ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 771

บทที่ 771 คนในภาชนะคือนางจริง ๆ

ฮ่องเต้หนานอี้กินโจ๊กไปแล้วค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เห็นผู้หญิงตรงหน้าจมดิ่งสู่อดีต เขานึกว่าหญิงตรงหน้าเขาก็คือเฟิ่งป่ายซู คือผู้หญิงที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากเขา สวมชุดคลุมสีเหลืองสดใส แต่กลับเย็นชาเป็นอย่างมาก

"ซูซู...” ฮ่องเต้หนานอี้ซึ่งได้สติกลับมาใช้เวลาอยู่นานกว่าจะเอ่ยปากเรียกนาง แต่เดิมทีเขาก็เลอะเลือนอยู่ สุดท้ายได้เรียกหรือไม่ได้เรียกก็รู้สึกไม่ค่อยชัดเจนนัก

อันหลิงหยุนรู้สึกหดหู่ "อ้าปากกินข้าวเพคะ ไม่กินข้าวจะหิวตายนะเพคะ!"

คิ้วของฮ่องเต้หนานอี้ขมวดย่น ทั้งน้ำเสียงและรูปลักษณ์ล้วนเหมือนกัน เขาตาลายขึ้นมาอีก จึงทำได้เพียงพยายามให้ความร่วมมืออย่างดีที่สุดเท่านั้น

อันหลิงหยุนพูดคำไหน ฮ่องเต้หนานอี้ก็ว่าตามนั้น ไม่กล้าพูดอีกเลยแม้สักคำ ให้เขากิน เขาก็อ้าปากค่อย ๆ กินอย่างช้า ๆ ทันที ขณะกินไปก็ยังเฝ้ามองอย่างระมัดระวังไปด้วย

อันหลิงหยุนให้เขากินโจ๊กไปหนึ่งถ้วย เขากินโจ๊กถ้วยหนึ่งไปอย่างว่าง่าย หัวใจเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น ในดวงตาของเขาล้วนเป็นใบหน้าเฉยเมยนั้นของเฟิ่งป่ายซู

อันหลิงหยุนนำยามาให้เขา ให้เขาดื่มลงไป ยาชนิดนั้นขมมาก ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้ปกครองประเทศแห่งหนึ่ง แต่เขาก็ไม่ชอบสิ่งที่มีรสขมฝาดเอาเสียเลย เพียงแต่ครั้งนี้เขาเต็มใจโดยไม่มีคำปฏิเสธสักคำ

ปกติหากเป็นยาที่หมอหลวงสั่ง ตอนที่กินมักจะไม่เต็มใจ

หลังจากดื่มยาฮ่องเต้หนานอี้ก็เหม่อไปทางอันหลิงหยุนอยู่บนเตียง "ซูซู เจ้ายกโทษให้ข้าแล้วหรือ?"

"ท่านดีขึ้นก่อนแล้วค่อยว่ากันเถอะเพคะ" อันหลิงหยุนลุกขึ้นและออกไปดูกงชิงวี่ เขากำลังดื่มชาระหว่างรอ สบายอกสบายใจซะจริง

"ท่านอ๋อง ดื่มชาแต่เช้าเชียว ใครให้ท่านกัน?" อันหลิงหยุนสีหน้าไม่พอใจ ขยับถ้วยชาออกไปด้านข้างอย่างไม่สบอารมณ์ ตอนนี้เองกงชิงวี่ถึงได้ลุกขึ้น

พวกเขาก็ควรไปได้แล้ว

ซูมู่หรงขวางพวกเขาสองคนเอาไว้ทันที “พวกเจ้าห้ามออกไป ขณะนี้เสด็จพ่อของข้าเป็นเช่นนี้ พวกเจ้าจะนิ่งดูดายไม่ได้ ข้าเองก็ช่วยพวกเจ้าเอาไว้ครั้งแล้วครั้งเล่า อย่าลืมสิว่า นำสิ่งของไปจากข้าตั้งมากมายเท่าไร”

ใบหน้าอันหลิงหยุนดำมืด "เจ้ามีหลักฐานหรือ?"

“หลักฐานน่ะแน่นอนว่าข้ามีอยู่ เพียงกลัวว่าเจ้าเห็นแล้วจะตกใจแย่ เดี๋ยวข้าจะเอามาให้พวกเจ้าดู อย่างไรพวกเจ้าก็อยู่ต่ออีกสักไม่กี่วัน ไม่กี่วันหลังจากนั้นเมื่อเสด็จพ่อของข้าไม่เป็นไรแล้ว พวกเจ้าค่อยไปก็ยังไม่สาย เป็นอย่างไร?”

อันหลิงหยุนทนซูมู่หรงไม่ไหว หันกลับไปมองฮ่องเต้หนานอี้วูบหนึ่ง นางถามความเห็นของกงชิงวี่ "ท่านอ๋องเห็นว่าอย่างไร?"

"ก็ดี ข้ายังมีบางอย่างที่ต้องจัดการอยู่ หากสามารถจัดการได้ก็จะดีที่สุด แต่ก็ขึ้นอยู่กับความจริงใจขององค์ชายสามแล้ว มีความจริงใจก็แน่นอนว่าอยู่ต่อได้"

ซูมู่หรงรู้สึกขัน "กงชิงวี่ ดูไม่ออกว่าเจ้าจะปลิ้นปล้อนถึงเพียงนี้?"

"ปลิ้นปล้อนเป็นธรรมชาติของข้า เจ้าเพิ่งจะรู้จักข้าเพียงไม่กี่วัน" กงชิงวี่หน้าตาไม่แยแส อันหลิงหยุนที่มองอยู่ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี มีคนเช่นนี้อยู่ที่ไหนกัน แล้วยังมีพฤติกรรมเช่นนี้อีก

ไม่เพียงยียวนกวนโมโห แต่ยังทำให้ผู้คนโมโหเจียนตายอีก?

ซูมู่หรงหน้าตาไม่แยแส "เจ้าว่ามา ข้าจะฟังที่เจ้าพูด ประเทศต้าเหลียงของเจ้าผืนดินแร้นแค้นไม่ไร้พืชผล เจ้าต้องการเงินทองหรือที่ดิน หรือต้องการให้ข้ารับปากว่าจะไม่โจมตีประเทศต้าเหลียงของเจ้า?"

"จะโจมตีประเทศต้าเหลียงของข้าเจ้าก็ต้องมีเหตุผล เจ้ามีสิทธิอะไร? ประเทศต้าเหลียงของข้ากับหนานอี้ของเจ้ากั้นกันไว้ด้วยภูเขาลูกใหญ่ เจ้าข้ามภูเขาลูกใหญ่นั่นไปได้ค่อยว่ากัน ยิ่งกว่านั้นเราก็ต่างคนต่างอยู่ เจ้าจะเอาอะไรมาโจมตีข้า?

ข้าไม่ทำการค้าที่ขาดทุน มองเพียงปัจจุบัน ไม่มองอย่างอื่น"

“เจ้ากล่าวเช่นนี้ต้องการให้ข้าเลิกไล่ตามหลิงหยุนหรือ?”

“น่าขัน หลิงหยุนเป็นภรรยาของข้า เจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะไล่ตาม และข้าก็ไม่มีทางโอกาสนี้แก่เจ้า ตอนนี้เจ้าเป็นพี่สามของหลิงหยุน ข้ากับเจ้ายังนับเป็นญาติกันอยู่” กงชิงวี่ยิ้มมุมปาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน