เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงในเงามาร นิยาย บท 11

สวี่อินอินพลันมุ่นหัวคิ้วและเอ่ยปากตำหนิทันใด “เหลวไหล! แม้ข้าไม่เคยอาศัยในเรือน แต่กระนั้นก็รู้ว่า คุณชายใหญ่ของจวนโหวคือพี่ชายแท้ๆ ของข้า”

ชีอวิ๋นถิงชำเลืองสายลงมองนางอย่างเหยียดหยาม ขณะที่กำลังจะค่อนขอดดูแคลน

ก็ได้ยินสวี่อินอินเอ่ยเนิบๆ ขึ้นว่า “คุณชายใหญ่จวนโหว หลังจากนี้จะได้รับแต่งตั้งเป็นผู้สืบทอดมรดก เป็นความหวังของตระกูลในวันข้างหน้า เป็นที่พึ่งพิงของตระกูลในวันข้างหน้า”

ชีอวิ๋นถิงผงะไป

เด็กสาวบ้านนอกคนนี้ นางกล่าวถ้อยคำเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร?

มิได้มีเพียงเขาที่อึ้งงันไป แม้กระทั่งชีเจิ้นและนางหวังเองต่างก็รู้สึกประหลาดใจเช่นเดียวกัน

คิดไม่ถึงว่าคนอย่างสวี่อินอินจะสามารถกล่าวถ้อยคำที่มีเหตุผลมีหลักการเช่นนี้ออกมาได้

ฉับพลันทันใดนั้น สวี่อินอินก็ไล่สายตาพินิจมองชีอวิ๋นถิงตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้ารอบหนึ่ง ความเกลียดชังและความดูหมิ่นดูแคลนในสายตานั้นไม่มีซ่อนเร้นเช่นเดียวกัน “เขาใจดำต่ำช้า ไร้ซึ่งกลิ่นอายของบุตรหลานชนชั้นสูงผู้ทรงเกียรติยศ ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่มีจิตใจเมตตาของพี่ชายคนโต จะเป็นพี่ชายของข้าไปได้อย่างไร?”

สามหาว! ชีอวิ๋นถิงสบถด่าในใจ ชี้ปลายจมูกของสวี่อินอินพลางแผดเสียงด่าทอออกมา “คิดว่าเจ้าเป็นใครกัน ถึงบังอาจชี้นิ้ววิจารณ์ข้า?”

นางหวังตัวแข็งไปแล้ว

นางเคยจินตนาการถึงภาพเหตุการณ์เมื่อได้พบเจอบุตรีคนนี้แล้วนับครั้งไม่ถ้วน

เคยคิดว่าอาจจะเป็นเพราะความต่ำต้อย ขี้ขลาด ไม่เคยเจอโลกภายนอกมาก่อน

หรืออาจเป็นเพราะถูกเลี้ยงมาในชนบทขาดการอบรม นางถึงได้มีอุปนิสัยหยาบคายไร้มารยาท

และอาจเป็นไปได้ว่าเพราะความโกรธเกลียดเคียดแค้นในใจทำให้ประพฤติตนไม่ถูกต้องเหมาะสมออกมา

แต่มีเพียงสิ่งเดียวที่ไม่เคยคาดคิด นั่นคือบุตรีของตนเองสามารถวิจารณ์คนด้วยถ้อยคำยาวเหยียด ซ้ำร้ายยังรู้จักตอกกลับให้ชีอวิ๋นถิงเงียบปากเป็นใบ้ไปได้ด้วย!

นางดุออกมาด้วยสัญชาตญาณ “สำรวมมารยาทด้วย!”

สวี่อินอินถอยหลังไปก้าวหนึ่ง เมื่อถอยหลังมาถึงข้างกายชีเจิ้นแล้ว ก็เงยหน้ามองเขาอย่างงุนงง “ท่านพ่อ สิ่งเหล่านี้แม่นมเจียงสอนข้าทั้งสิ้น นางสอนข้าผิดไปอย่างนั้นหรือ?”

อันที่จริงแล้วก่อนหน้านี้ ชีเจิ้นยังเคลือบแคลงว่าแม่นมเจียงคนที่ว่านี้ใช่แม่นมเจียงที่คอยปรนนิบัติรับใช้เคียงกายองค์หญิงใหญ่ท่านนั้นหรือไม่ ทว่ามาถึงยามนี้ ข้อสงสัยเหล่านั้นได้อันตรธานหายไปหมดแล้ว

พำนักอยู่ที่ศาลเจ้าบนภูเขา สามารถสั่งสอนให้สวี่อินอินอ่านตำรารู้อักษรได้แล้ว มิหนำซ้ำยังสั่งสอนให้นางเข้าใจความสัมพันธ์ของตระกูลชนชั้นสูงเหล่านี้ได้อีกด้วย

ที่ใดเล่าจะมีเรื่องบังเอิญเพียงนี้?

เขายิ่งรู้สึกมากขึ้นไปอีกว่าสวี่อินอินเป็นคนมีวาสนาล้ำลึก มีโชคดีมหาศาล

มิเช่นนั้นแล้ว มีหรือจะบังเอิญเช่นนี้? มีหรือที่นางจะได้รับความชมชอบจากแม่นมเจียง มีหรือที่จะทำให้แม่นมเจียงต้องชะตานางเพียงนี้?

และตอนที่บังเอิญเจอจิ้งอ๋องที่ศาลาว่าการเมืองต้าซิงก็ด้วย มีหรือที่นางจะเข้าตาจิ้งอ๋อง?

สวี่อินอินเห็นชีเจิ้นไม่เอ่ยวาจา ก็กัดริมฝีปากเอ่ยอีกครั้ง “แม่นมเจียงบอกข้าว่า เมื่อปัญหาเกิดขึ้นแล้วอย่าคิดซ่อนมันไว้ เมื่อใดที่ท่านเห็นลำต้นของต้นไม้ต้นหนึ่งได้เน่าผุแล้ว รากของมันย่อมเปื่อยเน่าไปแล้วเช่นกัน…บ่าวรับใช้อย่างแม่นมฮวา มุ่งร้ายจ้องเอาชีวิตข้า ข้าเกรงว่านางคงมิได้มีใจประสงค์ร้ายแต่เพียงข้า แต่ร้ายแรงกว่านั้น ยังไม่พอใจต่อจวนโหวด้วย…”

นางกระตุกยิ้มหัวเราะยั่วโทสะใส่ชีอวิ๋นถิงอย่างเฉียบคม และเอ่ยต่อ “วันข้างหน้าท่านพี่จะต้องขึ้นเป็นผู้สืบทอดมรดกแล้ว เรื่องแค่นี้เหตุใดยังมองไม่ออก?”

ชีเจิ้นสะเทือนอย่างยิ่ง เขากำลังจะส่ายหน้า ทว่าชีอวิ๋นถิงกลับง้างมือขึ้นฉับพลัน “เจ้าสวะไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!”

สวี่อินอินเบิกตาโพลงเบี่ยงตัวไปหลบหลังชีเจิ้นทันใด

ชีเจิ้นขัดมือของชีอวิ๋นถิงไว้ทัน มิได้บันดาลโทสะแต่กลับน่าเกรงขาม “เจ้าคิดจะทำอะไร?!”

ชีอวิ๋นถิงโกรธจนคุมสติไม่อยู่แล้ว “ท่านพ่อ ท่านไม่ได้ยินหรือว่านางชั่วช้าสารเลวคนนี้พูดอะไรออกมา? นางกล้าเอ่ยปากตั้งคำถามเรื่องแต่งตั้งผู้สืบทอด ซ้ำยังกล้าวิจารณ์จับผิดข้าอีก! เป็นแค่พวกบ้านนอกเหลือขอ นางคิดว่าเก่งกล้ามาจากที่ใดกัน?”

นางหวังคิดว่าถ้อยคำนี้ไม่ถูกต้อง จึงรีบร้อนห้ามปรามทันที “อวิ๋นถิง สำรวมวาจา!”

แต่ก็สายไปเสียแล้ว

ชีเจิ้นตบหน้าชีอวิ๋นถิงไปฉาดหนึ่งด้วยความโหดเหี้ยมแล้ว

ต่อหน้าต่อตานางหวัง สวี่อินอิน และบ่าวรับใช้อีกหลายคน ชีอวิ๋นถิงที่ถูกตบหน้าเซถลาไปเล็กน้อย

เขากุมใบหน้าตนเองไว้พลางมองไปทางชีเจิ้นด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ “ท่านพ่อ?! ท่านตบข้า?”

นางหวังพุ่งตัวเข้าไปขวางชีเจิ้นอย่างร้อนใจ “ท่านโหว มีอะไรก็พูดกันดีๆ อย่าลงไม้ลงมือกันเลย!”

เบือนศีรษะกำชับนางหวัง “อินอินกลับมาแล้ว เจ้าจงไปเปิดเรือนให้นาง แล้วค่อยคัดเลือกบ่าวรับใช้ที่เหมาะสมจำนวนหนึ่งส่งไปให้นาง ตอนเย็น ให้ทุกคนมาพร้อมหน้าสังสรรค์ ถือว่าเป็นงานเลี้ยงต้อนรับนางแล้วกัน”

แม้ไม่รู้ว่าชีเจิ้นมีเหตุผลใดถึงให้ความสำคัญกับสวี่อินอินมากเพียงนี้

แต่นางหวังเป็นภรรยาที่ดีและเป็นมารดาที่มีคุณธรรมเสมอมา ยกย่องสามีดุจผืนฟ้า

เมื่อได้ยินถ้อยคำนี้แล้ว ก็รับคำทันใด “ท่านโหวโปรดวางใจ สิ่งเหล่านี้ข้าได้ตระเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วเจ้าค่ะ”

นางชะงักไปเล็กน้อย และเหลือบสายตามองสวี่อินอินปราดหนึ่ง “ถึงอย่างไร นี่ก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขที่ออกมาจากท้องของข้า เป็นบุตรีที่ข้าให้กำเนิด ข้าจะไม่รักได้อย่างไร?”

ชีเจิ้นฟังพลาง ก็ผงกศีรษะ และเดินไปยังเบื้องหน้าสวี่อินอินอีกครั้ง “กลับเรือนเราแล้ว พำนักอาศัยได้เต็มที่ ขาดเหลือสิ่งใด จงไปหามารดาเจ้า!”

สวี่อินอินน้อมรับคำด้วยเสียงแผ่วเบา

นางทำแน่

ไม่ว่าจะเหลือสิ่งใดขาดสิ่งใด นางจะทวงทุกสิ่งจากนางหวัง ชีอวิ๋นถิง รวมถึงชีจิ่นที่เอาแต่หลบอยู่ด้านหลังมาตลอดคืนกลับมาแน่

แม่นมจางบัดนี้ตะลึงงันอ้าปากค้างไปแล้ว!

คุณหนูใหญ่ท่านนี้ นางช่างกล้าหาญและมีฝีมือมากจริงๆ!

กลับมาได้วันเดียวก็ทำให้ท่านโหวลงมือตบหน้าคุณชายใหญ่ได้แล้ว!

องค์ชายใหญ่เดือดดาลจนจะกลายร่างเป็นตัวอะไรไปแล้ว?

ชีอวิ๋นถิงโกรธจนคุมสติไม่อยู่แล้วจริงๆ เขาไม่เคยนึกไม่เคยฝัน ว่าตนเองจะถูกสวี่อินอินคนที่ตนเองดูหมิ่นดูแคลนมาตลอด ทำให้ขายหน้าได้ถึงเพียงนี้!

สวี่อินอินนางเด็กเหลือขอ!

สักวันเขาจะหาโอกาสสังหารเจ้าเด็กเหลือขอคนนี้ให้ได้ นางจะได้รับรู้ถึงความโหดเหี้ยมอำมหิตของตนเอง!

ส่วนสวี่อินอินบัดนี้ นางกำลังยิ้มเยาะให้ชีอวิ๋นถิงอย่างเงียบเชียบ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงในเงามาร