หลังจากจัดการข้ารับใช้แล้ว ต่อมาก็คือคนในเรื่องแล้ว
ชีเจิ้นมองนางหวัง “ต่อจากนี้ไป ต้องอบรมชีอวิ๋นถิงอย่างเข้มงวดแล้ว! หากปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจไร้ความกริ่งเกรงเช่นนี้อีก จะเป็นการทำร้ายเขาแล้ว!”
คำพูดเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่นางหวังคิดจะพูดเช่นกัน ตัวนางเองก็พูดสนับสนุนว่า “ใช่เจ้าค่ะ เขาใช้ไม่ได้เกินไปแล้วจริงๆ…”
“ส่วนซีจิ่น ก็ส่งไปที่บ้านพักชานเมืองเถอะ” ชีเจิ้นไม่รอให้นางหวังพูดจบ เขาตัดบทคำพูดของนาง ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
ในชั่วขณะหนึ่ง นางหวังยังไม่ทันประมวลผลคำพูดเขา
รอจนได้สติกลับมา จึงเบิกตากว้าง “ท่านโหว!”
นางไม่อยากเชื่อ! พวกนางเลี้ยงดูชีจิ่นมานานหลายปีถึงเพียงนี้!ไม่ว่าจะเป็น พิณ หมากล้อม อักษร หรือภาพวาด ล้วนไม่มีเรื่องใดที่ชีจิ่นไม่ชำนาญ และยามพาออกไปข้างนอก ก็เป็นตัวแทนของหน้าตาและศักดิ์ศรีของจวนโหว
จวนหย่งผิงโหวก็บอกกับบุคคลภายนอกว่า ในอดีตนั้น ที่คลอดออกมาเป็นฝาแฝด เพียงแต่ผู้เป็นพี่หายไปและหาพบแล้วเท่านั้น
แต่เวลานี้กลับจะส่งตัวชีจิ่นออกไป?
นางรู้สึกลังเลและตัดใจไม่ได้อยู่บ้าง “ท่านโหว เรื่องนี้ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นอาจิ่นที่…”
ชีเจิ้นมองนางอย่างผิดหวัง “ผู้ใดสำคัญ ผู้ใดไม่สำคัญ เจ้าแยกแยะไม่ออกหรือ?!”
คำพูดนี้ราวถูกตีที่หัวด้วยไม้หรือเสียงตะโกนข้างหู ที่ปลุกให้นางหวังได้สติขึ้นมา
ชีเจิ้นเห็นนางไม่พูดไม่จา จึงกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “คนภายนอกคิดว่าพวกเขาเป็นพี่น้องแท้ๆ แต่ทั้งพวกเขาและเราต่างรู้ดีว่าไม่ใช่! ไม่ว่าจะด้วยเหตุใด การที่เขาทำเพื่อชีจิ่นขนาดนี้ ก็ถือว่าเกินขอบเขตแล้ว!”
นางหวังราวกับถูกราดด้วยน้ำเย็น เวลานี้ แม้แต่หัวใจก็เย็นเฉียบไปแล้ว
ได้สติกลับมาว่าชีเจิ้นหมายความเช่นไร นางก็รู้ว่า ยามนี้ตนควรจะเชื่อฟังชีเจิ้นแล้ว
แม้ในใจจะยังตัดใจไม่ได้อยู่บ้าง แต่นางยังคงฝืนพยักหน้าออกมา
จากนั้น ก็กล่าวต่ออย่างกังวลว่า “แต่ว่าท่านโหว! ฉีอ๋องดูเหมือนจะ….ต่อนาง”
ชีจิ่นถูกขนานนามว่าเป็นไข่มุกงามแห่งเมืองหลวง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงในเงามาร