ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 413

บทที่ 413 หยุนจิ่นทำเพื่อใครกัน

ผู้เป็นฮูหยินใหญ่จุนเจิ้นหนานหันมาคุกเข่าให้อันหลิงหยุน “เป็นเพราะหม่อมฉันสั่งสอนนางไม่ดี ไม่กี่วันก่อนท่านแม่ของนางถูกท่านพ่อไล่กลับบ้านเดิมไปแล้ว หม่อมฉันยังไม่ทันได้สั่งสอนนาง ไม่รู้ว่านางป่าเถื่อนไม่รู้ความเช่นนี้ได้อย่างไรกัน พระชายาอ๋องเสียนเป็นผู้ใหญ่ใจกว้าง ไว้ชีวิตหม่อมฉันด้วยเถิดเพคะ”

“ช่างเถิด ข้าเองก็ไม่มาวันนี้เพื่อมาคิดเล็กคิดน้อยกับผู้ใด ฮูหยินส่งข้าเพียงเท่านี้ก็พอ” สิ้นคำอันหลิงหยุนจึงได้หันหลังเดินจากไป

เมื่อนางไปแล้วฮูหยินใหญ่จุนเจิ้นหนานจึงได้ลุกขึ้นเดินไปนอกสวนของราชครูจุน แล้วนำเรื่องนี้ไปเรียนให้ราชครูจุนทราบ

ผู้เป็นราชครูตรึกตรองอยู่ครู่หนึ่ง “ห้าสิบไม้จะไปพอได้อย่างไร เพิ่มไปอีกร้อยไม้ ตีให้ตายแล้วโยนออกไปซะ โยนกลับไปบ้านสวามีนางนั่นแหละ ต่อไปภายหน้าห้ามนางกลับมาเหยียบบ้านตระกูลจุนอีกเป็นอันขาด”

“เจ้าค่ะ”

ฮูหยินใหญ่จุนเจิ้นหนานกลับไปสั่งคนให้โบยนางหนึ่งร้อยห้าสิบไม้ ตีเสร็จก็ลากนางไปโยนไว้หน้าตระกูลพระสวามีนาง

จุนซือซือถูกตีจนจวนสิ้นลม เหลือเพียงลมหายใจที่ยังยืนหยัดอยู่ พระสวามีที่นางเพิ่งเสกสมรสด้วยนั้นเดิมทีชอบพอจุนซือซือนัก แต่ในยามนี้หากเขาเห็นนางกลับบ้านไปถูกตีจนสภาพเป็นเช่นนี้ คงไม่ได้รับความโปรดปรานอีก ทั้งยังพลอยโกรธเคืองนางจนหนีไปหอนางโลมและไม่สนใจนางอีกแล้ว

จุนซือซือกัดฟันทนมาได้สามวัน สามวันผ่านไปถึงนับว่ายื้อชีวิตตัวเองไว้ได้

หลายวันนี้อันหลิงหยุนเอาแต่ตกอยู่ในภวังค์ความห่วงหาแม่ทัพอันผู้เป็นบิดา ไม่มีกระทั่งความอยากอาหาร เอาแต่เหม่อลอย และถามอยู่เช่นนั้นว่ายามนี้ถึงที่ใดแล้ว

เจ้ากาดำทุกวันรออยู่บนหลังคาเรือน เนื่องจากอันหลิงหยุนมอบหมายเอาไว้ว่า นับตั้งแต่วันที่แม่ทัพอันออกรบ จะต้องมารายงานสถานการณ์ของแม่ทัพอันทุกวัน ดังนั้นทุกวันเจ้ากาดำจึงต้องมาที่จวนอ๋องเสียนเช้าเย็นครั้งเพื่อส่งข่าวคราว

ทว่าทุกวันก็ล้วนยังเหมือนเดิม ไม่มีความคืบหน้าใด

วันนี้ก็ยังคงเหมือนเดิม อันหลิงหยุนถามกงชิงวี่ว่าแม่ทัพอันถึงที่ใดแล้ว จากนั้นก็รอฟังข่าว

กงชิงวี่เอ่ยถาม “นี่หรือที่เรียกว่าบุตรสาวห่วงหาบิดาห่างพันหลี่”

“ช่างหัวไวเรียนรู้ได้เร็วนัก เหตุท่านอ๋องไม่ไปเป็นท่านอาจารย์เสียเล่า ช่างน่าเสียดายเสียจริง!”

ระหว่างที่ทั้งสองกำลังสนทนากันอยู่นั้นเอง หงเถาก็เข้ามาย่อกายคารวะอยู่ที่หน้าประตู “ท่านอ๋อง พระชายา หยุนจิ่นมาขอเข้าเฝ้าเพคะ”

อันหลิงหยุนหันไปมอง “ให้เข้ามาได้”

“เพคะ”

สิ้นคำหงเถาจึงได้ออกไป ส่วนกงชิงหยู่นั้นก็กลับไปขังตัวเองทำงานอยู่ในห้องหนังสือแล้ว

เท่านี้ก็เพียงพอจะทำให้อันหลิงหยุนพอใจมากแล้ว

ได้อบรมศีลธรรมชำระล้างจิตใจกงชิงวี่ให้สะอาดเช่นนี้ ช่างทำให้นางสบายใจนัก

ทันใดนั้นเอง หยุนจิ่นพลันเดินเข้ามาคารวะอันหลิงหยุน “หยุนจิ่นคารวะเจ้านายเจ้าค่ะ”

“มีเรื่องอันใด” อันหลิงหยุนนั่งลงก่อน ก่อนจะส่งสัญญาณให้หยุนจิ่นนั่งลงตาม

หยุนจิ่นเดินไปนั่งข้างๆ “เจ้านายเจ้าคะ วันนี้แม่ทัพอันไปออกรบได้สี่วันแล้วกระมัง”

“ใช่”

“เจ้านาย ได้จัดเตรียมเบี้ยเลี้ยง เสบียงอาหาร กับพวกของใช้อื่นๆ ของพวกทหารพร้อมสรรพหรือไม่”

อันหลิงหยุนครุ่นคิด “หยุนจิ่น เหตุใดจู่ๆ เจ้าถึงเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมา”

หยุนจิ่นบอกเหตุผลขึ้น “แม่ทัพอันออกรบครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งอื่นๆ ประการแรก ผู้ขนส่งเสบียงเป็นทหารกองหลังของตระกูลจุน ฉะนั้น แม่ทัพอันไปคราวนี้หากพวกกองหลังไม่สนใจความเป็นอยู่เขา นั่นย่อมไม่ดีแน่

อีกทั้งยามนี้ด่านชายแดนกำลังมีเรื่อง หากสงครามสงบลงได้ก็นับเป็นเรื่องดี แต่หากไม่ เกรงว่าประเทศต้าเหลียงจะถูกล้อมรอบด้วยอริศัตรูจนจนมุม ไม่อาจขอความช่วยเหลือได้

ครั้นจะมาจัดเตรียมเอาตอนนั้นก็เห็นจะไม่ทันแล้ว

ก็เป็นอันรู้กันดีอยู่ว่ากองเสบียงต้องล่วงหน้าไปก่อน นี่เป็นเหตุผลที่ต้องเตรียมการตั้งแต่เนิ่นๆ

และครั้นจะเอ่ยถึงด้านราชสำนัก หยุนจิ่นก็ไม่ววางใจ หากกองทัพของตระกูลจุนไม่พอใจราชสำนักกับแม่ทัพอันขึ้นมา เช่นนั้นทัพใหญ่ของแม่ทัพอันก็เป็นอันต้องเดือดร้อนแน่

ออกทัพยามนี้ กว่าจะถึงที่หมายก็คงอีกหนึ่งเดือนให้หลัง ไม่รู้การศึกเป็นเช่นไรบ้าง

หากจะเตรียมเสบียงกันทีหลังเห็นจะไม่ทันการแน่”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน