ท่ามกลางความมืดมิดของรัตติกาล ในที่สุด จวนหย่งผิงโหวที่วุ่นวายมาค่อนคืน ก็เข้าสู่ความสงบในช่วงสั้นๆ
สรรพสิ่งรอบกายเงียบสงัด แม้แต่หญิงรับใช้ที่ทำหน้าที่เฝ้าประตูยังหลับสัปหงกอยู่บนโต๊ะ และยังหาวออกมาเป็นระยะ
ในขณะที่กำลังสะลึมสะลือนั่นเอง นางพลันได้ยินเสียงทุบประตูดัง ‘ปังปังปัง’ อย่างเร่งร้อน
เสียงนี้ทำให้นางสะดุ้งขึ้นมา ตอนแรกยังคิดว่าตนเองกำลังฝันไป รอจนเสียงยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จึงรีบปาดน้ำลายทีหนึ่ง จากนั้นวิ่งมาเปิดประตูเรือน
เมื่อประตูเรือนถูกเปิดออก เกาเจียที่กำลังขมวดคิ้วอยู่ก็ตำหนิออกมาว่า “ทำอะไรอยู่ฮึ? เปิดประตูแค่นี้ก็ยังอืดอาดชักช้า!”
หญิงรับใช้หวาดหวั่นจนสีหน้าซีดขาว รีบอธิบายว่า “ลมแรงเกินไปน่ะเจ้าค่ะ เลยคิดไม่ถึงว่าท่านจะมาในเวลานี้…”
นางหวังที่อยู่ข้างหลังกระแอมขึ้นมาทีหนึ่งอย่างหมดความอดทน “อย่าได้พูดมาก เข้าไปแล้วค่อยว่ากัน!”
เกาเจียรีบรับคำ ดันหญิงรับใช้ที่เฝ้าประตูออก จากนั้นประคองนางหวังเดินเข้าไป
ภายในห้อง บรรดาสาวใช้ทั้งหลายล้วนยังไม่เข้านอน ต่างก็อยู่เป็นเพื่อนชีจิ่นอย่างระมัดระวัง
วันนี้พวกนางก็มองออกแล้วว่า เกรงว่าท่านโหวคงโมโหคุณหนูของพวกตนแล้วจริงๆ
เรื่องนี้ย่ำแย่อย่างมาก
ชีจิ่นก็โมโหจนแทบจะกระอักเลือดแล้วเช่นกัน นางคิดมาตลอดว่าตนเองควบคุมทุกอย่างไว้ในมือ การควบคุมชีอวิ๋นถิงไว้ ก็เท่ากับการกุมจุดตายของนางหวังและชีเจิ้นไว้อย่างแน่นหนา
เพราะชีอวิ๋นถิงเป็นบุตรชายคนโตที่เกิดจากภริยาเอก เป็นผู้สืบทอดำแหน่งจวนหย่งผิงโหวที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง และในอนาคต จะได้สืบทอดจวนโหวต่ออย่างไม่ต้องสงสัย
แต่สิ่งที่คิดไม่ถึงก็คือ สมองของชีอวิ๋นถิงจะโง่เขลาเช่นนี้!
หากเขาคิดจะไล่ชีหยวนออกไป มีตั้งหลายวิธีให้คิดได้
แต่ผลกลับเป็นว่า แกล้งป่วยเสียเอง…
เปลวไฟจากเทียนไขที่อยู่ภายในห้องไหวระริก ส่งเสียงดังเพี๊ยะๆ ออกมาสองสามครั้ง
เปลือกตาขวาของนางก็กระตุกตามขึ้นมาอย่างรุนแรงด้วยเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงในเงามาร