ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 922

บทที่ 922 จะกลับไปได้เมื่อไหร่

ทั้งสองเข้าปะทะโรมรันกันทันที กงชิงหยุนเยนดูเหมือนบอบบางอ่อนแอ แต่พอได้สู้ขึ้นมา กลับดุดันสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น ประดุจสายฟ้าฟาดกลางพายุฝนอันกราดเกรี้ยว มู่เหอไร้ซึ่งหนทางต้านทานได้โดยสิ้นเชิง กงชิงหยุนเยนเพียงออกไม่กี่กระบวนท่า มู่เหอก็มีอันพ่ายแพ้จนหมดท่าเสียแล้ว

นางทรุดตัวล้มลง จากนั้นก็กระอักเลือดออกมาจนกบปาก

แววตาของกงชิงหยุนเยนเย็นชา ราวกับว่านางเปลี่ยนไปเป็นคนละคนอย่างไรอย่างนั้น

ดาบในมือมีรอยเลือดเปื้อน ซึ่งยังไหลหยดติ๋ง ๆ ลงพื้น ในขณะที่ชี้ปลายดาบไปอีกด้าน

นางใช้เพียงแค่มือเดียวด้วยซ้ำ ส่วนมืออีกข้างนางไพล่ไปเก็บไว้ด้านหลัง ไม่ได้ใช้เลยแม้แต่น้อย

เฟิ่งหลิงหยุนเอ่ยถามขึ้นว่า: "ใครสอนเพลงกระบี่ไร้ใจให้เจ้ากัน? นั่นคือศาสตร์ที่มีเพียงฮ่องเต้หญิงแห่งประเทศเฟิ่งเท่านั้นที่จะได้เรียน"

"พ่อของข้า พ่อบอกว่าแม่ของข้าคือมกุฎราชกุมารีแห่งประเทศเฟิ่ง นางทิ้งกระบี่ไร้ใจนี้เอาไว้ให้ข้า ตั้งแต่ยังเด็กข้าก็เรียนรู้ด้วยตนเอง ไม่เคยมีอาจารย์คอยสอนชี้แนะใดๆให้ทั้งสิ้น"

เฟิ่งหลิงหยุนถูกความหยิ่งยโสอวดดีนี้ของกงชิงหยุนเยนปลุกปั่น จนถึงกับหัวเราะออกมาเลยทีเดียว

มู่เหอตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาจากพื้น ฝืนเดินไปไม่กี่ก้าวก็ทรุดล้มลงไปอีก

มู่เหอลุกขึ้นยืน แล้วเดินตรงเข้าไปหากงชิงหยุนเยนอย่างไม่ยอมแพ้: "ทหาร จับตัวมันมาให้ข้า!"

"ข้าจะดูซิว่าใครมันกล้า!" หยุนเล่ก้าวเท้าออกมากั้นขวางอยู่ด้านหน้ากงชิงหยุนเยน ดวงตาสาดฉายประกายเย็นชาคมกริบ

เฟิ่งหลิงหยุนลุกขึ้นแล้วพูดว่า "เมื่อกล้าเดิมพัน ก็ต้องกล้ายอมรับความพ่ายแพ้ ประเทศเฟิ่งของข้ายอมรับความพ่ายแพ้เป็น นอกจากนี้ กงชิงหยุนเยนเป็นลูกของพี่สาวข้า นางเรียนรู้ศาสตร์ที่มีเพียงฮ่องเต้หญิงเท่านั้นที่ได้เรียน ทั้งยังเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์ฮ่องเต้หญิง มู่เหอไม่รู้จักหนักเบา ไม่คำนึงถึงความสำคัญ เมื่อต่อสู้ก็พลาดพลั้งตัดสินใจผิดพลาด เจ้าแบกความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่จากตำแหน่งแม่ทัพที่แม่ของเจ้ามอบให้ อำนาจทางทหารต้องไปอยู่ในมือของคนอย่างพวกเจ้า ข้าจะวางใจได้อย่างไรกัน! ทหาร มาจับสองคนนี้ไปเข้าคุก สอบสวนลงโทษทันที! "

องครักษ์ก้าวขึ้นไปข้างหน้า เพียงไม่นานก็ควบคุมตัวแม่ลูกมู่เหอเอาไว้ได้ เฟิ่งหลิงหยุนหยิบตราสั่งการทหารขึ้นมา แล้วมอบให้กงชิงหยุนเยน: "เอาไปเถอะ แม่ลูกมู่เหอแพ้ไม่เป็น ข้าแพ้เป็น "

"ขอบพระทัยเพคะ!" กงชิงหยุนเยนรับตราสั่งการทางทหารมา แล้วส่งไปให้เฟยยิงเก็บไว้ แล้วรวดถือโอกาสเอาตราประทับของตัวเอง ส่งไปให้เฟยยิงด้วยเช่นกัน

เฟยยิงรีบเก็บไว้อย่างเรียบร้อย แอบรู้สึกเสียวไส้ไม่หาย

เฟิ่งหลิงหยุนปรายตามองเขาแวบหนึ่ง รู้ดีแก่ใจว่า ตราสั่งการทหารสองแสนนายนั่นเป็นของปลอม

ไม่ว่ากงชิงวี่จะโอ๋ จะให้ท้ายตามใจลูกสาวมากแค่ไหน ก็ไม่มีทางเอาอำนาจทางการทหารมาล้อเล่นแน่ เขาตัดใจทำขนาดนั้นไม่ได้ ทั้งยังเป็นห่วงว่าจะมีคนทำร้ายลูกสาวของเขาด้วย

เฟิ่งหลิงหยุนหมุนกายจากไป กงชิงหยุนเยนเอ่ยถามขึ้นว่า "เช่นนั้นหยุนเล่ล่ะเพคะ?"

"เขาเป็นอิสระแล้ว" เฟิ่งหลิงหยุนยกยิ้มพลางทอดถอนใจ

เพียงรบครั้งแรก กงชิงหยุนเยนก็มีชื่อเสียงระบือไกล จนสร้างความสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วแผ่นดินใหญ่ซื่อฟางทันที ในไม่ช้าข่าวนี้ก็แพร่สะพัดไปถึงประเทศต้าเหลียง

ฮ่องเต้ชิงหยินอ้ำอึ้งอยู่เป็นนาน จึงตรัสถามกงชิงวี่ที่ยืนอยู่ในตำหนักว่า: "อ๋องซื่อเจิ้น นี่เป็นแผนที่เจ้าวางไว้อย่างนั้นหรือ?"

กงชิงวี่ปรายตามองฮ่องเต้ชิงหยินครู่สั้นๆ: "ข้าไม่มีเวลาสบายอกสบายใจไปทำอะไรอย่างนั้นหรอก"

“เจ้านี่นะ ยิ่งนับวันก็ยิ่งยโสโอหังขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว ข้าไม่ชอบเลย แต่ข้าจะไม่มัวคิดเล็กคิดน้อยอยู่หรอกนะ”

ฮ่องเต้ชิงหยินทอดพระเนตรมองพวกแม่ทัพอัน : "ขุนนางที่รักทั้งหลาย ทุกท่านมองเรื่องนี้ว่าอย่างไร?"

“ เห็นได้ชัดว่า ประเทศเฟิ่งคงมีจุดประสงค์บางอย่างเป็นแน่ เราก็รับไว้ด้วยความยินดีเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

“ อย่างน้อย มกุฎราชกุมารีของประเทศเฟิ่ง ก็ยินดีที่จะร่วมมือกับเราอยู่”

เมื่อทุกคนเริ่มพูดจาเซ็งแซ่ขึ้นมา ฮ่องเต้ชิงหยินก็แสร้งทำเป็นว่า สนใจเรื่องนั้นเสียเต็มประดา เมื่อออกจากประชุมในท้องพระโรง สองคนพี่น้องก็ไปที่วังเฟิ่งหยี เพื่อหารือเรื่องของประเทศเฟิ่งต่อ

"ไม่จำเป็นต้องส่งคนไปหรอก ข้าเชื่อในความสามารถของหยุนหยุน ถึงอย่างไรก็ได้รับตราสั่งการทางทหารมาแล้ว ต้องสามารถรักษามันเอาไว้ได้แน่นอน" กงชิงวี่มั่นใจอย่างหาใดเปรียบ

ฮ่องเต้ชิงหยินทรงมีท่าทีลังเลอยู่ครู่หนึ่ง: "หากเป็นเช่นนั้น ข้าก็วางใจแล้ว"

กงชิงวี่เหยียดสายตามองฮ่องเต้ชิงหยิน แววตาเปี่ยมไปด้วยความดูถูกดูแคลนอย่างยิ่ง

หลังจากออกจากพระราชวังมา กงชิงวี่ก็กลับจวนอ๋องซื่อเจิ้น เมื่อเข้าประตูไปก็เจออาหยู่ อาหยู่ในตอนนี้กลายเป็นพ่อลูกสามไปแล้ว เมื่อได้พบกงชิงวี่ อาหยู่ก็รีบเดินเข้าไปหาทันที: "ท่านอ๋อง"

“ ไม่ใช่ว่าสองวันนี้ลาพักหรอกหรือ ทำไมมาที่นี่เสียแล้วล่ะ?”

"ท่านอ๋อง ขอได้โปรดมากับอาหยู่ด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ" อาหยู่ก้าวเท้าออกไปอย่างไม่รอช้า กงชิงวี่หันมองอาหยู่แวบหนึ่ง แล้วจึงเดินตามไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน