เวินเซียงอวี้หยวน
หันหรูเฟิงนั่งดีดลูกคิดอย่างมีความสุข นับตั๋วเงินพลางเอ่ยว่า “พี่สะใภ้ เจ้าช่างเป็นต้นเงินต้นทองของข้าจริงๆ เลยนะ”
ซูจื่ออวี๋ดื่มชา ยืนอยู่ข้างหน้าต่างแล้วมองดูกลุ่มคนที่เดินไปมาบนท้องถนน เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เล่มต่อไปวาดเสร็จหรือยัง?”
หันหรูเฟิงวางลูกคิด แล้วพูดว่า “วาดเสร็จแล้ว แต่เล่มต่อไปนี่จะทำให้อานเป่ยเยว่ตายได้จริงๆ หรือ?”
ซูจื่ออวี๋ยิ้มอย่างเย็นชา “แม้ว่านางจะหน้าหนาไม่ฆ่าตัวตาย แต่นับจากนี้ไป ข้าคงไม่ต้องทนเห็นใบหน้าที่น่ารำคาญของนางอีกแล้ว”
หันหรูเฟิงคิดถึงเนื้อหาในเล่มต่อไปนั้น เนื้อหาก็คือนางเอกรับแขกมากเกินไป ทั้งยังเป็นซ่องนางโลมชั้นต่ำ จนกระทั่งร่างกายติดโรคร้าย
และโรคร้ายนั้นก็มีตุ่มแดงทั่วร่างกาย
หันหรูเฟิงมองไปที่ซูจื่ออวี๋ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย “พี่สะใภ้ มีวิธีใดที่จะทำให้อานเป่ยเยว่เกิดตุ่มแดงอย่างนั้นหรือ?”
ซูจื่ออวี๋ดีดนิ้ว นับวันแล้วพูดว่า “ใกล้แล้วล่ะ”
ใกล้แล้ว? หมายความว่าอย่างไร?
หันหรูเฟิงแสดงสีหน้าสับสนออกมา แต่ซูจื่ออวี๋กลับยิ้มอย่างมีเลศนัย เห็นได้ชัดว่าไม่มีความตั้งใจที่จะเผยคำตอบปริศนานี้ให้กับเขา
ซูจื่ออวี๋เอ่ยเปิดประเด็นใหม่ “สองวันนี้ไม่เห็นอ๋องแปดมาหาเจ้าเลย เขาเป็นอะไรรึเปล่า?”
หันหรูเฟิงก็เอ่ยว่า “ฝ่าบาทให้ท่านอ๋องห้าท่านอ๋องหกไปเที่ยงเมืองหลวงกับรัชทายาทเป๋ยฉู่และองค์หญิง เขาก็เดินตามต้อยๆ ทั้งวัน จะว่าไปแล้วก็แปลก หรือว่าองค์หญิงเป๋ยฉู่คนนั้น จะลืมเรื่องนี้ไปแล้ว?”
ซูจื่ออวี๋ก็แสดงสีหน้าเป็นห่วงแล้วเอ่ยว่า “ยิ่งพยายามสงบมากเท่าไหร่ เกรงว่าตอนโจมตีกลับจะยิ่งรุนแรงมากเท่านั้น เดี๋ยวตอนอ๋องแปดมา เจ้าต้องเตือนเขาให้ดี อย่าให้เขาเข้าใกล้ฉู่อวิ๋นชิงใกล้ขนาดนั้น ส่วนงานแต่งของพวกเขา ท่านอ๋องจะคิดหาหนทางก่อน”
หันหรูเฟิงพยักหน้า
ครั้งนี้ไม่รอให้จวินมู่ฉยงเป็นฝ่ายเข้าไปใกล้ชิดนาง อานเป่ยเยว่ก็โผเข้าไปในอ้อมกอดของจวินมู่ฉยงอย่างอดใจรอไม่ได้ ร้องไห้สะอึกสะอื้น “พี่ฮวายหรง พี่ต้องช่วยข้านะ ต้องช่วยเยว่เอ๋อร์ ต้องช่วยเยว่เอ๋อร์ ซูจื่ออวี๋นั่นเห็นได้ชัดว่าต้องการให้ข้าตาย ตอนนี้หากนางไม่ตาย ข้าก็ต้องตาย”
จวินมู่ฉยงตบหลังของอานเป่ยเยว่เบาๆ ถอนหายใจแล้วเอ่ยว่า “งั้นเจ้าบอกข้ามา เรื่องที่เจ้าเจ็ดแกล้งพิการนี่มันเป็นเรื่องจริงหรือไม่?”
อานเป่ยเยว่ตัวแข็งทื่อ ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรไปชั่วขณะ ถ้าบอกว่าเป็นความจริง จวินมู่ฉยงต้องถามรายละเอียดแน่นอน เช่นนั้นเรื่องที่นางวางยาจวินมู่เหนียนก็ต้องปิดบังไม่ได้
อานเป่ยเยว่รู้ว่าจวินมู่ฉยงมีใจให้นาง หากนางเปิดเผยเรื่องนี้ออกไป ไม่เท่ากับว่าเพิ่มทางตันให้กับจวินมู่ฉยงหรือ ถึงตอนนั้นจวินมู่ฉยงก็ไม่ช่วยนางแล้ว และนางก็ยิ่งหมดหวัง
อานเป่ยเยว่ชั่งน้ำหนักในใจแล้วพูดว่า “ใช่...เป็นความจริง ในวันเทศกาลส้างซื่อวันนั้น ข้าเห็นซูจื่ออวี๋ลากทหารลงไปในน้ำ จากนั้นพี่หลานซี... จากนั้นพี่หลานฉีก็ลงน้ำไปช่วยคน พี่ฮวายหรง พี่ลองคิดดูนะ เทศกาลส้างซื่อวันนั้น ตอนที่พวกท่านปรากฏตัวออกมา ใช่ท่านอ๋องฉินไม่อยู่ในเหตุการณ์ใช่หรือไม่? แต่พอเขาปรากฏตัวแล้ว เขากลับเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ทั้งตัวแล้ว?”
จวินมู่ฉยงจำได้ว่าจวินมู่เหนียนสวมชุดอะไรในเทศกาลส้างซื่อ แต่เรื่องในวันนั้น เขาจำได้เพียงเล็กน้อย จวินมู่เหนียนโผล่ออกมาในตอนสุดท้ายจริงๆ และทันทีที่โผล่ออกมา ก็ออกมือช่วยซูจื่ออวี๋อย่างไร้เหตุผล
น่าแปลกจริงๆ เหตุใดเขาถึงอยากช่วยซูจื่ออวี๋? หรือว่าพวกเขาร่วมมือกันมาตั้งแต่แรกแล้วงั้นหรือ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
เรื่องนี้ไม่อัพเพิ่มแล้วหรอคะ...
ต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้นแน่ๆ...
นางเอกทนงตนเกินไปว่าตัวเองเก่งทำให้ไม่ระแวดระวังและไม่ยอมให้มีคนคุ้มกัน...
สนุกมากๆเลยค่ะ รอ admin นะคะ...
ไม่ลงตอนใหม่แล้วเหรอคะ...
สนุกค่ะ รออัพเดทนะคะ...
ตอนที่241 รอบอัพอยู่ค่ะ 242 มาตอนไหนค่ะ...
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...