิบาย กริชเล่มหนึ่งก็ถูกส่งไปให้ซูจื่ออวี๋

ฝักกริชแกะสลักรูปมังกรและหงส์ แสงอัญมณีแวววาว มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นของราคาแพง ซูจื่ออวี๋มองขึ้นไปตามฝักที่สวยงาม ก็เหมือนใบหน้าที่ทำให้คนรู้สึกขยะแขยง

ที่แท้ก็คือจวินมู่หลานท่านอ๋องรองนี่เอง

“ใช้ของข้าก็ได้!” เสียงของจวินมู่หลานสุภาพและอ่อนโยน แต่ซูจื่ออวี๋กลับรู้สึกหนาวสั่นเมื่อได้ยิน จะมีอะไรที่น่าขยะแขยงเท่ากับคนหน้าซื่อใจคด?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ