บทที่ 123 การต่อต้านของราชสำนัก
จุดจบของการสร้างความไม่พอใจให้แก่กงชิงวี่ก็นางถูกกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่บนเตียงไปหลายรอบ อีกทั้งยังใช้ทักษะศิลปะการต่อสู้ทั้ง18 ชนิดจนหมดไปแล้วด้วย
อันหลิงหยุนตื่นขึ้นในตอนเช้า เอวและหลังของนางปวดเมื่อยระบมไปหมด แม้กระทั่งการลงจากเตียงยังต้องกินแรง
แต่สำหรับใครบางคน การจับๆ โยนๆ เมื่อคืนนั้นเทียบเท่าได้กับยาชูกำลังขนาดใหญ่ ร่างกายของเขาสบายอย่างยิ่ง
เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกไปก่อนเวลา
อันหลิงหยุนลุกขึ้นและทานข้าว วันนี้นางตั้งใจจะจัดการกับตุ๊กแก ดังนั้นจึงไม่มีแผนออกไปไหน
เมื่อมองไปที่ตุ๊กแก อันหลิงหยุนก็ทำใจไม่ลง แต่ถ้าหากมันไม่ตาย คนที่ตายก็คงจะเป็นฮองเฮาแทน
แม้ว่าฮองเฮาจะเลวร้ายอย่างยิ่ง แต่นางก็ไม่มีความผิดถึงตาย
ทุกคนมีความใฝ่ฝันของตัวเอง คนอย่างเช่นฮองเฮา หากไม่เหี้ยมโหดอยู่บ้าง ตำแหน่งที่นางนั่งอยู่นั้น คงทำมาได้ไม่ถึงวันนี้
คนโบราณมีการต่อสู้แก่งแย่งภายใน แม้ว่าอันหลิงหยุนจะไม่เก่งในการต่อสู้ แต่นางก็รู้เช่นกัน
เกิดในสถานที่เช่นนั้น ย่อมเป็นตัวกำหนดชะตาของชีวิตไปแล้ว โดยเฉพาะสตรี ในราชวงศ์นี้ ถ้าไม่ร้ายกาจสักหน่อย การคิดจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกสักวันยังเป็นเรื่องยาก
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าฮองเฮาไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ สิ่งแรกที่ฮ่องเต้ชิงหยู้จะจัดการก็คือตัวนางเอง ดังนั้นนางจึงไม่กล้าที่จะปล่อยให้ฮองเฮาตาย
นางหยิบมีดเล่มเล็กออกมา อันหลังหยุดตัดใจลงมือ ในขณะที่ด้านหนึ่งลงมืออีกด้านหนึ่งนางก็เอ่ยซ้ำแล้วซ้ำอีก “เจ้าตุ๊กแก ชีวิตในชาติหน้าไปเป็นคนจะต้องไปในที่ที่ดี ชาตินี้ถือว่าได้สะสมคุณธรรมและความดีแล้ว”
หงเถาและลุ่ยหลิ่วพูดไม่ออกไปชั่วขณะ ยามฆ่าขึ้นมาก็ลงมีดอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต หลังจากฆ่าแล้วก็ทนไม่ได้ขึ้นมา
พระชายานั้นช่างแตกต่างออกไปจริงๆ แม้กระทั่งความเมตตากรุณาก็ยังน่ากลัวได้ขนาดนี้
กงชิงวี่กลับมาจากราชสำนักอย่างรวดเร็ว เมื่อเข้าไปในจวนก็เห็นอันหลิงหยุน นางเริ่มทำการแปรรูปตุ๊กแกแล้ว ก่อนอื่นทอดให้เหลืองเข้มด้วยไฟอ่อนๆ แล้วปล่อยให้เย็นเมื่อมีกลิ่น
ในขณะที่กำลังปล่อยให้เย็นลงอันเมื่อหลิงหยุนก็เห็นกงชิงวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ทั้งสองมองไปที่กงชิงวี่ด้วยสีหน้าไร้ความยินดีสักนิด หากแต่เต็มไปด้วยความเศร้าสลด
อันหลิงหยุนวางตุ๊กแกลง จากนั้นจึงหันไปล้างมือ และฝากฝังให้หงเถาและลุ่ยหลิ่วดูมันเอาไว้ จากนั้นนางจึงออกจากห้องไปด้านนอก
วันนี้อันหลิงหยุนขอให้คนมาทำความสะอาดห้อง ห้องหนึ่งถูกจัดไว้เป็นพิเศษในลานโอวหลาน นางกำลังจะเตรียมห้องยาของตัวเอง หากสามารถเชื่อมต่อกับห้องนอนของนางได้ก็จะดีที่สุด
แน่นอนว่าย่อมไม่เชื่อไปถึงห้องนอนของกงชิงวี่ มีเพียงแค่ห้องของนางเท่านั้น
นางเลิกสนใจเรื่องของกงชิงวี่ไปชั่วครู่ แต่นางยังคงต้องเตรียมห้องที่นี่
หลังออกมาอันหลิงหยุนก็เห็นกงชิงวี่ นางโน้มตัวคำนับ “ท่านอ๋อง”
กงชิงวี่อารมณ์ไม่ดี เขาโบกมือให้นาง “ไม่จำเป็น”
“หรือเมื่อคืนท่านอ๋องจะเหนื่อยล้าเกินไป?” อันหลิงหยุนจงใจแกล้งกงชิงวี่ ดังนั้นสีหน้าของเขาถึงค่อยดีขึ้นมา
เขามองไปที่อันหลิงหยุนอย่างเรียบๆ “เนื้อตัวของพระชายาไม่ปวดเมื่อยแล้วหรือ?”
ภัยคุกคาม นี่คือการคุกคามอย่างหมดเปลือก
อันหลิงหยุดหดหู่ลงทันที เมื่อเทียบกับชายหนุ่มแล้ว ร่างกายของผู้หญิงเทียบไม่ได้จริงๆ
คนที่ออกแรงเห็นชัดๆ ว่าเป็นเขา แต่นางกลับยังรู้สึกไร้พลัง
เห็นได้ชัดว่านางถูกจับพลิกไปพลิกมาจนเหนื่อยเกินไป
"ท่านอ๋องทรงครอบงำดุดันมากขนาดนั้น หม่อมฉันจะไม่ปวดได้กระไร ตอนนี้เอวและหลังของหม่อมฉันยังคงปวดเมื่อยอยู่เลย ท่านอ๋องช่วยหม่อมฉันนวดๆ สักหน่อย?” อันหลิงหยุนเดินไปหยุดลงตรงหน้าของเขา จากนั้นจึงจับมือของกงชิงวี่มาวางไว้บนเองของตน กงชิงวี่ทั้งโกรธทั้งฉุน
“สตรีสมควรรักษาจรรยา ช่างไม่ละอาย”
ทันทีที่อาหยูได้ยินเช่นนี้ เขาก็รีบออกไปทันที ไม่กล้าฟังต่อ
อันหลิงหยุนหันหลังกลับคิดจะเดินจากไป แต่กลับถูกกงชิงวี่ขวางเอาไว้ “ปวดขนาดนั้นจริงหรือ?”
เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน กงชิววี่ก็เป็นห่วงอยู่บ้าง เมื่อคืนออกแรงมากเกินไปหน่อย นางสุขภาพไม่ดี อย่าได้เจ็บป่วยขึ้นจริงๆ เลย
อันหลิงหยุนขมวดคิ้ว "ก็ยังพอไหว ข้าเป็นหมอ พักฟื้นสักหน่อยก็ดีขึ้น เพียงแต่จิตวิญญาณนักรบของท่านอ๋อง หม่อมฉันได้แต่ยอมรับความพ่ายแพ้จากใจจริง”
หลังจากได้ยินเช่นนี้กงชิงวี่ก็ค่อยสบายใจขึ้นมา ใบหน้าของเขาสมใจ อารมณ์หงุดหงิดภายในใจสูญสลายไป เมฆหมอกที่ปกคลุมอยู่เกิดเป็นแสงสว่างขึ้นมา
เขาไม่ใช่คนที่ชอบฟังคำพูดยกยอปอปั้น แต่เมื่อฟังจากหญิงสาวผู้นี้แล้วมันกลับแตกต่างออกไป
"ข้ายังต้องขยันให้มากขึ้นอีกหน่อย จะได้ให้กำเนิดทารกได้โดยเร็วที่สุด" กงชิงวี่อารมณ์ดี เขาวางแผนที่จะกลับไปพักผ่อน แต่กลับถูกอันหลิงหยุนขวางเอาไว้
“ท่านอ๋อง เมื่อเช้าท่านกลับมาท่าทางดูไม่ยินดีเท่าไหร่ มีใครในราชสำนักชักสีหน้าใส่ท่านหรือเปล่า?” อันหลิงหยุนตบหน้าอกของกงชิงวี่
ใบหน้าของกงชิงวี่มืดลง "ใครกล้าชักหน้าใส่ข้า แค่ข้าไม่แสดงสีหน้าใส่พวกเขาแค่นี้ก็ดีอย่างยิ่งแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้น เหตุใดท่านอ๋องถึงอารมณ์เสีย?”
“มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากในเขื่อนตูฟางจู้น แต่พวกที่ในยามปกติมีได้รับการยกย่องในเรื่องการอนุรักษ์น้ำเหล่านั้น มาวันนี้กลับกลัวที่จะออกหน้า แต่ละคนล้วนหัวหด ไม่มีใครมีความสามารถมากพอที่จะไปจัดการกับเรื่องเขื่อนตูฟางจู้นได้ ความหวังเดียวของข้าก็คือเสนาบดีกรมโยธาธิการซือคงเสี้ยง แต่เอาก็อ้างว่าเขาแก่และอ่อนแอ ไม่สามารถทำงานที่สำคัญเช่นนี้ได้อีกต่อไป ไม่กล้ารับปากที่จะทำงานนี้ให้ข้าได้ วันนี้ฝ่าบาททรงกริ้วอย่างยิ่ง ชี้หน้าว่าข้าไร้ประโยชน์”
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ กงชิงวี่ก็เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
หลิงหยุนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ "ฝ่าบาทพูดเช่นนี้จริงหรือ?”
“ข้าจำไม่ได้แล้ว” กงชิงวี่จำได้ว่าฮ่องเต้ชิงหยู่เลิกคิ้วและมองเขา แม้ว่าเขาจะไม่ได้เอ่ยชื่อออกมาชัดเจน แต่ความยั่วยุในดวงตานั้นกลับชัดเจนอย่างยิ่ง ราวกับกำลังถามว่า เจ้าเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ก็ยังไม่สามารถจัดการได้ดี น่าอับอายหรือไม่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...