ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 902

บทที่ 902 เวลาเหลือน้อยลงเรื่อยๆ

กงชิงวี่ได้รับหนังสือเจรจาเพื่อขอหย่าศึก อ่านแล้วก็โยนทิ้งไปด้านหนึ่ง ส่งข่าวออกไป ไม่เจรจาโจมตีต่อไป เขาต้องการใต้หล้านี้!

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ทำให้ราชทูตที่มาส่งสาส์นตกใจกลัวจนตัวสั่น ล้มหัวคะมำไปหลายครั้งตอนกลับไป อันหลิงหยุนยืนมองดูอยู่ข้างหลัง ลูบท้องไปมา

หกเดือนแล้ว อดทนอีกสามเดือนก็พอแล้ว!

กงชิงวี่มองไป กอดอันหลิงหยุนเอาไว้ จับท้องของนางเอาไว้ เอ่ยถามเสียงเบา: “ท้องนี้ช่างยาวนานเสียจริง แล้วก็รู้สึกว่าเร็วเกินไปอีกด้วย!”

อันหลิงหยุนนึกขำ: “เช่นนั้นก็ขัดแย้งกันเกินไปแล้ว!”

“อืม”

หนานอี้มีข่าวมาแล้ว ประเทศเฟิ่งก็มีข่าวมาเช่นกัน อันหลิงหยุนมองหนังสือเจรจาขอหย่าศึกที่ประเทศเฟิ่งส่งมาครู่หนึ่ง แล้วส่งให้กงชิงวี่

กงชิงวี่กล่าวว่า: “ไม่เจรจา โจมตีต่อไป โจมตีจนกว่าจะยึดเอามาได้ถึงจะหยุด!”

ประเทศเฟิ่งได้รับจดหมาย ตื่นตระหนกตกใจไปชั่วขณะ มีคนเอ่ยกระทั่งว่า เดิมทีประเทศเฟิ่งนี้ก็เป็นของอันหลิงหยุนอยู่แล้ว พวกเขายึดเอาไปได้จะมีความหมายอะไร

อ๋าวชิงได้ยินคำพูดเช่นนี้ก็หัวเราะออกมา เสียงหัวเราะทำให้ทุกคนขนพองสยองเกล้าไม่กล้าพูดอะไรอีก

“อ๋าวเฉิงเสี้ยง เวลานี้เรื่องนี้ท่านว่าควรจะทำเช่นไรดี?”

อ๋าวชิงลังเลไปครู่หนึ่ง: “ทำลายล้างประเทศใช่ว่าไม่เคยเกิดขึ้น ทำลายล้างก็ทำลายล้างไปเถอะ!”

อ๋าวชิงไม่ได้คิดเช่นนั้น คนที่อยู่ด้านล่างกลับตัวสั่นขึ้นมา

อ๋าวชิงลุกขึ้นต้องการจะจากไป ทุกคนพากันคุกเข่าลง: “อ๋าวเฉิงเสี้ยง เราผิดไปแล้ว ไม่ควรไม่ฟังคำของท่านไปร่วมมือกับหนานอี้เข้าโจมตีประเทศต้าเหลียง ตอนนี้เป็นเช่นนี้พวกเราต่างก็มีความผิด ขออ๋าวเฉิงเสี้ยงได้โปรดชี้ทางสว่างให้ด้วยเถอะ”

“เรื่องนี้ทำได้เพียงรอให้ฮ่องเต้หญิงกับตี้จูนกลับมาแล้ว หากว่าไม่กลับมา เช่นนั้นก็รอความตายไปพร้อมกันเถอะ!”

เรื่องที่กงชิงวี่ต้องการจะทำลายล้างหนานอี้กับประเทศเฟิ่งแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว พวกเขารอมาสามวัน ตอนที่เตรียมพร้อมที่จะเปิดฉากยิงด้วยปืนใหญ่ ซูอู๋ซินถึงได้พาเฟิ่งป่ายซูที่ตั้งครรภ์แล้วกลับมา

ซูอู๋ซินออกมาจากเมืองหลวง พาเฟิ่งป่ายซูมาถึงหน้ากองทัพทั้งสองฝ่าย กงชิงวี่กับอันหลิงหยุนถึงได้ออกมา พอเห็นท้องของเฟิ่งป่ายซู อันหลิงหยุนถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“เห็นเราแล้วก็ไม่พูดอะไร?” สีหน้าซูอู๋ซินมืดครึ้ม อยากจะคลอดลูกอยู่ในป่าลึก ใช้ชีวิตที่เรียบง่ายบ้างทำไมถึงยากขนาดนี้?

กงชิงวี่กล่าวว่า: “คำนับอ๋องเซ่เจิ้ง พระชายาเซ่เจิ้ง”

“เจ้าสมควรต้องเรียกเราว่าพ่อตาแม่ยาย” ซูอู๋ซินอดกลั้นความโกรธเอาไว้ ก็ต้องเย็นชามากอยู่แล้ว

กงชิงวี่ไม่คิดเช่นนั้น: “บัดนี้ใต้หล้าได้จุดไฟสงครามขึ้นมาแล้ว ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ต้องได้รับการแก้ไข หากมาเพราะเรื่องนี้ ก็ไม่มีญาติพี่น้องอะไรให้ต้องพูดถึง อย่างไรเสีย ตอนที่หนานอี้จับมือกับประเทศเฟิ่งโจมตีประเทศต้าเหลียงข้าก็ไม่ได้ไว้หน้าไว้หน้าใดๆเช่นกัน”

กงชิงวี่ยืนตัวตรงและเอามือไขว้หลัง ถึงแม้ว่าเสียงจะไม่ได้ดังกังวาน แต่กลับมีจังหวะและพลัง

ทำให้บริเวณโดยรอบเห็นและได้ยิน

กับลูกเขยคนนี้ซูอู๋ซินไม่มีความไม่พอใจเลยสักนิดเดียว ในฐานะที่เป็นพ่อ ลูกเขยสามารถทำได้ขนาดนี้ เขาพอใจมาก

คนเราต้องไม่ยอมให้ถูกคนรังแกได้ รังแกคนนั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งแล้ว

“เมื่อเป็นเช่นนี้ เป็นความผิดของหนานอี้ข้าหรือ?”

“หรืออ๋องเซ่เจิ้งยังรู้สึกว่าผู้รุกรานเป็นฝ่ายถูก? ที่ผ่านมาประเทศต้าเหลียงข้ากับหนานอี้ท่านบ่อน้ำไม่ยุ่งกับน้ำคลอง(ต่างคนต่างอยู่ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน)มาตลอด กำลังพลเจ็ดแสนนายของหนานอี้ท่านบุกประชิดพรมแดน บีบบังคับให้ข้ามาตีพวกท่าน กำลังพลห้าแสนนายของข้าข้ามพรมแดน ท่านรู้หรือไม่ว่าใช้เงินเท่าไหร่ คนมากมายเท่าไหร่ ยากลำบากมากแค่ไหน?

เดิมข้าก็คิดจะอ่อนข้อเพื่อยุติข้อพิพาทซึ่งกันและกัน เดิมไม่อยากจะให้ราษฎรต้องตกอยู่ในความทุกข์ยากลำบาก แต่หนานอี้ท่านมุ่งมั่นอยู่กับผู้หญิงของข้า ข้าก็อยากจะรู้ว่าไอ้คนไม่รักชีวิตคนไหนที่มันอยากจะแต่งงานกับพระชายาของข้า

พระชายาเคยบอกไว้ เอาชนะข้าได้นางก็จะแต่งงานด้วย ข้าจะฆ่าพวกเขาเสีย ฆ่าให้หมดเกลี้ยงถึงจะหยุด”

เฟิ่งป่ายซูมองซูอู๋ซินครู่หนึ่ง กล่าวขึ้นมาอย่างจนปัญญาว่า: “เช่นนั้นพวกเจ้าก็โจมตีมาจนที่นี่แล้ว คนก็ฆ่าไปหมดแล้ว หนานอี้ในตอนนี้มีไฟสงครามอยู่ทุกหนทุกแห่ง ชาวบ้านร้องทุกข์กันอย่างต่อเนื่อง เจ้ายังต้องการอะไรอีก?”

“ไม่ต้องการอะไร ทำลายประเทศให้พังพินาศ!” กงชิงวี่กล่าวเช่นนั้น ซูอู๋ซินก็เงียบไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน