ชีหยวนยังคงก้มหน้าอย่างเจียมตัว ไม่แสดงอาการว่าได้ยินหรือไม่
นางหวังส่งสายตาจิกกัดใส่ชีอวิ๋นถิง
แต่ชีอวิ๋นถิงกลับลุกพรวดขึ้นมา และกระแทกตัวชีหยวนอย่างโกรธเกรี้ยว “ถอยไปไกล ๆ ข้าหงุดหวิดที่เห็นหน้าเจ้า!”
ลูกไม่รักดี!
นางหวังรู้สึกเลือดลมเดือดพล่านภายในร่างกาย
ทุกสิ่งที่นางพร่ำสอนตั้งมากมายกลับไร้ความหมาย!
ชีเจิ้นตีเขาแท้ ๆ แต่เขากลับไม่หลาบจำเลยสักนิด!
ทว่าเพราะนางไม่อยากจะดุด่าลูกชายต่อหน้าชีหยวน นางจึงทำได้เพียงแสร้งไม่ได้ยิน
จนกระทั่งชีอวิ๋นถิงเดินออกไปอย่างหงุดหงิด นางถึงได้หันมามองชีหยวนด้วยสีหน้าบึ้งตึง “เขายังเด็ก มักจะพูดจาโดยไม่ทันคิด เจ้าอย่าไปถือสาเขาเลย”
ชีหยวนรู้สึกขำอยู่ในใจ นางเอ่ยถามเบา ๆ “เขาไม่ใช่พี่คนโตของจวนหรือเจ้าคะ”
นางหวังถึงกับพูดไม่ออก
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทำให้นางรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้น ชีหยวนช่างดื้อรั้นเสียจริง!
เป็นเด็กสาวต้องเรียนรู้ที่จะอ่อนน้อม ต้องรู้จักก้มหน้าโอนอ่อน จึงจะทำให้คนรู้สึกรักใคร่เอ็นดู
แต่ชีหยวนน่ะหรือ? นางเป็นเหมือนก้อนหินในห้องส้วม ทั้งเหม็นและแข็งกระด้าง!
นางหวังจึงจำเป็นต้องตำหนิชีหยวน “เจ้ารู้ว่าเขาเป็นพี่คนโตของจวน ก็ควรจะรู้ด้วยสิว่าเขาเป็นพี่ชายเจ้า! เจ้าควรให้ความเคารพเขา เขาย่อมชอบเจ้าเอง!”
ชีหยวนนิ่งไป ก่อนจะเงยหน้ามองนาง “ท่านแม่ แม้ทุกคนจะบอกว่าข้ากับชีจิ่นเป็นพี่น้องฝาแฝด แต่ทุกคนในจวนต่างก็รู้ดีว่าพวกเรามิได้มีสายเลือดเกี่ยวพันกันเลยแม้แต่น้อย ใช่หรือไม่?”
นางหวังรู้สึกรังเกียจและระแวดระวัง “เจ้าพูดเรื่องนี้ทำไม?“
“ข้าหมายถึง ในเมื่อพวกเราต่างรู้กันดี ถ้าอย่างนั้น พี่ใหญ่ก็คงรู้ด้วย ใช่หรือไม่?” ชีหยวนยิ้มมองนางหวัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงในเงามาร