เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดชายานักปรุงพิษ นิยาย บท 893

ฮ่องเต้เจาเหวินพาทุกคนเดินเข้ามาแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ลุกขึ้นเถอะ”

ทุกคนก็เอ่ยขึ้นพร้อมกัน “ขอบพระทัยฝ่าบาท”

หลังจากซูจื่ออวี๋ลุกขึ้นก็เห็นท่าทีของฮองเฮากลับมาเป็นปกติแล้ว ทว่าไม่รอให้ฮองเฮาทักทายฮ่องเต้ ลั่วกุ้ยเฟยผู้นั้นก็เดินเข้าไปหาฮ่องเต้เจ้าเหวินด้วยท่าทีออดอ้อน และเดินเฉียดไหล่ซูจื่ออวี๋พอดี

ลั่วกุ้ยเฟยเอ่ยกับฮ่องเต้เจาเหวินด้วยท่าทางออดอ้อน “ฝ่าบาท ท่านดูฉานเสวี่ยจิงหงกระถางนี้สิเพคะ สวยกว่าปีที่แล้วใช่หรือไม่? นี่คือดอกไม้ที่ฝ่าบาทให้หม่อมฉัน หม่อมฉันดูแลมันอย่างดีเลยนะเพคะ”

ฮ่องเต้เดินไปหาฉานเสวี่ยจิงหงแล้วพยักหน้ากล่าวด้วยรอยยิ้ม “นับวันยิ่งงดงามจริงๆ เบญจมาศอายุร้อยปีเป็นสิริมงคลจริงๆ”

องค์ชายและขุนนางที่ตามหลังอยู่ก็พากันขานรับ พยายามเอ่ยชมฉานเสวี่ยจิงหงกระถางนี้

มีเพียงจวินมู่เหนียนที่ดูเหมือนจะไม่ได้สนใจดอกไม้กระถางนั้นเลย สั่งให้ซูจื่ออวี๋ผลักเขาไปข้างซูจื่ออวี๋

จวินมู่เหนียนเห็นว่าซูจื่ออวี๋กำลังเหม่อลอยจึงเรียกเบาๆ “อวี๋เอ๋อร์?”

ทันใดนั้นซูจื่ออวี๋ก็ได้สติกลับมาอีกครั้ง ก่อนจะเหลือบมองไปที่ลั่วกุ้ยเฟยแวบหนึ่ง จากนั้นก็ก้มหน้าลงมองจวินมู่เหนียนพร้อมเอ่ยด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “ท่านอ๋อง กลิ่นยาพิษนั่นมาจากตัวของลั่วกุ้ยเฟยเพคะ”

นางได้กลิ่นนี้ตอนที่ลั่วกุ้ยเฟยเดินผ่านนาง

จวินมู่เหนียนเอ่ยกระซิบโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า “ชมดอกไม้ไปก่อน” ตอนนี้คนมากเกินไป ไม่อาจเปิดเผยลั่วกุ้ยเฟยได้ง่ายๆ ถ้าเกิดว่ายังไม่มีหลักฐานมันจะยุ่งยากมาก เขาต้องหาโอกาสรายงานเรื่องนี้กับฮ่องเต้เจาเหวินเพียงลำพัง

ซูจื่ออวี๋พยักหน้า น่าจะเดาได้ว่าจวินมู่เหนียนกำลังคิดอะไรอยู่

ทุกคนต่างก็วิพากษ์วิจารณ์ในความคิดเห็นของตัวเอง ไม่รู้ว่าคุยกันถึงไหนแล้ว อยู่ๆ ฮองเฮาก็เอ่ยเสนอขึ้นมาว่าให้จัดงานเลี้ยงที่สวนดอกไม้หลวง

ทุกคนนั่งลงที่เก้าอี้ของตัวเอง ล้อมรอบด้วยมวลดอกเบญจมาศหลากสี ช่างมีเอกลักษณ์พิเศษจริงๆ

เพียงแต่ฉานเสวี่ยจิงหงของลั่วกุ้ยเฟยถูกวางไว้ตรงกลาง ทำให้เหล่านางรำที่เต้นอยู่ต้องหลีกทางออกไป

ซูจื่ออวี๋ที่เห็นดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้ว พูดกับจวินมู่เหนียนเสียงต่ำว่า “ลั่วกุ้ยเฟยผู้นี้ช่างไม่เห็นใครอยู่ในสายตาจริงๆ นางพยายามเอาชนะฮองเฮาทุกวิถีท่าง ฮองเฮาก็ช่างน่าสงสารจริงๆ”

จวินมู่เหนียนรินชาให้ซูจื่ออวี๋พลางเอ่ยว่า “นางไร้ทายาท ตระกูลแม่ของนางสูงส่ง ไม่ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้ นอกจากตำแหน่งฮองเฮาแล้ว นางก็ไม่มีที่พึ่งอื่น”

ซูจื่ออวี๋ทอดถอนใจ ด้วยอายุของฮองเอาตอนนี้ เกรงว่าคงไม่สามารถมีลูกได้แล้ว หากจวินมู่หลานได้เป็นรัชทายาทจริงๆ เกรงว่าชีวิตของฮองเฮาคงยิ่งลำบากขึ้นเป็นแน่

ขณะที่ซูจื่ออวี๋กำลังเสียใจแทนฮองเฮานั้น ฉู่อวิ๋นหยางก็ลุกขึ้นแล้วกล่าวว่า “ได้ยินมานานแล้วว่าฝ่าบาทชอบเสวยเหล้า กระหม่อมจึงตั้งใจนำเหล้าหมักดอกเบญจมาศสิบสองไหจากเป๋ยฉู่มาด้วย อากาศที่เป๋ยฉู่เย็นจัด ดอกเบญจมาศไม่ได้เยอะมาก แต่โชคดีที่มีดอกเบญจมาศป่าชนิดหนึ่ง มีกลิ่นหอมคลุ้ง เด็ดกลีบดอกของมันหมักด้วยหิมะในฤดูหนาวทำเป็นเหล้า กลิ่นหอมน่าดื่ม เมื่อเข้าปากแล้วก็รู้สึกหวาน วันนี้จึงตั้งใจนำมาถวายให้ฝ่าบาทได้ลองชิมดูพ่ะย่ะค่ะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ