บทที่ 601 ฮองเฮาผู้ที่แม้ตายก็ไม่สำนึก
ในฤดูหนาวสระบัวล้วนถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ เพราะเกรงว่าเวลามีใครเดินผ่านแล้วไม่รู้ อาจพลัดตกลงไปได้ ดังนั้นจึงมีการล้อมรั้วเอาไว้ด้านนอก
ฮ่องเต้ชิงหยู่ก็ไม่มีที่จะเสด็จไปเช่นกัน ที่นี่เงียบสงบ หากมีเรื่องต้องขอโทษขอโพยกัน เป็นธรรมดาที่ต้องหาสถานที่ที่เงียบๆ ไม่มีคน พระองค์จึงเสด็จมาที่นี่
ฮ่องเต้ชิงหยู่โบกพระหัตถ์ เป็นสัญญาณให้เสี่ยวสวีจื่อลงไป
เสี่ยวสวีจื่อเดินห่างออกไปไกล ไม่คิดอยากรับรู้เรื่องราวอื่นใด ขอเพียงฝ่าบาททรงอยู่ดีไร้ปัญหามากรายกล้ำก็เพียงพอแล้ว
ไม่ว่าแม่ทัพอันจะกล้าหาญเพียงใด เขาก็คงทำอะไรฝ่าบาทไม่ได้หรอกกระมัง?
แม่ทัพอันกล่าวอย่างรวดเร็ว: "ฝ่าบาท หม่อมฉันมีเรื่องเรื่องหนึ่งอยากทูลถาม"
ฮ่องเต้ชิงหยู่ทอดพระเนตรเห็นท่าทีแข็งกร้าวของแม่ทัพอัน พระองค์ก็ไม่ทรงคิดจะปิดบัง เรื่องทุกเรื่องหากปรับทัศนคติดี ๆจนเข้าใจกันได้ ย่อมสามารถให้อภัยกันได้อยู่แล้ว ถึงอย่างไรพวกเขาก็เป็นสหายกัน
"จือซาน เจ้ามาเพราะเรื่องของอ๋องเสียนอย่างนั้นหรือ?" ฮ่องเต้ชิงหยู่ มีพระประสงค์จะอธิบายให้กระจ่าง
แม่ทัพอันโพล่งถาม: "ฝ่าบาทเป็นผู้ลงมือ?"
“ ข้าเองก็ไม่ได้ตั้งใจเหมือนกัน .... ”
แม่ทัพอันเดินอาดๆเข้าไป คว้าจับเข็มขัดหยกที่บั้นพระองค์ของฮ่องเต้ ทำเอาฮ่องเต้ตกพระทัย ยังไม่ทันตรัสเอ่ยคำใด ก็ถูกโยนลงไปในสระบัวทันที
โชคยังดีที่ฮ่องเต้ชิงหยู่ทรงมีทักษะวรยุทธอยู่บ้าง จึงทรงวรกายยืนอย่างมั่นคงบนสระบัวได้ทันท่วงที
แม่ทัพอันสาวเท้าก้าวเข้าไป ฮ่องเต้ชิงหยู่ไม่อาจทรงเสียหน้าเรียกให้คนช่วยได้ ทั้งยังสู้แม่ทัพอันไม่ได้อีก จำต้องตรัสขอประนีประนอมว่า: "จือซาน ข้าก็ไม่ได้ตั้งใจนะ อ๋องเสียนก็เป็นน้องชายของข้าเช่นกัน แต่ไหนแต่ไรข้าเองก็รักใคร่เป็นห่วงเขาเสมอมา วันนี้เขาสั่งขังฮองเฮา ข้าขอคุยกับเขาแล้ว เขาอย่างไรก็ไม่ยอมปล่อยฮองเฮา ข้าเลยพลั้งมือทำร้ายเขา แต่ข้าเองก็กล่าวขอโทษเขาไปแล้ว
หากเจ้าไม่เชื่อ ลองถามอ๋องตวนดูก็ได้ "
เมื่อพูดถึงอ๋องตวน แม่ทัพอันพลันหวนนึกถึง เรื่องที่อ๋องตวนรังแกลูกสาวของเขาขึ้นมาได้
"ฮึ ! รออีกเดี๋ยวหม่อมฉันจะไปหาเขาแน่นอน!" แม่ทัพอัน ไม่ได้คิดจะปล่อยให้เรื่องนี้จบไปง่ายๆแค่นี้อยู่แล้ว
ฮ่องเต้ชิงหยู่ทรงรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง: "จือซาน ข้าเป็นฮ่องเต้ เจ้าคิดจะปลงพระชนม์ฮ่องเต้อย่างนั้นหรือ!?"
"ถือว่าหม่อมฉันปลงพระชนม์ไปเสียเถอะ จากนั้น ฝ่าบาทก็รับสั่งให้ตัดคอหม่อมฉันไปซะ"
"เหลวไหล ข้าเคยพูดไว้แล้วว่า ตราบใดที่ยังมีข้าอยู่ในโลกนี้อีกหนึ่งวัน จะไม่มีวันทำให้ จือซานต้องผิดหวังเสียใจ" ฮ่องเต้ชิงหยู่ชิงหยู่ยังทรงจำได้เสมอว่า หากไม่ได้อันจือซานช่วยชีวิตเอาไว้ครั้งแล้วครั้งเล่า ตนเองคงต้องตายไปเสียนานแล้ว
ไม่พูดถึงเรื่องเมื่อสมัยก่อน แม่ทัพอันก็ยังดีอยู่ แต่พอพูดขึ้นมาเท่านั้นล่ะ แม่ทัพอันก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เดินเข้าไปไม่พูดพร่ำทำเพลง ก็ลงมือต่อยตีทันที ฮ่องเต้ชิงหยู่ทรงทอดพระเนตรเห็นว่าจะถูกตี ย่อมไม่อาจยอมเสียเปรียบเป็นธรรมดา
เพียงชั่วอึดใจ แม่ทัพอันกับฮ่องเต้ชิงหยู่พลันลงมือต่อสู้กันดุเดือด ฮ่องเต้ชิงหยู่ยังทรงสามารถต้านทานได้ระยะหนึ่งในตอนแรก แต่หลังจากผ่านไปไม่กี่กระบวนท่า พระองค์ก็เริ่มล่าถอยอย่างต่อเนื่อง พริบตาที่หมัดอันทรงพลังของแม่ทัพอันเงื้อง่าถลาคำรามเข้ามา ฮ่องเต้ทรงเห็นแล้วว่าหลบอย่างไรก็ไม่พ้นแน่ จึงตัดสินพระทัยประทับยืนนิ่งอยู่กับที่ รอให้หมัดนั้นต่อยเข้ามา ผลสุดท้ายแม่ทัพอันกลับยั้งหมัดนั้นเอาไว้ ไม่ได้ต่อยออกไปใส่ฮ่องเต้
ฮ่องเต้ชิงหยู่ยกพระหัตถ์ขึ้น กุมจับกำปั้นของแม่ทัพอัน กดลงไปยังด้านหน้าพระนาสิก: "แต่ก่อนนี้ อ๋องเสียนเคยทำไม่ดีกับหยุนหยุนมาก่อน ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้าจะห่วงใยใส่ใจเขาได้ถึงเพียงนี้
หลายปีที่ผ่านมา มีเรื่องราวมากมายที่เจ้าไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เจ้ากับข้าไม่อาจเข้ากันได้ไปเสียแล้ว ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าล้วนยืนอยู่ฝั่งเดียวกับข้าหรอกหรือ ? มายามนี้เพื่ออ๋องเสียนแล้ว เจ้ากลับมาหาข้าท้าตีท้าต่อยเช่นนี้ ใจของเจ้าลำเอียงไปถึงไหนต่อไหนแล้วจริงๆ "
แม่ทัพอันหน้าตาบูดบึ้ง มือขวาถูกกุมจับไว้ มือซ้ายพลันกำเป็นหมัด ต่อยเข้าที่พระอุทรของฮ่องเต้ชิงหยู่เต็มหมัด ส่งผลให้ฮ่องเต้ชิงหยู่ทรุดล้มลงกับพื้นไปตรงๆเช่นนั้น
แม่ทัพอันมองจ้องอย่างเย็นชา: "ถ้าไม่ใช่ว่าเห็นแก่เมื่อสมัยก่อน ตำแหน่งแม่ทัพนี้จะขอคืนให้ท่านเสียเลย"
แม่ทัพอันหมุนกายแล้วเดินจากไปทันที ฮ่องเต้ชิงหยู่เจ็บจนแทบจะสิ้นลม หยัดวรกายขึ้นตั้งพระทัยจะเรียกคนมาช่วยพยุง แต่เมื่อคิดไปคิดมา ทรงรู้สึกว่ามันน่าอับอายขายหน้าไปหน่อย อีกทั้งก็ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายหมายชีวิตอะไร จึงสะบัดๆชายเสื้อคลุม แล้วเสด็จออกมาจากในสระบัวราวกับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
แม่ทัพอันเดินโกรธเป็นฟืนเป็นไฟออกไปแล้ว ฮ่องเต้ชิงหยู่จึงเสด็จไปยังวังเฉาเฟิ่ง เพื่อเข้าเฝ้าหวางฮองไทเฮา
ในเวลานี้ ราชครูจุนก็ได้มาถึงวังเฉาเฟิ่งเรียบร้อยแล้ว กำลังรออยู่ในวังเฉาเฟิ่งเช่นกัน
“ เจ้ามาทำไมหรือ?” หวางฮองไทเฮา ทอดพระเนตรเห็นราชครูจุนมีสีหน้าแปลก ๆ
ช่างเป็นเรื่องดีไม่มีใครรู้ พอเป็นเรื่องไม่ดีนี่ แพร่กระจายไปเร็วเป็นพันลี้เสียจริงเชียว!
“ ทูลไทเฮา หม่อมฉันมาเพื่อถามเกี่ยวกับเรื่องของอ๋องเสียนพ่ะย่ะค่ะ” ราชครูจุนเอ่ยถามอย่างตรงประเด็นไม่มีอ้อมค้อม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...