ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 497

บทที่ 497 ใครที่คอยเป็นผู้หนุนหลังง

ซ่างซูเจิ้งป้อนยาให้นายท่านใหญ่ดื่มด้วยตัวเอง เมื่อวางชามลงแล้วก็ยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดน้ำตา ก่อนจะหันไปเอ่ยถามอันหลิงหยุนอย่างเคารพนบนอบ "อาการป่วยของพี่ชายข้าต้องฉีดยาด้วยหรือ"

"แน่นอนว่าต้องฉีด แมลงนั่นทำลายร่างกายของนายท่านใหญ่จนถึงขั้นร้ายแรงถึงขีดสุดแล้ว ต่อให้ข้าไม่พูด ใต้เท้าซ่างซูก็คงพอจะดูออก ร่างกายของเขาทนไม่ไหวแล้ว ถึงแม้ตอนนี้พวกท่านจะกลั้นใจยิ้มออกมาให้กัน ทว่าร่างกายเขาไม่ไหวแล้วจริงๆ"

อันหลิงหยุนว่าพลางหยิบยาออกมาเตรียมจะฉีดให้เขา

"นี่คือ?" ซ่างซูเจิ้งเคยได้ยินมาว่าพระชายาอ๋องเสียนเป็นหมอเทวดา เล่าลือกันว่าแม้แต่คนที่ตายไปแล้วยังช่วยให้ฟื้นได้ หรือต่อให้อยู่ในหลุมฝังศพ ขอเพียงพระชายาอ๋องเสียนยื่นมือช่วย ก็ย่อมรอดชีวิตกลับมาได้ เขาเองก็เคยคิดอยากไปจวนอ๋องเสียนเพื่อขอร้องพระชายามาช่วยตรวจดูอาการให้อยู่เหมือนกัน

แต่สุดท้ายเขาไม่น่าเชื่อข่าวลือพวกนั้นเลย คนฐานะต่ำต้อยเช่นเขาจะมีปัญญาไปเชิญพระชายามาได้อย่างไรกัน ฉะนั้นเขาถึงได้ละทิ้งความคิดนั้นไปเสีย

ทว่าดูตอนนี้สิ เขายังแทบไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะเป็นจริงไปได้

"เข็มนี้เป็นยาบำรุง ในนี้มีโปรตีน พูดเช่นนี้ ซ่างซูเจิ้งก็คงไม่รู้อยู่ดี แต่ของสิ่งนี้เป็นสิ่งที่กินบำรุงในชีวิตประจำวัน นายท่านใหญ่ล้มป่วยมานานก็ล้วนเป็นเพราะมีแมลงอยู่ในร่างกาย กินอะไรเข้าไปมันก็จะดูดซับเอาไว้ทั้งสิ้น แต่ร่างกายของนายท่านใหญ่ กลับมีแต่จะทรุดลงทุกวัน นายท่านใหญ่ เป็นผู้ชายอกสามศอก แต่กลับถูกพวกมันคอยกัดกินเลือดเนื้อไปทีละนิด ยาเข็มนี้จะฉีดเข้ากระแสเลือดโดยตรง ก็จะสามารถบำรุงให้นายท่านใหญ่ได้โดยตรงเลยทันที หากเป็นไปตามที่ข้าว่ามา แมลงพวกนั้นก็จะค่อยๆ ถูกขับออกมา ท่านก็ไม่เป็นอะไรแล้ว" อันหลิงหยุนแจกแจงอย่างชัดเจน ก่อนจะฉีดยาให้แล้วลุกขึ้นเดินจากไป

สีหน้าซ่างซูเจิ้งฉายแววซาบซึ้งยิ่ง ทั้งยังรีบเรียกคนทั้งบ้านออกมาคุกเข่าโขกศีรษะเป็นการขอบคุณ อันหลิงหยุนจึงรีบพยุงซ่างซูเจิ้งขึ้น พร้อมกับเอ่ยห้ามคนทั้งบ้านเอาไว้

"นี่ก็เย็นมากแล้ว รีบกินข้าวเถิด กินข้าวเสร็จพวกเราก็ต้องไปแล้ว"

"พระชายาคิดจะเสวยอาหารจริงๆ หรือ พี่ชายข้าเป็นเช่นนี้ท่านไม่กลัวติดโรคไปด้วยหรือ" ซ่างซูเจิ้งเอ่ยถามด้วยความสงสัย

"หากข้ากลัวก็ไม่ใช่หมอแล้ว ท่านวางใจเถิด โรคนี้ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเจ้าก็ควรระวังไว้สักหน่อยจะดีกว่า อีกประเดี๋ยวข้าจะตรวจดูอาการให้ทุกคนในจวน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ตกหล่นผู้ใดไป กินข้าวกันก่อน กินเสร็จแล้วเริ่มจากใต้เท้าซ่างซูก่อนเป็นคนแรก"

อันหลิงหยุนเอ่ยเรียบๆ ใบหน้าของซ่างซูเจิ้งแดงก่ำขึ้นด้วยความอับอาย ก่อนจะมองอันหลิงหยุนแล้วเอ่ยขึ้น "ข้าน้อยนึกไม่ถึงว่าพระชายาจะเป็นคนเช่นนี้ เมื่อก่อนข้าน้อยเพียงได้ยินนามพระชายาก็รู้สึกว่าช่างเป็นโชคร้ายนัก มักจะรู้สึกว่าพระชายาเป็นสตรีไร้ยางอาย"

อันหลิงหยุนมองเขาอย่างไม่ยี่หระโดยสิ้นเชิง "ยามเยาว์วัยมักจะทำเรื่องน่าอายไปบ้าง ขอใต้เท้าซ่างซูอย่างได้นึกขัน"

"ข้าน้อยมิกล้า เชิญพระชายาเสวยกระยาหาร"

ซ่างซูเจิ้งเรียกคนมาเข้ามาเตรียมอาหารเย็นทันที

อันหลิงหยุนกำชับแจกแจงอย่างละเอียดว่าควรดูแล นายท่านใหญ่ อย่างไร ทั้งยังบอกให้ระวังเรื่องอาหารการกิน จะต้องกินอาหารรสอ่อนและมีประโยชน์ต่อร่างกาย พร้อมกับเขียนเทียบยาสำหรับบำรุงร่างกายและฆ่าแมลง

หลังจากกินข้าวเสร็จอันหลิงหยุนก็ตรวจร่างกายให้คนในจวนซ่างซูจนเหน็ดเหนื่อยเสียจนหายใจแทบไม่ทัน หลังจากตรวจเสร็จจึงไม่ได้กลับไปในทันที แต่ยังพักผ่อนอยู่ที่จวนต่ออีกครู่หนึ่ง ซ่างซูเจิ้งจึงพาสะใภ้มาอยู่เป็นเพื่อนนาง

ตอนที่กงชิงวี่มาถึงอันหลิงหยุนยังไม่ตื่น ซ่างซูเจิ้งออกไปต้อนรับด้วยตัวเอง พอออกไปถึงหน้าประตูก็คุกเข่าลง พร้อมกับคนทั้งครอบครัว

กงชิงวี่เหลือบตาลงมอง เจิ้งอ๋าว แล้วก็พาลรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย

ยามอยู่ในราชสำนัก เจิ้งอ๋าว ผู้นี้เป็นตาแก่ดื้อด้าน ไม่ว่าจะตอนไหนก็ไม่เคยก้มหัวให้เขาอ๋องเสียนเลยสักครั้ง พวกเขาทั้งสองเป็นคนที่รับมือยากที่สุดแล้ว แม้จะไม่ก้าวก่ายเรื่องงานของกันและกัน ทว่าทุกครั้งที่ สำนักกวงลู่ มีเรื่องอะไรต้องจัดการ เขาก็เพียงไม่เสนออะไรออกมาเป็นใช้ได้ เพราะหากได้เสนอขึ้นมาแล้วล่ะก็ เจิ้งอ๋าวผู้นี้เป็นต้องปฏิเสธอย่างไม่ไว้หน้าเขาให้จงได้

ทว่ากงชิงวี่ก็เห็นว่าคนผู้นี้เถรตรง ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับผู้ใด แต่หากคิดจะให้เขาอยู่ในโอวาทกลับไม่อาจทำได้

หลายครั้งที่เขามักจะรู้สึกว่าคนผู้นี้ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา

ถึงแม้เขาจะฐานะสูงส่ง เป็นผู้สำเร็จราชการแทนองค์ฮ่องเต้แห่งประเทศต้าเหลียง บัญชาการสามแคว้นหกภาคส่วน ทว่าต่อหน้าหลี่ปู้ซ่างซูเจิ้งอ๋าว เขาราวกับเป็นเพียงตัวประกอบเท่านั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน