มือสังหารเหล่านั้นแต่งกายคล้ายกับชาวต้าโจวและสวมหน้ากากผ้าสีดำ กลุ่มคนนิรนามราวเจ็ดถึงแปดคนกระโดดลงมาจากท้องฟ้ากลางวันแสก ๆ ทันทีที่เท้าของคนเหล่านั้นแตะพื้น พวกมันก็เริ่มโจมตีอย่างดุดัน
ฉินโจวเห็นมือสังหารคนหนึ่งกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับกระบี่ยาว จากนั้นร่ายรำอยู่หลายกระบวนท่าราวกับนางฟ้าโปรยดอกไม้ ขณะแสงแดดตกกระทบกระบี่ส่องกระจายไปทั่ว
เหล่าทหารที่เพิ่งมาถึงกระโจนเข้าไปร่วมวงต่อสู้อย่างรวดเร็ว
หลังจากประดาบกันไปกว่าร้อยครั้ง มือสังหารก็ถูกบีบบังคับให้ล่าถอย ฉินโจวจ่อกระบี่ไปที่คอของหนึ่งในมือสังหาร พลางถามเสียงเข้ม “ตอบข้า ใครเป็นคนส่งเจ้ามา?”
มือสังหารตอบอย่างเย็นชา “ฆ่าไอ้หมารับใช้เป่ยโม่ให้หมด!”
“หมารับใช้เป่ยโม่? เห็นได้ชัดว่าพวกเจ้าไม่ได้เป็นคนเป่ยโม่ พวกเจ้ามาจากต้าโจวใช่หรือไม่?” ฉินโจวโมโหอย่างมาก ขณะชี้ดาบไปยังหน้าอกของอีกฝ่าย “ไอ้เลวมู่หรงเจี๋ยส่งพวกเจ้ามาใช่หรือไม่?”
“หญิงเลวอย่าเจ้ากล้าเอ่ยชื่อของท่านอ๋อง ทำให้พระองค์มัวหมองได้อย่างไร?” มือสังหารตะโกน
ฉินโจวชักดาบกลับพร้อมกล่าวอย่างเย็นชา “กลับไปซะ!”
มือสังหารตกตะลึง ราวกับไม่คาดคิดว่าฉินโจวจะปล่อยตัวเขาไป
”เจ้าไม่ไปรึ?” ฉินโจวกล่าวเสียงเข้ม “จงกลับไปบอกมู่หรงเจี๋ยว่าหากต้องการเอาชีวิตข้า ก็ให้มาด้วยตนเอง”
มือสังหารผู้ที่รอดพ้นจากความตายอย่างหวุดหวิดรีบคลานหนีอย่างรวดเร็ว
องครักษ์รู้สึกสับสนเล็กน้อย “ท่านแม่ทัพ เหตุใดท่านถึงปล่อยมันไป? จับตัวมันไปให้มู่หรงเจี๋ย เมื่อถึงตนนั้นเขาคงปฏิเสธไม่ได้!”
ฉินโจวสูดหายใจเข้าลึกพลางเก็บกระบี่เข้าฝัก ก่อนกวาดสายตามององครักษ์ “หากเจ้าเป็นมู่หรงเจี๋ย และต้องการลอบสังหารแม่ทัพเป่ยโม่ เจ้าจะเปิดเผยตัวตนหรือไม่?”
องครักษ์รู้สึกประหลาดใจ “ท่านแม่ทัพ ท่านกำลังจะบอกว่ามีใครบางคนจงใจปลอมตัวเป็นมู่หรงเจี๋ย เพื่อลอบสังหารท่านอย่างนั้นรึ?”
ฉินโจวตกตะลึงอย่างยิ่ง “เป็นไปได้อย่างไร? เป่ยโม่ยืมเสบียงอาหารจากเซียนเป่ยเพื่อบรรเทาภัยพิบัติหรือ”
“ฮองเฮาทรงจัดการเรื่องนี้ด้วยพระองค์เอง มันจึงไม่ใช่สิ่งที่แม่ทัพเช่นเราต้องกังวล ยิ่งไปกว่านั้น องค์จักรพรรดิได้มีพระราชกฤษฎีกาให้ประชาชนทุกคนจ่ายภาษีล่วงหน้า ดังนั้นภาษีในปีนี้จะมากเป็นสองเท่าของปีก่อน ๆ”
“ตอนนี้ยังไม่ถึงฤดูเก็บเกี่ยว อย่างน้อยก็ต้องรอไปอีกหนึ่งเดือนมิใช่หรือเจ้าคะ?”
“เช่นนั้นก็ต้องเก็บเกี่ยวให้เร็วขึ้น”
ฉินโจวแทบไม่เชื่อหูตนเอง “ท่านปู่ ท่านพูดว่าอะไรนะ? ท่านรู้หรือไม่ว่าชาวบ้านจะสูญเสียอาหารไปมากเพียงใด หากต้องเก็บเกี่ยวให้เร็วขึ้น? ยิ่งไปกว่านั้นหากต้องเก็บเกี่ยวก่อนกำหนดหนึ่งเดือน ข้าวสาลีจะยังไม่สุกได้ที่...”
“ไม่เป็นไร ฝ่าบาททรงตรัสว่าให้เหล่าชาวบ้านเกี่ยวข้าวริมแม่น้ำก่อน”
“เช่นนั้นยังเหลือเวลาเก็บเกี่ยวอีกครึ่งเดือน ตอนนี้ข้าวยังไม่ออกรวงเต็มที่ ผลผลิตในปีนี้จึงน้อยนัก ยิ่งไปกว่านั้น ในปีนี้ยังมีภัยพิบัติทางธรรมชาติมากมาย ภาษีก็ต้องจ่ายมากกว่าเดิม เหล่าประชาชนจะต้องก่อจลาจลเป็นแน่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...