โม่ซุนยิ้มอ่อนเอ่ยว่า
“ขออภัยที่ทำให้เจ้าสำนักเดือดร้อน”
อวิ๋นลู่ชิงโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ
“ไม่ไม่ไม่ ท่านเป็นหมอเทวดา มีกฏระเบียบของท่านเอง เรื่องนี้ข้าเข้าใจ เพียงแต่ครั้งนี้ท่านหมอโม่เดินทางมาสำนักฉีหลิน ไม่ทราบว่ายินดีจะ...”
โม่ซุนพยักหน้า แล้วเอ่ยขึ้น
“ข้ามาท่องเที่ยวแถวนี้ บ่าวของข้าบาดเจ็บตอนเก็บสมุนไพร หนำซ้ำแถวนี้ไม่มีชาวบ้านอาศัยอยู่ จึงต้องมารบกวนเจ้าสำนักสักสองสามวัน รอให้อาการของบ่าวดีขึ้นแล้ว พวกเราค่อยออกเดินทาง อนึ่งเพื่อเป็นการตอบแทน ข้ายินดีรักษาผู้ใดก็ได้เพื่อเจ้าสำนัก”
โม่ซุนชี้ไปยังซูจื่ออวี๋ที่ยืนข้างกัน ขณะนี้นางแต่งกายเป็นบุรุษ สีผิวดำเมี่ยม ซ้ำยังมีอาการบาดเจ็บ เสื้อผ้าขาดวิ่นมีรอยสกปรก ดูแล้วเหมือนเพิ่งตกเขามาจริงๆ
อวิ๋นลู่ชิงหันมองซูจื่ออวี๋เพียงแวบเดียว จากนั้นไม่มองอีกเลย กลับหันไปมองโม่ซุนอย่างดีใจ แล้วรีบบอกว่า
“ท่านหมอโม่อย่าได้เกรงใจกันเด็ดขาด ขอให้พักอยู่ที่นี่อย่างวางใจ ข้ายินดีเหลือเกิน ส่วนเรื่องช่วยคน...ท่านหมอโม่ก็รู้ดี ลูกชายข้าอวิ๋นหมิงเป็นสิ่งที่ข้ากลุ้มใจมาตลอด”
โม่ซุนพยักหน้า แล้วเอ่ยถามอย่างใจเย็น
“อาการของคุณชายอวิ๋น ไม่ดีขึ้นเลยหรือ? ข้าน้อยเคยได้ยินว่า เจ้าสำนักเคยพาไปรักษาที่สำนักราชาโอสถ”
อวิ๋นลู่ชิงถอนหายใจ
“ราชาโอสถท่านเกรงใจมาก แต่หลังจากตรวจชีพจรของหมิงเอ๋อร์แล้ว ก็ไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไร สุดท้ายท่านจึงให้พิมเสนป่าร้อยปีมาหนึ่งกล่อง บอกว่าเอามาบำรุงร่างกาย”
เมื่อเอ่ยถึงพิมเสนป่าซูจื่ออวี๋ประหม่าขึ้นทันที แล้วเงยหน้าขึ้นอย่างลืมตัว
อวิ๋นลู่ชิงหันมองซูจื่ออวี่ ทั้งสองสบตากัน ซูจื่ออวี๋จึงรีบก้มหน้าลงทันที แต่อวิ๋นลู่ชิงได้มองเห็นดวงตากลมโตงดงามคู่นั้นแล้ว
อวิ๋นลู่ชิงมองสำรวจซูจื่ออวี๋ด้วยความสงสัย รู้สึกว่าดวงตาที่งดงามขนาดนี้ ดูเหมือนไม่ควรอยู่บนตัวบ่าวรับใช้ที่ผิวหนังดำเมี่ยมเช่นนี้
โม่ซุนเห็นลู่อวิ๋นชิงมองซูจื่ออวี๋ด้วยความสงสัย จึงรีบดึงความสนใจของเขาทันที
แต่สิ่งที่น่าแปลกคือ คนพวกนี้ดูแข็งแกร่งกำยำ เหมือนไม่มีร่องรอยว่าได้รับบาดเจ็บ
ซูจื่ออวี๋เชื่อว่า แม้องครักษ์ของจวนอ๋องฉินจะถูกโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว แต่อีกฝ่ายก็ไม่ถึงกับไม่บาดเจ็บเลย ขอเพียงคนที่ลงมือคือคนของสำนักฉีหลิน เช่นนั้นพวกเขาต้องได้รับความเสียหายแน่นอน
แต่ดูจากตอนนี้ เหมือนไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
หรือนางเดาผิด?
ในขณะที่ซูจื่ออวี๋คิดว่าตัวเองทายผิดนั้น เห็นลูกศิษย์ของสำนักฉีหลินคนหนึ่งนั่งเปลือยแขนอยู่ตรงทางเดิน และมีลูกศิษย์อีกคนกำลังนวดไหล่ของเขาด้วยน้ำมัน
ซูจื่ออวี๋มองดูอย่างละเอียด พบว่าบนบ่าของลูกศิษย์คนนั้นมีรอยรัดแดงบวม ร่องรอยเช่นนี้ ทำให้นึกได้ไม่ยากว่ารอยเช่นนี้เกิดจากการแบกของหนัก
ซูจื่ออวี๋เลิกคิ้ว คิดในใจ
“ดูท่าข้าจะทายไม่ผิด สำนักฉีหลินเป็นผู้ปล้นเบี้ยหวัดไป พวกเขาใช้แรงงานคนในการขนถ่ายเงินเหล่านั้น จนทำให้บ่าได้รับเจ็บ เพียงแต่ยังไม่พบคนที่บาดเจ็บ ดูท่าพวกคนที่บาดเจ็บคงถูกทางสำนักซ่อนตัวไว้แล้ว

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
เรื่องนี้ไม่อัพเพิ่มแล้วหรอคะ...
ต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้นแน่ๆ...
นางเอกทนงตนเกินไปว่าตัวเองเก่งทำให้ไม่ระแวดระวังและไม่ยอมให้มีคนคุ้มกัน...
สนุกมากๆเลยค่ะ รอ admin นะคะ...
ไม่ลงตอนใหม่แล้วเหรอคะ...
สนุกค่ะ รออัพเดทนะคะ...
ตอนที่241 รอบอัพอยู่ค่ะ 242 มาตอนไหนค่ะ...
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...