บทที่ 311 ถูกพิษ
อันหลิงหยุนถูกกอดไว้ กลับไม่รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนใด ๆ เพียงมองเห็นกงชิงวี่แสดงทักษะวรยุทธ ก้าวเดินไปอย่างเร่งรีบ นางจึงรู้ว่าจะต้องเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นเป็นแน่
หลังจากตามไปได้หลายกิโลเมตร จู่ๆบนพื้นพลันปรากฏลมกระโชกแรง กงชิงวี่โอบอันหลิงหยุนแน่น หยุดชะงักลงทันที บังเกิดเสียงดังซ่าๆอื้ออึงขึ้นรอบทิศ อันหลิงหยุนพลันตื่นตระหนก รู้สึกว่าบางอย่างไม่ชอบมาพากล จึงลงมาจากอ้อมแขนของกงชิงวี่
นางมองไปรอบ ๆ พวกเขามาถึงสถานที่ที่พื้นเต็มไปด้วยพุ่มหญ้า หญ้าบนพื้นล้วนสั่นไหวไปมาราวระลอกคลื่น สำหรับคนที่ต้องใช้ชีวิตในป่า นอนกลางดินกินกลางทรายเป็นหลักแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะไม่เข้าใจสถานการณ์นี้ แต่อันหลิงหยุนคาดไม่ถึงว่า จะมีงูมากมายมหาศาลถึงเพียงนี้!
"ในประเทศต้าเหลียงมีงูอยู่มากมายเช่นนี้เอง"
อันหลิงหยุนเงยหน้าขึ้นมองกงชิงวี่ เขาจับมือของอันหลิงหยุนไปตามจิตใต้สำนึกโดยไม่รู้ตัว พานางไปซ่อนไว้ข้างหลังตนเอง สีหน้าของเขามืดทะมึน ดำคล้ำเสียยิ่งกว่าความมืดในยามค่ำคืนเสียอีก
“ถึงอย่างไรข้าก็ตามพวกเจ้าจนทันแล้ว ข้าไม่ได้มีเจตนาสร้างความลำบากใจใดๆ ให้แก่พวกเจ้า เพราะเหตุใดพวกเจ้าต้องทำให้ข้าลำบากใจ?” กงชิงวี่กลัวว่า จะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกับอันหลิงหยุน จึงนำตัวนางไปไว้ข้างหลังคอยปกป้อง สายตากวาดมองไปที่พื้นรอบ ๆ
อันหลิงหยุนมองหน้าเขา ในใจรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา
จู่ๆเหล่าพุ่มหญ้าก็นิ่งสงบลงอย่างกะทันหัน กงชิงวี่จ้องมองไปด้านหน้า ไม่มีใครปรากฏตัว แต่งูที่อยู่รอบ ๆ เริ่มล่าถอยออกไป พุ่มหญ้าทั้งหลายกลับมาเอนไหวไปมาอีกครั้ง แต่งูนั้นถอยหนีไปเรื่อยๆ
กงชิงวี่รู้สึกประหลาดใจ หันกลับไปมองอันหลิงหยุนที่อยู่ด้านหลัง ในมือของนางถือปิ่นเงินไว้ เป็นผลให้งูเหล่านั้นหวาดกลัวอย่างมาก จนทั้งหมดต่างถอยร่นไป
กงชิงวี่เริ่มจำปิ่นเงินที่ป๋ายสู้สู้ทิ้งไว้ขึ้นมาได้แล้ว เขาหันกายมองไปรอบ ๆ แล้วจึงมองไปยังอันหลิงหยุน: "สิ่งนี้มีพลานุภาพสยบพวกนั้นได้อย่างนั้นหรือ?"
“อื้ม สิ่งที่สู้สู้ทิ้งไว้ให้ ย่อมต้องเป็นของดีแน่นอนเพคะ”
อันหลิงหยุนพูดพลางพลิกมาเป็นฝ่ายจับมือกงชิงวี่เอาไว้ :“ อย่าอยู่ห่างจากข้านะเพคะ"กงชิงวี่จ้องมองนาง:" “ข้ารู้”
อันหลิงหยุนมองไปด้านหน้า เดินนำกงชิงวี่มุ่งไปเบื้องหน้า เห็นได้ชัดว่างูในพุ่มหญ้าพากันเลื้อยหนีแหวกออกเป็นสองทาง เปิดทางเดินสายหนึ่งให้แก่พวกเขา
อันหลิงหยุนเดินตรงไปตลอดทาง ได้ยินเสียงชราเสียงหนึ่งพูดว่า: "ข้าคาดไม่ถึงจริงๆว่าเจ้าจะมีสิ่งนี้อยู่บนตัวด้วย?"
เสียงชรานั้นแข็งแกร่งทรงพลัง อันหลิงหยุนรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามีบางสิ่งเข้ามาใกล้ พุ่งทะยานเข้ามาเบื้องหน้านางตรงๆ กงชิงวี่คลายมือออก ผลักอันหลิงหยุนไปหลบอยู่หลังตนเอง กระบี่เล่มหนึ่งถูกดีดออกมาจากบนร่างเขา ไม่ทันรอให้ฝ่ายตรงข้ามมาถึงข้างหน้า กระบี่ของเขาก็พลิกกลับไปด้านตรงข้ามแล้ว อีกฝ่ายเห็นว่าได้ผลจึงถอยหลบออกไปอีกครั้ง
ใบหน้าของกงชิงวี่เย็นชา: "ชั่วช้าระยำ! คนของข้าเจ้าก็กล้าแตะต้องเรอะ!"
ชายหนุ่มในเสื้อคลุมแขนกว้างสีเขียว ทิ้งตัวลงห่างออกไปราวสิบจ้าง ที่ข้างกายปรากฏชายชราคนหนึ่งยืนอยู่
ทั้งสองเป็นคนที่ อันหลิงหยุนเคยเห็นมาก่อนหน้านี้ในโลงศพ เมื่อตอนที่ลมร้ายหอบนั้นโหมพัด กงชิงวี่วาดกระบี่ขึ้นมา ชี้ไปยังพุ่มหญ้าข้างกายเขา
“พวกเจ้าเป็นใคร ขวัญกล้าบังอาจมาปรากฏตัวในอาณาเขตประเทศต้าเหลียงของข้า”
“ พูดง่ายๆ ข้าเป็นคนของหุบเขาราชาโอรสเย้าหวางกู่วันนี้ข้ามาเพื่อรับคนผู้หนึ่งกลับไป”
ชายชราพูดพลางหัวเราะเหอะๆ อันหลิงหยุนก้าวไปข้างหน้า: "สู้สู้ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่?"
แม้ว่าชายชราจะอายุอานามมากแล้ว แต่บนใบหน้า กลับไม่มีริ้วรอยเหี่ยวย่นแม้แต่น้อย
อันหลิงหยุนนึกถึงเส้นผมขาวราวปีกนกกระสา ผิวหน้าแดงเปล่งปลั่ง ดูมีเลือดฝาดดุจดังผิวเด็ก จึงเอ่ยถามขึ้น: "ผู้อาวุโส ท่านคืออาจารย์อาของสู้สู้?"
“ สู้สู้ตายไปแล้ว แต่ร่างของนางพวกเราจะนำไป พวกเจ้าไม่ต้องตามมาอีกแล้ว ส่วนเรื่องอ๋องจวิ้นเสี้ยวนั่นเราทำสิ่งที่เราควรทำ
เขาทำกรรมอะไรไว้ ก็สมควรได้รับผลกรรมที่ตามมา อันที่จริง ตระกูลป๋ายก็สมควรตายที่สุดไม่แพ้กัน แต่พวกเรามีเรื่องบางอย่างที่ต้องทำ บวกกับป๋ายจิ้งหย่วนก็ตายไปแล้ว ต่อให้พวกเรากลับมาในภายหลังมันก็ไม่ต่างกัน ”
"เรื่องของจวนอ๋องจวิ้นเสี้ยวข้าจะไม่สืบสาวอีก แต่เห็นแก่หน้าสู้สู้ ข้าพอจะปล่อยพวกเจ้าไปได้ แต่ถ้าพวกเจ้า ยังกลับมาก่อเรื่องวุ่นวายอะไรที่ประเทศต้าเหลียงอีก ข้าจะให้หุบเขาราชาโอรสเย้าหวางกู่นองไปด้วยเลือด! "
กระบี่ในมือของกงชิงวี่ชี้ตรงไปยังชายชรา ชายชราแหงนหน้าหัวเราะฮ่าฮ่า สีหน้ากงชิงวี่หนักอึ้งมืดทะมึน เอ่ยขึ้นว่า "หยุนหยุน ห้ามเดินตามอำเภอใจล่ะ "
“ ท่านอ๋อง อย่าไปเพคะ!”
ตอนที่อันหลิงหยุนหยุดรั้งกงชิงวี่ไว้นั้น กงชิงวี่ก็ได้ฉีกชุดสีดำบนร่างตัวเองออก ไปห่อไว้บนร่างอันหลิงหยุน แล้วจึงโผทะยานตรงไปยังชายชรา
อันหลิงหยุนก้มหน้าลงมองดูชุดสีดำบนร่าง จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองไปยังกงชิงวี่ ตอนที่เขาโจนทะยานออกไป เหล่างูทั้งหลายก็เริ่มเคลื่อนไหวพุ่งเข้าโจมตีเขาแล้ว
อันหลิงหยุนกังวลแทบตายแล้ว นางก้าวเท้าเดินไปข้างหน้า งูที่อยู่บนพื้นต่างก็หลบลี้หลีกหนีกันจ้าละหวั่น แต่ภายใต้แสงจันทร์ในยามค่ำคืนนั้น ยังเห็นได้ว่าพวกมันพุ่งเข้าโจมตีเขา
อันหลิงหยุนก้าวเดินอย่างรวดเร็ว ได้ยินเสียงกงชิงวี่ตะโกนลั่นว่า: "ขึ้นมาไม่ได้นะ!"
อันหลิงหยุนหยุดชะงักลง: "เช่นนั้นท่านต้องระวังนะเพคะ!"
“ ข้ารู้”
เพียงไม่นาน กงชิงวี่ก็ไปถึงตรงหน้าชายชรา พริบตาเดียว ร่างของชายชราและชายหนุ่มก็เข้าล้อมกงชิงวี่ไว้ ทั้งสามคนจึงเกิดการต่อสู้พัวพันกันขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...