บทที่ 195 พบกันในวังโดยบังเอิญ
เสินหยุนชูไม่ได้รั้งนางไว้ อันหลิงหยุนรู้สึกโล่งใจ จึงหันหลังเดินออกไปข้างนอก
เมื่อนึกถึงว่าต้องเผชิญหน้ากับเสิยหยุนชู นางเองยังไม่ทันได้คิดว่าจะสำรวจเสินหยุนชูกระไรดี จึงได้ออกจากวังเฟิ่งหยีมา
คนในวังมีจำนวนมาก สถานที่ก็กว้างขวาง อันหลิงหยุนเดินดูรอบๆวังเฟิ่งหยีอยู่สักครู่
จริงๆแล้วเป็นเพราะไม่มีที่ไป จึงได้เดินไปทางวังสวยหัว
นางเพียงแค่รู้สึกเบื่อ จึงอยากจะไปหาจุนเซียวเซียว
ยังเดินไม่ทันจะถึง ก็ได้ยินเสียงคนพูดดังมาจากทางด้านหลัง: “คารวะแม่ทัพน้อย”
อันหลิงหยุนหันกลับไปมองคนที่เดินมา แล้วรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง
กลัวอันใดก็เจออย่างนั้นจริงๆ ทำไมถึงเป็นเสินหยุนเจ๋ได้?
เสินหยุนเจ๋แต่งกายด้วยชุดสีแดงขนาดใหญ่ ทำให้เขายิ่งดูหล่อเหลา
ในมือของเสินหยุนเจ๋ถือกระบี่โม่เยอยู่
นางกำนัลคุกเข่าอยู่ที่พื้น เสินหยุนเจ๋เดินตรงเข้ามาหาอันหลิงหยุน
“แม่ทัพน้อย”
อันหลิงหยุนพยักหน้า เสินหยุนเจ๋ยืมมองดุอยู่ตรงหน้าอันหลิงหยุนสักพัก แล้วพูดว่า: “หน้าของท่านเปลี่ยนไปเร็วมาก ก่อนหน้านี้เคยเห็นท่านอยู่บนถนนหนึ่งครั้ง อ้วนจนเหมือนกับลูกบอลแล้ว แล้วทำไมจึงผอมลงเร็วเช่นนี้? หรือว่ากงชิงวี่รังแกท่านหรือเปล่า?”
“หากแม่ทัพน้อยกล่าวเช่นนี้ ถ้าท่านอ๋องของข้ามาได้ยินเข้าคงไม่ชอบใจแน่” อันหลิงหยุนไม่ได้อธิบาย
เสินหยุนเจ๋ไม่อยากปล่อยอันหลิงหยุนไป: “ท่านเป็นห่วงที่เขาติดคุกอย่างนั้นหรือ?”
“แม่ทัพน้อยเวลาพูดจาระวังหน่อย อีกอย่างเรื่องนี้เป็นเรื่องในครอบครัวของคนอื่น แม่ทัพน้อยไม่จำเป็นจะต้องเป็นห่วงแทน ข้ามีธุระ แม่ทัพน้อยกรุณาด้วย”
อันหลิงหยุนหันหลังเตรียมที่จะเดินจากไป เสินหยุนเจ๋ก็เดินตามหลังอันหลิงหยุนไป
อันหลิงหยุนจึงพูดขึ้นว่า: “แม่ทัพน้อยไม่ได้จะไปวังเฟิ่งหยีหรือ?”
“ใช่”
“แต่วังเฟิ่งหยีไม่ได้อยู่ทางนี้เสียหน่อย ข้าจะไปวังสวยหัว คิดว่าแม่ทัพน้อยคงจะไม่ได้ไปวังสวยหัวดอกใช่หรือไม่”
“นั่นก็ไม่แน่ ไปเดินดูหน่อยก็ดี”
เสินหยุนเจ๋พูดพลางก็เดินไปทางวังสวยหัว อันหลิงหยุนพูดออกไปแล้ว ถ้าหากไม่ไป ก็คงจะไม่ดี จึงได้เดินตามหลังไป
ทั้งสองเดินไปด้วยกันอย่างไม่รีบร้อบ
อันหลิงหยุนไม่พูดอันใด แต่เสินหยุนเจ๋กลับพูดไมหยุด
แต่ล้วนแล้วแต่เป็นคำพูดไร้สาระทั้งสิ้น อันหลิงหยุนจึงไม่ได้นำมาใส่ใจ ทำเพียงแค่เดินตามก็พอแล้ว
แต่เป็นกระบี่เล่มนั้นต่างหาก ที่อันหลิงหยุนมองไม่ละสายตา
เสินหยุนเจ๋โยนให้อันหลิงหยุน: “ถ้าเจ้าชอบ ข้าให้”
อันหลิงหยุนมองกระบี่โม่เยที่หล่นลงตรงหน้า กลัวว่าจะหล่นโดนเท้า จึงถอยหลังไปสองก้าว
กระบี่โม่เยหล่นลงบนพื้น ได้ยินเสียงกระทบพื้นหนึ่งครั้ง อันหลิงหยุนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว หันหลังกลับไป เอามือกุมท้องไว้
นางกำนัลและขันทีที่อยู่โดยรอบคุกเข่าลงทันที: “แม่ทัพน้อยโปรดไว้ชีวิตด้วย”
อันหลิงหยุนด่าเสินหยุนเจ๋อยู่ในใจหลายครั้ง จึงรู้สึกคลายความโกรธลง
ไม่เคยพบเคยเห็นคนแบบนี้มาก่อนเลย เกลียดจริงๆ!
ถ้าหากลูกของนางเป็นอันใดขึ้นมาล่ะก็ ได้คิดบัญชีกับเขาแน่ๆ
เสินหยุนเจ๋โน้มตัวลงไปเก็บกระบี่โม่เยขึ้นมา แล้วถามว่า: “ไม่ใช่ว่าเจ้าชอบการรำดาบมาโดยตลอดหรือ ทำไมจึงได้ตกใจขนาดนี้?”
“อดีตก็คืออดีต ปัจจุบันคือปัจจุบัน จะให้เหมือนกันได้กระไร? แม่ทัพน้อยคงจะลืมไปแล้วว่า ข้าสูญเสียความทรงจำ!”
อันหลิงหยุนถอยไปเล็กน้อย แล้วจึงเดินเลี่ยงออกมา มุ่งหน้าไปยังวังสวยหัวต่อ
“จริงๆแล้วเป็นเพราะสูญเสียความทรงจำ หรือเป็นเพราะคนกันแน่ ข้าเองก็ยังไม่แน่ใจ” เสินหยุนชูพูดอย่างมีความหมายแฝง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...