ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 864

บทที่ 864 การเปลี่ยนแปลงของซูมู่หรง

ฮ่องเต้หนานอี้ทรงพูดคุยกับซูมู่หรงหลายเรื่อง จากนั้นจึงทรงเข้าบรรทม แต่ซูมู่หรงกลับนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน

เมื่อลุกขึ้นในตอนเช้า ขณะที่ซูมู่หรงเพิ่งจะก้าวออกมาจากห้อง ก็เห็นเด็กๆ สี่คนอยู่ในลาน เจ้าสามยืนอยู่ด้านหลัง เมื่อเห็นเขาก็เบ้ปากอย่างทำตัวไม่ถูก

ในลานมีอาหยู่และเฟยยิงยืนอยู่ รวมไปถึงสองสาวใช้หงเถากับลุ่ยหลิ่วด้วย

ซูมู่หรงยืนเอามือไขว้หลัง แล้วจึงถามขึ้นว่า : “พวกเจ้าตื่นเช้าขนาดนี้ คงไม่ได้คิดที่จะมาไล่ข้าไปหรอกใช่ไหม หรือคิดที่จะมารุมข้า ?”

“แน่นอนว่าพวกเราไม่ได้มารุมท่าน ท่านแม่บอกว่าท่านเป็นอาจารย์ของนาง พวกเราเองก็ต้องเรียกท่านว่าอาจารย์ปู่” เจ้าสามพูด “ท่านแม่บอกว่าคนเราต้องรู้จักยอมรับผิดและกล่าวขอโทษ”

“อย่างนั้นหรือ ?” ซูมู่หรงหันมองเจ้าสาม รู้สึกยอมรับในตัวของเด็กคนนี้จริงๆ ! อันหลิงหยุนสอนได้ดีจริงๆ

เมื่อมองเจ้าสามอยู่สักพัก ซูมู่หรงก็เอ่ยถามขึ้นว่า : “ถ้าเช่นนั้นพวกเจ้ามาทำอะไรกัน คงจะไม่ได้ลุกขึ้นมาสูดอากาศหรอกใช่ไหม แบบนั้นดูจะบังเอิญเกินไปแล้ว ?”

“อาจารย์ปู่ พวกเรามาเพื่อขอโทษ เมื่อวานน้องสามทำร้ายท่าน ท่านแม่ให้พวกเรามาขอโทษท่าน” เจ้าใหญ่พูดออกมาอย่างซื่อสัตย์ ซูมู่หรงจึงหันไปมอง

“เจ้าคือเจ้าใหญ่ ?”

“ใช่”

“อืม เป็นเหมือนพี่ชายจริงๆ”

ซูมู่หรงเดินไปนั่งลง จากนั้นจึงกวักมือเรียกพวกเด็กๆ เข้ามาหา พวกเด็กๆ วิ่งเข้าไปยืนล้อมรอบ รู้สึกสนอกสนใจในตัวอาจารย์ของท่านแม่ผู้นี้เป็นอย่างมาก

คำพูดของท่านพ่อเมื่อคืนก็ได้ยินหมดแล้ว จะสู่ขอภรรยาให้แก่เขา ให้เขามีลูกสักโขยง รักษาเขาให้หายดีไม่ให้เขาตายได้ ท่านแม่ก็ไม่ต้องจากไปไหน

ซูมู่หรงสังเกตดูสักพัก ก็รู้สึกถูกใจเจ้าสาม !

“เจ้าชื่ออะไร ?”

เจ้าสามคิดอยู่ครู่หนึ่ง : “ยังไม่ได้ตั้งชื่อ ท่านแม่เรียกว่าเจ้าสาม ส่วนอาจารย์เรียกว่าจื่อยวน !”

“เจ้าอยากเรียนอะไร ?”

“แล้วท่านจะสอนอะไรข้า ?”

ซูมู่หรงอึ้งไปเล็กน้อย ฝีปากไม่เบาจริงๆ : “เจ้าเหมือนกับพ่อของเจ้า ชอบพูด แม่ของเจ้าไม่ค่อยชอบพูดนัก ตอนที่ข้ารู้จักกับแม่ของเจ้า แม่ของเจ้าเป็นคนที่เงียบมาก”

เจ้าสามทำปากมุ่ย : “โอ้ !”

ซูมู่หรงพูดว่า : “ของเล่นของพวกเจ้าข้าจะช่วยดูให้ หากพวกเจ้าสามารถเรียนรู้ ท่าคว้าจับได้ ข้าจะประดิษฐ์ปืนให้แก่พวกเจ้า ให้พวกเจ้ามีกันคนละหนึ่งกระบอก อีกทั้งจะให้รถแก่พวกเจ้าคนละคันด้วย”

พวกเด็กๆ จ้องมองซูมู่หรง ไม่มีใครพูดอะไร

ซูมู่หรงลุกขึ้น แล้วเดินไปยังลานจุนจื่อ พวกเด็กๆ ก็เดินตามไปเหมือนกับขบวนลูกชิ้น

อันหลิงหยุนอุ้มเจ้าห้าอยู่ในห้อง กำลังมองดูซูมู่หรงเดินจากไป

จากนั้นจึงหันกลับไปมองกงชิงวี่ที่นั่งอ่านตำราแพทย์อยู่

เขาลุกขึ้นมานั่งอ่านตั้งแต่เช้า อ่านจนครบทุกเล่มแล้ว

แต่หนังสือเหล่านั้นนางเองก็เคยอ่านมาแล้ว นางเคยเห็นแต่ช่วยให้คนเป็นหายดี แต่ไม่เคยเห็นช่วยคนตายให้ฟื้นขึ้นมา

คนตายไปแล้ว แม้แต่เทพต้าหลัวก็ไม่อาจช่วยได้

“ไม่ต้องหาแล้วเพคะ ถ้าหากหาเจอจริงๆ คงจะหาเจอนานแล้ว” อันหลิงหยุนอุ้มเจ้าห้าเดินเข้าไปหากงชิงวี่ กงชิงวี่จึงได้โยนหนังสือที่อยู่ในมือลง จากนั้นจึงลุกขึ้นเดินออกจากห้อง

ซูมู่หรงอยู่กับพวกเด็กๆ ทั้งวัน พวกเด็กๆ เรียนท่าคว้าจับ โดยจับกลุ่มสองคน ซักซ้อมกันอยู่ในลาน กงชิงวี่ออกมายืนดูที่ประตูเป็นครั้งคราว อันหลิงหยุนที่อุ้มเจ้าห้าอยู่ก็มองตามไปด้วย

ทั้งสองยุ่งมาก ยังมีธุระต้องสะสางอีกเป็นกอง

อันหลิงหลุนที่เอาตัวไม่รอด ก็ยังต้องไปดูแลฮ่องเต้หนานอี้อีก ฮ่องเต้หนานอี้ต้องได้รับการปรับร่างกาย ส่วนเรื่องของซูมู่หรงก็ยังเป็นเรื่องที่ให้ต้องคิดอยู่ในใจของอันหลิงหยุน

ส่วนกงชิงวี่เองก็ยังต้องจัดการกับเรื่องบางอย่างเกี่ยวกับราชนิกูล

ช่วงบ่ายเด็กๆ ต่างก็รู้สึกเหนื่อย ซูมู่หรงพาพวกเขาไปดูปืน แล้วเรียกให้เฟยยิงและอาหยู่ไปเตรียมไม้ที่มีความแข็งแรงและทนทานมา เขาเชิญช่างไม้มาเพื่อแยกส่วนประกอบทั้งหมดสำหรับให้พวกเขาประดิษฐ์ล้อรถและเพลา

ไม่มีเครื่องจักรและเครื่องยนต์ เขาทำเครื่องเล่นประเภทที่จะต้องใช้เท้าถีบไปโดยเฉพาะ

เมื่อเด็กๆ ทานข้าวจนอิ่มก็ไปช่วยเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน