ตอน บทที่ 571 เป็นภัยต่อผู้อื่น จาก ยอดหมอยาของอ๋องเสียน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 571 เป็นภัยต่อผู้อื่น คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ ยอดหมอยาของอ๋องเสียน ที่เขียนโดย หยูนเยว่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
บทที่ 571 เป็นภัยต่อผู้อื่น
จุนโม่ซ่างถูกจับตัวไปแล้วยังอยู่ในอาการมึนงง ถังหลงร้องว่าถูกใส่ร้ายอย่างเอาเป็นเอาตาย ขอร้องให้ฮ่องเต้ชิงหยู่ให้อภัย แต่เหมือนฮ่องเต้ชิงหยู่จะไม่ได้ยินอย่างไรอย่างนั้น ไม่ไว้หน้าแก่หวูโยกั๋วแน่นอน
จุนโม่ซ่างถูกจับตัวไป กงชิงวี่ก้มตัวลง พูดขึ้นว่า “กระหม่อมทูลลา”
กงชิงวี่เดินออกไปแล้ว ฮ่องเต้ชิงหยู่จึงมองไปที่ราชครูจุน “ท่านราชครู สองประเทศเปิดศึก ท่านมีอะไรจะคัดค้านหรือไม่”
ราชครูจุนพูดว่า “ฮ่องเต้ อ๋องเสียนเป็นคนเก่งและมีคุณธรรมในการดูแลบ้านเมือง ก่อนหน้านี้เป็นเพราะเรื่องหวูโยกั๋วใช้กองกำลังประชิดชายแดนทำให้ต้องเข้าไปอยู่ในคุกหลวง ในเมื่ออ๋องเสียนเรียกร้องให้สองประเทศเปิดศึก แน่นอนว่าศึกครั้งนี้ต้องมอบให้อ๋องเสียนไปรบ
ตอนนี้อ๋องเสียนก็ได้มีบัญชาส่งทหารไปยังชายแดน เตรียมทำศึก เช่นนั้นอ๋องเสียนย่อมมีแผนการแน่นอน
แต่ตอนนี้เป็นฤดูหนาว เสบียง เสื้อกันหนาว ยา บางส่วนคงต้องจัดเตรียมแล้ว
แต่ประเทศต้าเหลียง แม้ในระยะเวลาสั้นๆที่ผ่านมาท้องพระคลังจะมีรายได้มากขึ้น แต่เงินเพียงเท่านี้ เกรงว่าจะไม่พอสนับสนุนกับความต้องการสำหรับการสู้รบกับทหารห้าแสน”
“ท่านราชครูพูดได้ถูกต้อง ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นก็เรียกตัวอ๋องเสียนเข้ามา”
กงชิงวี่ส่งอันหลิงหยุนไปยังวังเฉาเฟิ่งแล้วหมุนตัวกลับไปยังพระตำหนักเจิ้งซวน เขาไม่ได้ไปไหนไกล
เข้าไปในตำหนักกงชิงวี่ก็เดินไปรับบัญชาข้างหน้า สุดท้ายตำแหน่งซื่อเจิ้นก็ยังเป็นของเขา ส่วนเรื่องถัดมา คือเรื่องที่จะเปิดศึกอย่างไร
ฮ่องเต้ชิงหยู่รู้สึกลำบากใจ“ทหารทั้งสองฝ่ายสู้รบ เสบียงต้องไปก่อน เจ้าประกาศศึกตอนนี้ ได้เตรียมการไว้พร้อมแล้วหรือ ”
“ทูลฮ่องเต้ เสบียงกำลังอยู่ระหว่างการจัดเตรียม ส่วนเรื่องอื่นๆในการเปิดศึกข้าได้เตรียมการไว้พร้อมแล้ว ต่อไปจะเป็นเรื่องเวลาที่กองทัพจะเคลื่อนพลไปถึงชายแดน
ก่อนหน้านี้กระหม่อมได้รับรายงานจากมี่ท่านซือมาแล้ว และเป็นครึ่งเดือนก่อนหน้านี้ ครึ่งเดือนที่ผ่านมากระหม่อมได้เตรียมการไว้พร้อมมากพอแล้ว ที่ชายแดนมีเวลาหนึ่งเดือนที่หวูโยกั๋วจะไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม เพียงพอให้กองทัพของเราไปถึงทันเวลา บวกกับการกระทำของจุนโม่ซ่าง ครั้งนี้กระหม่อมจะต้องให้หวูโยกั๋วยกเมืองถ่าถ่างมาให้ได้ อีกทั้งยังต้องส่งภาษีติดต่อกันสิบปี เช่นนี้ก็จะคลี่คลายเรื่องการจัดเก็บภาษีของประเทศต้าเหลียงของเราด้วย ”
“……”พอได้ยินเรื่องการจัดเก็บภาษี ดวงตาของฮ่องเต้ชิงหยู่ก็เป็นประกาย เดิมทีสีหน้าที่เคร่งขรึมก็ค่อยๆอบอุ่นขึ้น เหมือนกองเงินส่องประกายวางอยู่ในทิศของหวูโยกั๋วอย่างไรอย่างนั้น รอแค่กองทัพของพวกเขาไปถึงแล้วขนกลับมา
ฮ่องเต้ชิงหยู่สะกดกลั้นความตื่นเต้นในใจ แกล้งทำเป็นจริงจังและถามขึ้นว่า “คำพูดนี้ของเจ้าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้”
“มิได้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมแต่ไหนแต่ไรไม่เคยคุยโม้โอ้อวด จุดนี้ฮ่องเต้ทรงเข้าใจดี ”กงชิงวี่พูดเช่นนี้ แม้แต่ราชครูจุนยังรู้สึกว่าสมควรทำศึกครั้งนี้แล้ว
หนึ่งคือมีหน้ามีตา หวูโยกั๋วใช้วิธีสกปรกในการรุกรานเข้ามา ไม่สามารถให้อภัยได้เด็ดขาด สองคือจะสามารถเก็บภาษีได้สิบปี ยังสามารถแก้ไขปัญหาใหญ่ของประเทศต้าเหลียงได้อีกมาก
“ฮ่องเต้ หากสามารถจัดเก็บภาษีเพิ่มได้สิบปี สงครามนี้ก็รบได้”ราชครูจุนเอ่ยขึ้น ลูกศิษย์ของเขาต่างก็กล่าวขึ้นอย่างระมัดระวัง ฮ่องเต้ชิงหยู่คร้านจะสนใจคนเหล่านั้น กลับมองไปยังเสินเฉิงเสี้ยง
พ่อตาของเขาคนนี้ก็ช่างเป็นคนขี้ขลาด อย่างน้อยก็น่าจะพูดสักคำ
“ท่านเฉิงเสี้ยงคิดเห็นอย่างไร”
เสินเฉิงเสี้ยงครุ่นคิดอยู่สักครู่ “ทูลฮ่องเต้ กระหม่อมก็เห็นด้วยกับการสู้รบ แม้จะไม่มีภาษีให้เก็บสิบปี แต่สงครามครั้งนี้ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็ต้องรบ
หวูโยกั๋ววางแผนจะยึดครองพื้นที่ของประเทศต้าเหลียงของเรา หากไม่สู้ ก็เพียงแต่ใช้เรื่องการแต่งงานบรรเทาเรื่องที่กองทัพประชิดชายแดนบีบบังคับประเทศต้าเหลียงของเรา ต่อหน้าคือทั้งสองประเทศญาติดีต่อกัน แต่ประเทศต่างๆทั้งสี่ทิศ มีใครบ้างไม่รู้ว่าประเทศต้าเหลียงเสียเปรียบเข้าให้แล้ว ถูกบีบให้ส่งหญิงสาวเพื่อเป็นสิ่งของขอความเห็นใจจากหวูโยกั๋ว แล้วเราจะมีหน้ายืนหยัดอยู่ได้อย่างไร ”
ฮ่องเต้ชิงหยู่เงียบไปนาน กว่าจะพูดขึ้นว่า“ที่เฉิงเสี้ยงพูดก็ถูก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ แม้ข้าจะต้องใช้กำลังทั้งหมดที่มี ก็จะไม่ให้อภัยเด็ดขาด”
“ฮ่องเต้ทรงพระปรีชายิ่งนัก……”
“ฮ่องเต้ทรงพระปรีชายิ่งนัก……”
เหล่าขุนนางต่างทยอยคุกเข่าลง กงชิงวี่มองไปยังฮ่องเต้ชิงหยู่ พี่น้องประสานสายตา ฮ่องเต้ชิงหยู่มองกงชิงวี่อย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นักลุกขึ้นและพูดว่า “เรื่องสงครามกับหวูโยกั๋ว มอบให้อ๋องซื่อเจิ้นจัดการ ทั้งหมดมอบให้อ๋องซื่อเจิ้นระดมพล กำลังพลทั้งหมดของตระกูลชิงต้องฟังคำสั่งถ่ายโอน เลิกประชุม”
ฮ่องเต้ชิงหยู่หมุนตัวจากไป เหล่าขุนนางต่างชื่นชมพระปรีชาสามารถของฮ่องเต้ชิงหยู่ กงชิงวี่มองไปแวบหนึ่งลุกขึ้นแล้วมองไปยังเหล่าขุนนาง เหล่าขุนนางต่างเอาราชครูจุนเป็นหลัก ราชครูจุนไม่พูดอะไร คนอื่นๆก็ทยอยคำนับแล้วจากไป
กงชิงวี่ออกจากพระตำหนักเจิ้งซวนที่หลัง พร้อมกันกับราชครูจุน
“ท่านราชครูมีเรื่องอะไร”
“ไยท่านอ๋องต้องถามทั้งที่รู้ดีแก่ใจ”ราชครูจุนรู้สึกหดหู่ใจมาก ก่อนหน้านี้ก็มีบางเวลาที่ไม่ได้พบหน้าฮูหยินรอง แต่ส่วนมากเป็นราชครูจุนที่ยุ่งอยู่กับเรื่องการบ้านการเมือง ไม่มีเวลาไปดูแลเลย แต่หลายปีที่แก่ตัวมานี้ ทุกครั้งที่มีเรื่องราว เขาจะต้องไปดูฮูหยินรอง บางครั้งก็คิดถึงแต่เรื่องเหล่านั้นในช่วงที่ยังเป็นหนุ่มสาว ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกถึงขั้นว่าไม่สามารถจะจากลากันได้
หลังที่ฮูหยินรองไปอยู่ที่จวนอ๋องเสียน ราชครูจุนก็ยิ่งคิดถึง แค่คิดถึงก็แล้วไปเถอะ พอคิดว่าฮูหยินรองจะชื่นชอบจวนอ๋องเสียนเข้าให้แล้ว ไม่เต็มใจจะกลับจวนราชครู
ไห่กงกงกลับไปถึงวังเฉาเฟิ่ง หวางฮองไทเฮากำลังรออยู่ที่ประตู ไห่กงกงรีบเข้าไปคำนับ“ไทเฮา”
“เป็นอย่างไร สอบถามได้ความหรือไม่”
“สอบถามแล้ว พระชายาเสียนจะหาเมียทาสที่มีตำแหน่งให้อ๋องเสียน บอกว่าเป็นการคลายเครียดให้กับอ๋องเสียนช่วงที่ร่างกายไม่เรียบร้อย เห็นว่าพอใจองค์ชายหวูโยกั๋ว แต่องค์ชายของหวูโยกั๋วยังไม่มีลูกสาว คิดอยากจะกำหนดเรื่องแต่งงานไว้ก่อน จึงทำให้องค์ชายหวูโยกั๋วโกรธมาก องค์ชายของหวูโยกั๋วลงไม้ลงมือกับพระชายาเสียน”
ที่ไห่กงกงสอบถามมาได้ก็มีเท่านี้
หวางฮองไทเฮาตอบรับหนึ่งเสียง ยื่นมือให้ไห่กงกง ไห่กงกงรีบจับมือของหวางฮองไทเฮาไว้มั่น เดินไปตามทางข้างหน้า
“ไทเฮา ทรง……”
“มีพวกเขาอยู่ ข้าสามารถสบายใจได้แล้ว รออีกไม่กี่วัน ฤดูใบไม้ผลิดอกไม้ผลิบาน ไปรับพวกเด็กๆมา……”
หวางฮองไทเฮาลังเลอยู่สักครู่ “เจ้าว่า หากรับแค่เจ้าห้ามา จะดีหรือไม่”
“ไทเฮาเกรงว่าซื่อจื่อห้าจะไม่ดีใจหรือ”ไห่กงกงเอ่ยล้อเล่นขำๆ
หวางฮองไทเฮาเอ่ยอย่างกังวลใจว่า “เจ้าว่าแปลกหรือไม่ เด็กตัวเล็กๆแค่นั้น เจ้าดูนิสัยของเขาสิ ช่าง……เหมือนใครกันนะ”
“ดูไม่ออก แม้แต่อ๋องเสียนของพวกเราตอนเด็กๆก็ไม่ได้เป็นเช่นนี้ แต่ถ้าพูดถึงพระชายาเสียน นางก็ไม่เหมือน”
“นางอาจไม่ได้ใจดีก็ได้ ข้ารู้สึกยินดียิ่งนัก นี่หากไปเกิดอยู่ประเทศอื่น หรือว่าแต่งให้กับราชนิกุลนั้นแล้วละก็ จะเป็นภัยต่อประเทศต้าเหลียงของเรา”
“ไทเฮากล่าวเกินไปแล้ว”
“……”
หวางฮองไทเฮามองไห่กงกงอย่างไม่ตั้งใจ “หึ เจ้ามันเกลือเป็นหนอน นางทำให้เจ้ามีภัยได้ แล้วจะไม่เป็นภัยกับคนรอบตัวได้อย่างไร”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...