ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 564

สรุปบท บทที่ 564 ภาษาสัตว์: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน

สรุปเนื้อหา บทที่ 564 ภาษาสัตว์ – ยอดหมอยาของอ๋องเสียน โดย หยูนเยว่

บท บทที่ 564 ภาษาสัตว์ ของ ยอดหมอยาของอ๋องเสียน ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย หยูนเยว่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 564 ภาษาสัตว์

อันหลิงหยุนจิตจึงได้สงบลง อาศัยความกล้าเดินเขาไปถามบุรุษตรงหน้า ก่อนเอ่ยถามว่า “ท่านผู้ยิ่งใหญ่ให้ข้าลองตรวจดูได้หรือไม่”

เฟิงอู๋ฉิงนำมือซ้ายยื่นไปยังอันหลิงหยุน อันหลิงหยุนก็ได้หันไปมองยังข้อมือของเฟิงอู๋ฉิง อีกมืออุ้มเจ้าห้า อีกมือจับไปที่ข้อมือของเฟิงอู๋ฉิง เพื่อจับชีพจร และตรวจร่างกายของเฟิงอู๋ฉิง

เฟิงอู๋ฉิงมองภูเขาที่อยู่ไกลๆอย่างเรียบเฉย และมิได้ตั้งความหวังอันใด เพียงแค่ให้อันหลิงหยุนตรวจสอบร่างกายเท่านั้น

อันหลิงหยุนตะลึงไปครู่หนึ่ง “อากาไอยังไม่ทุเลา ได้รับการบาดเจ็บที่ปอด แต่ทว่าดูท่านผู้ยิ่งใหญ่แล้ว คล้ายกับว่าสาเหตุเกิดจากสภาพจิตใจ”

เฟิงอู๋ฉิงเองก็ตะลึงไปเช่นกัน หมุนกายมองไปยังอันหลิงหยุน อันหลิงหยุนก็ได้คลายมือออก อุ้มลูกไว้และก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว ก่อนเอ่ยว่า“อาการป่วยของท่านผู้ยิ่งใหญ่คือโรคฝีในท้อง หากคิดจะรักษาก็มิใช่ว่าจะไม่มีหนทาง เพียงแต่โรคนี้เกรงว่าเพราะเป็นมานานหลายปี ดังนั้นจึงยากต่อการรักษา

โรคฝีในท้องหากรักษาภายในหนึ่งปี อาการก็จะหายเร็วขึ้น แต่ทว่าหากเกินสามปีแล้ว จากนั้นสามปีต่อมาช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงอาการจักต้องกำเริบเป็นแน่ เช่นนั้นก็ยากที่จะแก้ไขที่ต้นเหตุแล้ว”

เฟิงอู๋ฉิงมองพินิจไปยังอันหลิงหยุนอย่างถี่ถ้วน แม้ว่าจะไม่ใช้เครื่องประทินโฉม แต่กลับมิได้ดูน่าเกลียด

มองที่การแต่งกาย ก็คล้ายกับคนทั่วไป

ขณะที่พามาก็มิได้ขัดขวางเขาที่อาจสังหารพระชายาเสียน

“ตามข้ามาเถิด”

เฟิงอู๋ฉิงหมุนกายเดินไปยังระหว่างภูเขาอันหลิงหยุนไม่สมัครใจ และแน่นอว่าเป็นเพราะนางไม่อยากไป

ภูเขาถูกปกคลุมไปด้วยหิมะที่ขาวโพลนเข้าไปก็คงออกมาไม่ได้ แม้จะตายอยู่ข้างในก็มิอาจผู้ใดทราบ

ทว่านางกลับไม่กลัวคนที่อยู่ตรงหน้าจะทำมิดีมิร้ายกับนาง เขามีรูปลักษณ์เช่นนั้นยังต้องกระทำชำเราผู้อื่นอีกหรือ ไม่ว่าไปที่ใดก็คงมีแต่สตรีที่เป็นฝ่ายขอร่วมเรียนเคียงหมอนเสียอีกกระมัง

ครั้นนางจะไม่ไป ก็มองเห็นดาบที่แหลมคมเล่มนั้นของเขา อันหลิงหยุนก็พลันรู้สึกว่าลำคอเย็นยะเยือกขึ้นมา

ภายใต้ความสิ้นหวัง จึงไม่มีความกล้ามากพอที่จะพาลูกของนางหลบหนีไปได้ อันหลิงหยุนจึงทำได้เพียงตามบุรุษแปลกหน้าเดินไปท่ามกลางภูเขาที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะ

และไม่ทราบว่านานเพียงใด อันหลิงหยุนรู้สึกว่ามิอาจเดินต่อไปได้แล้ว สุดท้ายก็ได้หยุดเท้าลง

ในภูเขามีกระท่อมอยู่หลังหนึ่ง อันหลิงหยุนมองไปที่กระท่อมทั้งร่างก็รู้สึกเจ็บราวกับโดนเข็มทิ่มแทง อากาศเช่นนี้ สถานที่แห่งนี้ จะมีประโยชน์อันใดเล่า มิใช่ว่าจะทำให้นางและลูกแข็งตายหรอกหรือ

เฟิงอู๋ฉิงหยุดอยู่ที่หน้ากระท่อมอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยถาม “มีคนหรือไม่?”

ภายในกระท่อมมิได้มีผู้ใดตอบกลับมา พาให้อันหลิงหยุนก็รู้สึกแปลกใจ เขาถามผู้ใดกัน?

พื้นที่ขาวโพลนด้วยหิมะเดิมทีก็ไม่เหลือร่องรอยความเสียหายอันใด นับประสาอะไรกับร่องรอยว่ามีคน แม้แต่รอยเท้าของสัตว์ยังไม่มีเลย

เฟิงอู๋ฉิงคอยอยู่ที่หน้าประตูครู่หนึ่ง ไม่มีคนตอบรับ เฟิงอู๋ฉิงจึงได้ผลักประตูเข้าไปข้างใน ขณะที่อันหลิงหยุนจะเตรียมก้าวเข้าไปข้างในนั้น ก็พบกับใบหน้าที่เคร่งขรึมของเฟิงอู๋ฉิง “คอยก่อนเถิด”

อันหลิงหยุนยั้งเท้าไว้ ใช้แรงกอดไปที่เจ้าห้า บนร่างสวมเสื้อขนสัตว์ที่ป้องกันความหนาวและกันลมอย่างแน่นหนา แต่นางยังกังวลอีกว่า ออกไปเช่นนี้เกรงว่าลูกของนางจะทนหนาวไม่ไหว

“เจ้าห้า เป็นแม่ที่ไม่ดีเอง ทำให้เจ้าได้รับความทุกข์ยาก เจ้าอย่าได้เป็นอะไรไปเด็ดขาด มิฉะนั้นพ่อของเจ้าได้เอาหัวโขลกตายเป็นแน่!” คิดถึงกงชิงวี่ ใจของนางก็ทุกข์เป็นอย่างมาก

เดิมทีนางคิดอยากที่จะใช้โอกาสช่วงเย็นไปที่คุกหลวงดูสักเที่ยว จึงคิดหาวิธีพาเจ้าห้าไปพบกับกงชิงวี่ เพื่อหลอกลวงพวกคนหูไวตาไว เมื่ออาหยู่พาอันหลิงหยุนมาส่ง ผู้ใดจะรู้ว่าเมื่ออาหยู่จากไปบุรุษผู้สวมชุดแดง ก็ได้ลักพาตัวนางมาแล้ว

ขณะที่กำลังคิด เฟิงอู๋ฉิงก็ได้เดินออกมาจากในห้อง เมื่อการป่วยกำเริบ ก็ไอออกมาสองครั้ง อันหลิงหยุนก็เงยหน้าขึ้นไปมอง

ชายหนุ่มเดินออกมาจากห้องและได้ปิดประตูก่อนเดินออกมา อันหลิงหยุนรู้สึกได้ว่าคนผู้นี้พิลึกไปเสียหน่อย มาที่นี่ ต้องการที่จะหาคนอันใดกัน เมื่อทราบดีว่าไม่มีผู้ใดอยู่ ยังคงต้องการที่จะเข้าไปดูอีก

คนเราก็เป็นเช่นนี้ เมื่อสูญเสียไปจึงได้รู้จักทะนุถนอม แต่มีคนไม่กี่มากน้อยมิใช่ว่าหันหลับมาก็สายเกินไปแล้วหรอกหรือ!

เฟิงอู๋ฉิงเดินออกมา ก็ได้ปิดประตูที่ทำจากไม้ และพาอันหลิงหยุนจากไป

อันหลิงหยุนใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวลใจ “ท่านผู้ยิ่งใหญ่ ลูกของข้าต้องกินนม”

“เจ้าป้อนนมเถิด”เฟิงอู๋ฉิงมิอาจหยุดยั้งสตรีที่ต้องการให้นมแก่ลูกนางได้

อันหลิงหยุนกลับมีท่าทีลำบากใจ “ท่านผู้ยิ่งใหญ่ ร่างกายของข้าไม่ค่อยดี พอให้กำเนิดบุตรก็ไม่มีน้ำนม ชายหนุ่มที่บ้านข้าก็ได้เตรียมนมไว้ให้ข้า เพราะฉะนั้นลูกของข้าจึงได้ดื่มนมวัวเพคะ”

เฟิงอู๋ฉิงเหลือบมองไปที่อันหลิงหยุน กล่าวอย่างอดรนทนไม่ไหว “นมของเสือดื่มหรือไม่?”

อันหลิงหยุนถูกทำให้โมโห ไหนเลยจะใช้นมจากเสือ?

อันหลิงหยุนที่ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้น ก็มิได้อุ้มเจ้าห้าไว้ เจ้าห้าจึงร่วงลงไป เมื่ออันหลิงหยุนร้องขึ้น เสือก็ได้คาบเจ้าห้าเอาไว้และวิ่งหนีไป

อันหลิงหยุนจึงได้รีบวิ่งตามไป ชั่วพริบตาเดียวเสือก็ทะลวงเข้าไปในถ้ำเสือ

อันหลิงหยุนไม่สนใจ กระโจนตามเข้าไปในถ้ำ

เฟิงอู๋ฉิงยืนอยู่ที่ทางเข้ามองไปอยู่พักหนึ่ง ก็หมุนกายจากไป

เมื่ออันหลิงหยุนเข้ามาในถ้ำเสือก็เอาแต่ตะโกนร้องไม่หยุด “ถ้าเจ้าอยากกินมากินข้า ข้าไม่ยอมให้เจ้ากินลูกของข้า ไม่เช่นนั้นข้าจะฆ่าเจ้า”

ขณะนั้นอันหลิงหยุนใกล้จะเสียสติไปแล้ว นางเสียใจอย่างสุดซึ้งจริงๆ

แต่เมื่อนางวิ่งเข้าไปข้างใน ท่ามกลางความมืดมีดวงตาสองคู่ที่คล้ายกับหลอดไฟ แสงสีเขียวก็ได้ลอยขึ้นมามองไปยังนาง

อันหลิงหยุนตะโกน “เจ้าห้า”

ทว่าเจ้าห้ามิได้ตอบกลับ อันหลิงหยุนจึงได้นำไม้ขีดไฟออกมาจุด พลางมองไปยังภายในถ้ำ ภายในถ้ำมีก้อนหินใหญ่อยู่ก้อนหนึ่ง เจ้าห้าก็อยู่ที่นั่น กำลังมองมาที่นาง

เสือตัวใหญ่นอนตะแคงข้างอยู่ กำลังเลียเสือตัวเล็กอยู่ เสือตัวเล็กคล้ายกับเพิ่งเกิดได้ไม่นาน สูงพียงสามสิบกว่าเซนเท่านั้น กำลังนอนกินนมอยู่ที่ท้องของเสือตัวใหญ่

เสือได้อ้าปาก ร้องคำรามอยู่สองที พาให้อันหลิงหยุนตะลึงงัน “เจ้าบอกว่าเจ้าห้าคือเจ้านายของเจ้า?”

ทันใดนั้นหน้าที่ดุร้ายของเสือก็น่ารักขึ้นมาหลายส่วน ก้มหน้าเลียไปที่เสือตัวน้อย

อันหลิงหยุนมองไปที่เจ้าห้าที่ไม่เป็นอะไรแม้แต่น้อย จึงได้ระมัดระวังและขยับเข้าไปใกล้ เมื่อก้าวไปยังด้านหน้าของเจ้าห้า เสือก็ยังคงอยู่ตรงนั้นเพื่อให้นมลูกของมัน

อันหลิงหยุนอุ้มเจ้าห้าขึ้นมาและกล่าวขอบเจ้าอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า

“เช่นนั้นข้าไปก่อนล่ะ”อันหลิงหยุนมิกล้าที่จะหยุดพัก นั่นคือเสือมิใช่นกกา หากเปลี่ยนใจก็จะเกิดเรื่องยุ่งยากตามมา

เดิมนางคิดว่าเพียงแค่ฟังภาษาของนกการู้เรื่อง คาดไม่ถึงว่าจะสามารถฟังภาษาสัตว์รู้เรื่องอีกด้วย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน