ซูจื่ออวี๋เดินตามฮวาเชียนเจียวไปจนถึงวังหลัง เมื่อเห็นฮวาเชียนเจียวคุ้นเคยกับถนน ซูจื่ออวี๋จึงถามว่า “พวกเราต้องไปเปลี่ยนชุดที่ไหนหรือ”
ฮวาเชียนเจียวกล่าวว่า “ทูลพระชายา วันนี้ฮองเฮาเตรียมสถานที่เปลี่ยนชุดให้กับสมาชิกสตรีที่ศาลาสุ่ยชิวใกล้กับสวนหลวงเจ้าค่ะ ชุดของพระชายาก็ถูกส่งไปที่นั่นแล้ว”
ซูจื่ออวี๋ตะลึงงันเล็กน้อย คิดในใจว่ามิน่าล่ะป๋ายหลี่เชียนซางถึงได้ขอให้นางไปเจอที่ศาลาสุ่ยชิว ที่แท้เขาก็รู้อยู่แล้วว่าวันนี้สตรีจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่นั่น
ป๋ายหลี่เชียนซางผู้นี้เหตุใดถึงได้รู้ทุกอย่าง?
เอ๋? ไม่สิ วันนี้สตรีทุกคนต้องไปเปลี่ยนชุดที่ศาลาสุ่ยชิว ป๋ายหลี่เชียนซางจะไม่เห็นฮูหยินและคุณหนูทุกจวนหรือ?
มุมปากของซูจื่ออวี๋กระตุก คิดในใจว่าเจ้าคนนี้มันสัตว์เดรัจฉานที่สวมหมวกใส่เสื้อผ้าชัดๆ
นายบ่าวพูดคุยกันจนมาถึงศาลาสุ่ยชิวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากซูจื่ออวี๋คุยกับจวินมู่เหนียนสองสามประโยค จึงต้องใช้เวลาพอสมควร ดังนั้นเมื่อนางมาถึงศาลาสุ่ยชิว จึงไม่มีใครอยู่ที่นี่แล้ว
ฮวาเชียนเจียวพาซูจื่ออวี๋ไปที่ห้องข้างๆ ที่มีเสื้อผ้าและเครื่องประดับของซูจื่ออวี๋วางอยู่
ฮวาเชียนเจียวเอ่ยขึ้นมาว่า “บ่าวจะช่วยพระชายาเปลี่ยนเสื้อผ้าเองเพคะ”
ซูจื่ออวี๋ก็รีบพูด “เจ้าช่วยข้าถอดเครื่องประดับออกก็พอแล้ว ข้าจะเปลี่ยนชุดเอง”
ตอนนี้นางไม่กล้าถอดชุดออกง่ายๆ ใครจะรู้ว่าป๋ายหลี่เชียนซางซ่อนตัวอยู่ที่ไหน นางต้องปลีกตัวฮวาเชียนเจียวออกไปสักพัก แล้วค่อยเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากเห็นป๋ายหลี่เชียนซางแล้ว
ฮวาเชียนเจียวคิดว่าซูจื่ออวี๋เป็นคนขี้อาย ดังนั้นนางจึงทำตามคำแนะนำของซูจื่ออวี๋ ถอดเครื่องประดับออกแล้วหวีผมให้นาง ก่อนจะหมุนตัวออกไปรอที่หน้าประตู
เมื่อซูจื่ออวี๋เห็นว่าประตูปิดอยู่ ก็มองไปรอบๆ นางมองภายในห้องนี้อย่างละเอียดก็ไม่เจอที่ให้คนซ่อนเลย
ซูจื่ออวี๋จึงลองตะโกนออกมา “ป๋ายหลี่เชียนซาง?”
ก็ไม่มีใครตอบกลับ
ซูจื่ออวี๋จึงเรียกขึ้นมาอีกครั้ง “เจ้าจะออกมาหรือไม่ ถ้าเจ้าไม่ออกมาข้าจะไปแล้ว”
ซูจื่ออวี๋ก็เดินเข้าไปในกลุ่มอย่างแนบเนียน ขณะที่ตามไปอย่างช้า ก็มองหาฉานเสวี่ยจิงหงกระถางนั้นอยู่รอบๆ
หลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ซูจื่ออวี๋ก็ได้ยินคนชมว่า “อากาศในตงโจวช่างน่าประทับใจจริงๆ ดอกไม้เหล่านี้ก็งดงามมาก นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นดอกเบญจมาศหลากสีเช่นนี้ โอ้ กระถางสีเขียวนี่คงจะแพงมากใช่หรือไม่?”
เมื่อซูจื่ออวี๋ได้ยิน ก็เห็นว่าคนพูดนั้นคือฉู่อวิ๋นชิง
ฮองเฮากล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “องค์หญิงอวิ๋นชิงช่างมีสายตาดีจริงๆ กระถางตรงหน้าเจ้าเรียกว่าคลื่นน้ำมรกตฤดูใบไม้ร่วง มันไม่ได้มีราคามากนักในท้องตลอด”
ซูจื่ออวี๋ก็มองไปตามสายตาของฮองเฮา พบว่ามันคือกระถางดอกเบญจมาศสีเขียวน้ำมรกต สีสันมีเอกลักษณ์ดูงดงามมาก
ฉู่อวิ๋นชิงเอียงศีรษะยิ้มบาง เอ่ยชื่นชมออกมาอย่างจริงใจ “ฮองเฮาช่างมีความรู้มากจริงๆ ข้าไม่เข้าใจเรื่องดอกไม้เหล่านี้ ได้แต่มองด้วยความสนุกเท่านั้น”
เมื่อได้ยินฉู่อวิ๋นชิงชมฮองเฮา ลั่วกุ้ยเฟยก็กลอกตาเยาะเย้ย “ก็แค่คลื่นน้ำมรกตฤดูใบไม้ร่วงกระถางหนึ่ง ยังมีค่าไม่เท่ากับกระถางหญ้าสีเขียวตรงหน้านี้ ผิวบอบบางและลำต้นอ่อนนุ่มมีกลิ่นหอม กลีบดอกสีเหลืองทองส่องแสงระยิบระยับ ที่พูดมาก็หมายถึงมัน”
เมื่อเหล่าสนมได้ยินเช่นนั้นก็พากันชื่นชมลั่วกุ้ยเฟยว่าเป็นคนที่มีความรู้และความสามารถที่เปี่ยมล้น

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
เรื่องนี้ไม่อัพเพิ่มแล้วหรอคะ...
ต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้นแน่ๆ...
นางเอกทนงตนเกินไปว่าตัวเองเก่งทำให้ไม่ระแวดระวังและไม่ยอมให้มีคนคุ้มกัน...
สนุกมากๆเลยค่ะ รอ admin นะคะ...
ไม่ลงตอนใหม่แล้วเหรอคะ...
สนุกค่ะ รออัพเดทนะคะ...
ตอนที่241 รอบอัพอยู่ค่ะ 242 มาตอนไหนค่ะ...
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...