ยามโหย๋ว เวลาพลบค่ำ
ราชวงศ์ต้าฉู่ หมู่บ้านเส้าเหยา ตำบลต้าซิง อำเภอซีเจ๋อ หลังคาบ้านของทุกครัวเรือนมีควันทำอาหารล่องลอยออกมา
อำเภอซีเจ๋อแห่งนี้อยู่ในพื้นที่รกร้างทางตะวันตกของราชวงศ์ต้าฉู่ มีอาณาเขตติดกับแคว้นหรงตี๋ เกิดสงครามต่อเนื่องขึ้นทุกปี ชาวบ้านมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างทุกข์ยาก
หมู่บ้านเส้าเหยาอยู่ภายใต้การปกครองของตำบลต้าซิง พื้นดินแห้งแล้ง ในหมู่บ้านมีชาวบ้านอาศัยมากกว่าห้าสิบครัวเรือน ยกเว้นตระกูลเหยี่ยนที่มีฐานะร่ำรวย ชาวบ้านที่เหลือต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด
ตอนนี้เอง จวนหลังใหญ่ที่ก่อด้วยกำแพงอิฐสีมรกตของตระกูลเหยี่ยน ภายในจวนที่ปูพื้นกระเบื้องสีแดง มีควันอาหารกำลังพวยพุ่งขึ้นมา กลิ่นอาหารฟุ้งกระจายไปทั่ว ห้องครัวที่ทั้งกว้างและสว่าง มีหญิงรับใช้สองคน บ่าวรับใช้สูงอายุคนหนึ่งกำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารให้เจ้านาย
ในหม้อเหล็กขนาดใหญ่ใบหนึ่งกำลังตุ๋นขาหมู และในหม้อเหล็กขนาดใหญ่อีกใบหนึ่งมีซึ้งนึ่งสามชั้น ภายในซึ้งนึ่งเต็มไปด้วยหมั่นโถวเนื้อนุ่มสีขาวกลมโต
ชาวบ้านที่เดินผ่านประตูจวนตระกูลเหยี่ยน พอได้กลิ่นอาหาร ก็อดไม่ได้ที่จะหยุดฝ่าเท้าและกลืนน้ำลายสองสามอึก
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สงครามยังคงไม่จบ ในหมู่บ้านของพวกเรา คงมีเพียงตระกูลเหยี่ยนเท่านั้นที่ยังสามารถกินเนื้อสัตว์และดื่มสุราได้”
ตระกูลเหยี่ยนร่ำรวยถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงไม่ให้ภรรยาหม้ายของบ้านสายสามได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ภรรยาหม้ายและลูกๆของบ้านสายสามต้องไปอาศัยอยู่ที่ศาลเจ้าท้ายหมู่บ้าน สถานที่ที่ไม่สามารถบังแดด ต้านหิมะได้ ช่างน่าสงสารยิ่งนัก
นี่เป็นเรื่องครอบครัวของตระกูลเหยี่ยน พวกเราสอดมือได้หรือ ไปๆ กลับไปกินข้าวกันเถอะ
ท้ายหมู่บ้าน มีศาลเจ้าที่เก่าแก่ทรุดโทรม สตรีนางหนึ่งสวมชุดสีขาวซีด บนเสื้อมีรอยปะชุนชั้นแล้วชั้นเล่า กำลังถือตะหลิวที่บิ่นอยู่ในมือ ยืนอยู่หลังเตาถ่านกำลังง่วงอยู่กับการทำอาหร
ในกระทะเหล็กขนาดใหญ่ที่มีรูปทรงบิดเบี้ยว กำลังต้มผักสีใบเขียวอยู่ ในน้ำแกงผักไม่มีเห็นร่องรอยของน้ำมันแม้แต่น้อย
ท่านแม่ พวกเรากลับมาแล้ว
เมื่อพวกเด็กๆกลับมาแล้ว มีรอยยิ้มจางๆปรากฏบนบนใบหน้าของสตรี นางถือชามดินเผาเนื้อหยาบ ตักผักใบเขียวที่ต้มสุกอยู่ในหม้อขึ้นมา
กลับมาได้ทันเวลาพอดีเลย ไปล้างมือแล้วมากินอาหารเย็นกัน
สตรีนางนั้นนั้นโน้มตัวไปข้างหน้า มองไปยังประตูร้องขึ้นหนึ่งหนึ่งประโยค จัดเรียงผักใบเขียวที่พึ่งต้มสุกและวอโถ่วเนื้อหยาบอีกสี่ก้อนวางบนโต๊ะ
พอจัดวางเสร็จแล้ว ก็เห็นเด็กสาวหน้าตาซีดเหลืองสามคนเดินเข้ามายังห้องครัว
สตรีนางนั้นพอเห็นแค่บุตรสาวสามคน ไม่เห็นบุตรชายคนเล็กกลับมา นางจึงถามขึ้น "ฉินเอ๋อ เสี่ยวซื่อล่ะ? เสี่ยวซื่อไม่ได้ขึ้นเขาผ่าฟืนกับพวกเจ้าทั้งสามหรอกหรือ? เหตุใดเสี่ยวซื่อจึงยังไม่กลับมาล่ะ?”
เด็กสาวคนโตอายุสิบเจ็ดปี มีชื่อว่าเหยี่ยนซูฉิ๋น
เด็กสาวคนรองอายุสิบหกปี มีชื่อว่าเหยี่ยนซูเสวี่ย
เด็กสาวคนที่สามอายุสิบห้าปี มีชื่อว่าเหยี่ยนซูอวิ๋น
เด็กสาวทั้งสามถึงวัยปักปิ่นแล้ว แต่กลับไม่มีผู้ใดมาขอแต่งงาน เหตุผลก็ไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะบ้านสายสามของตระกูลเหยี่ยนยากจน กลัวว่าหากแต่งออกไปแล้วจะไม่มีสินเดิมติดตัวมา
สำหรับสตรีผู้นี้ นางก็คือจงซู่ซิน เป็นภรรยาของบ้านสายสามของตระกูลเหยี่ยน
นางจงแต่งให้กับเหยี่ยนป๋อเหวิน ท่านลุงสามแห่งตระกูลเหยี่ยน สามท้องแรกให้กำเนิดเป็นบุตรสาวทั้งหมด ทำให้ท่านผู้เฒ่าเหยี่ยนเหยี่ยนป๋อเสี๋ยน และฮูหยินผู้เฒ่าเหยี่ยนเจียงอิงเยว่เกิดโทสะ เพราะพวกเขาให้ความสำคัญต่อหลานชายมากกว่าหลายสาว แต่ในที่สุดพอท้องที่สี่พวกเขาก็ให้กำเนิดบุตรชาย บุตรชายคนนั้นหน้าตาหมดจด แต่น่าเสียดายที่หางตาด้านขวามีไฝสีแดงสด อยู่ในตำแหน่งที่เรียกว่าไฝรองน้ำตา นายท่านผู้เฒ่ากับฮูหยินผู้เฒ่ากลับมองว่าเขาเป็นคนอาภัพโชค เจ้าหนูน้อยคนที่สี่อายุยังไม่ทันครบหนึ่งปี ท่านลุงสามเหยี่ยนป๋อเหวินกลับมาเสียชีวิต นายท่านผู้เฒ่ากับฮูหยินผู้เฒ่ากลับตัดสินใจว่านางจงและบุตรที่เหลืออยู่นำมาซึ่งความเป็นอัปมงคล จึงขับไล่นางและลูกออกจากตระกูลเหยี่ยน
พอโดนนางจงถาม บุตรสาวทั้งสามของตระกูลเหยี่ยน ก็มองไปทางซ้ายทีและขวาที พึ่งจะรู้ตัวว่าไม่เห็นเงาของเหยี่ยนเสี่ยวซื่อน้องชายคนเล็กแล้ว
พี่รองเหยี่ยนซูเสวี่ยพูดอย่างร้อนรนว่า"น้องชายลงจากเขาแล้วกลับถึงบ้านตั้งนานแล้วไม่ใช่หรอกหรือ?"
นางจงตบต้นขาอย่างกังวล "แม่เกรงว่าเจ้าเด็กนั้นจะมัวแต่เที่ยวเล่นอีกแล้ว"
“ท่านแม่อย่าพึ่งร้อนใจไป ลูกจะไปตามน้องสี่กลับมา”
เหยี่ยนซูฉิ๋นหมุนตัวแล้ววิ่งออกไปข้างนอก
นางกำลังใช้ความคิด ตอนเหยี่ยนเสี่ยวซื่อหิวมาก มักจะไปที่อ่างเก็บน้ำน้ำที่อยู่ห่างจากหมู่บ้านไปห้าร้อยเมตร เพื่อจับปลามาย่างกิน แล้วก็จะวิ่งเที่ยวเตร็ดเตร่ไปยังนอกหมู่บ้าน
ท้องฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อยๆ เปลี่ยนเป็นลำแสงสีเทาเลือนลาง
บนเขื่อนของอ่างเก็บน้ำด้านนอกหมู่บ้าน เด็กหนุ่มรูปร่างกำยำสามคนกำลังยืนล้อมตัวเด็กหนุ่มรูปร่างผอมอายุสิบสามสิบสี่คนหนึ่ง และกำลังใช้กำลังตุบตีรังแก
เด็กหนุ่มรูปร่างผอมมีไฝรองน้ำตาสีแดงอยู่ตรงหางด้านขวา คงเพราะมีไฝรองน้ำตา จึงขับเน้นตาหน้าของเขาให้ดูหมดจด
ข้าจะเตะเจ้าคางคกนี้ให้ตายคาเท้า
เด็กหนุ่มรูปร่างผอมที่โดนทุบจนศีรษะแตก นอนจมกองเลือดอยู่กับพื้น เขาขดตัว มือกุมศีรษะ ร่างกายสั่นเทา
“เหยี่ยนเสี่ยวซื่อ เจ้ายังกล้าหลอกล่อหลิวเชียนเชียนอีกหรือไม่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอสาวน้อย นำช่องอวกาศมาทำนา
รอตดตามอยู่นะคะ...
สนุกๆ แอดมินโปรดม่อัพเดทต่อเรื่อยๆนะคะ...