ยอดคุณหมอสกุลเฉิน นิยาย บท 146

ตอนที่146 สุดยอด

“แต่…”

ฉีเล่ยรีบกล่าวแทรกขึ้นทันที

ถึงอย่างนั้นเป่ยฉวนเทียนก็ยังไม่เปิดโอกาสให้เขาได้ปฏิเสธใดๆ และเป็นฝ่ายชิงพูดขัดจังหวะขึ้นว่า

“คนของตระกูลเป่ยพ่ายแพ้ในการประลองฝังเข็ม ป้ายประจำตระกูลที่เป็นสัญลักษณ์ของเข็มเทวะก็ไร้ความหมาย เธอเอาชนะจ้าวหยวนได้ ย่อมสมควรได้รับมันไป”

แต่ทันใดนั้นแววตาของเป่ยฉวนเทียนพลันเปล่งประกายวาบขึ้นทันใด ป่าวประกาศเสียงดังกึกก้องว่า

“แต่ภายในสามวันหลังจากนี้ ฉันจะเดินทางไปท้าประลองกับเธอถึงที่บ้าน เพื่อเดิมพันขอป้ายประจำตระกูลกลับคืนมา ถ้าฉันเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เธอสามารถขออะไรฉันก็ได้หนึ่งข้อ แต่ถ้าฉันชนะ ฉันจะขอทวงคืนป้ายประจำตระกูลนี้กลับคืน”

คำท้าของชายชรากลับกลายเป็นแรงบันดาลใจ ที่กระตุ้นจิตวิญญาณนักสู้ของฉีเล่ยให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง เขายิ้มและตอบรับคำท้าทันที

“ได้เลยครับ! ผมจะรออาวุโสเป่ย อยากจะลองประชันฝีมือกับปรมาจารย์เข็มเทวะมานานแล้วเหมือนกันครับ!”

เป่ยฉวนเทียนโบกมือปฏิเสธพร้อมตอบกลับไปว่า

“ไม่ ไม่ ตอนนี้ตำแหน่งปรมาจารย์เข็มเทวะคือเธอต่างหากล่ะ ฮ่าฮ่า…”

หลังจากพูดจบ ชายชรากับเด็กหนุ่มก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่นอย่างสนุกสนาน

เป่ยฉวนเทียนไม่เพียงจะเต็มใจให้ถอดป้ายเท่านั้น แต่เขายังช่วยฉีเล่ยเรียกรถบรรทุกมาเตรียมย้ายของให้อีกด้วย

ไม่มีทางแน่นอนที่แท็กซี่จะขนป้ายที่ทั้งหนักและใหญ่ขนาดนี้ออกไปได้ ส่วนจะให้แบกไปก็อย่าได้หวัง

เมื่อเห็นว่าป้ายประจำตระกูลถูกถอดออก พนักงานทุกคนในคลินิกต่างแห่กันออกมามุงดู รวมไปถึงบรรดาคนไข้อีกมากหน้าหลายตา เวลานี้ฝูงชนต่างยืนเบียดเสียดกันอยู่หน้าทางเข้าตำหนักการแพทย์ตระกูลเป่ย

ด้วยความช่วยเหลือจากเหล่าคนงานกลุ่มหนึ่ง แผ่นไม้จันทร์แดงสลักขนาดใหญ่ก็ถูกขนขึ้นรถบรรทุกไปอย่างรวดเร็ว พร้อมห่อกันกระแทกอีกชั้นเพื่อความปลอดภัย ไม่ให้เกิดความเสียหายระหว่างการขนส่ง

ฉีเล่ยเดินขึ้นรถบรรทุกไปเตรียมจะกลับบ้านสกุลหลี่ ก่อนจากกันไปเขาได้ชะโงกหน้าออกไปโบกมือร่ำลาเป่ยฉวนเทียน พร้อมกับร้องตะโกนบอกด้วยรอยยิ้มว่า

“อาวุโสเป่ย แล้วผมจะรอคุณที่บ้านนะครับ!”

เป่ยฉวนเทียนพยักหน้ายิ้มตอบอย่างจริงใจ

“ฮ่าฮ่า…เตรียมตัวให้พร้อมล่ะ ฉันจะตั้งหน้าตั้งตาคอยดูวิชาสามเข็มปาฏิหาริย์ของเธอ”

ฉีเล่ยหันไปพยักหน้าให้เป่ยหยวนเทียนเล็กน้อย ก่อนที่รถบรรทุกจะพุ่งทะยานออกไป

เมื่อรถบรรทุกคันนั้นแล่นหายไปท่ามกลางการจราจรที่พลุกพล่าน เป่ยจ้าวหยวนพลันเงยหน้าขึ้นมองที่ประตูเรือนตำหนักแพทย์ตระกูลเป่ย ซึ่งเวลานี้ไร้ซึ่งป้ายแห่งเกียรติภูมิ เหลือไว้เพียงแค่เป็นชายคาอันว่างเปล่า ภายในใจของเขาพลันปรากฏช่องโหว่ขึ้นอย่างน่าใจหาย

“คุณปู่ครับ ผมขอโทษ ผมจะหาวิธีซื้อแผ่นป้ายนั้นกลับคืนมาเอง”

เป่ยฉวนเทียนฟังแล้วถึงกับต้องเหลียวมองหลานชายพลางส่ายหัวไปมา เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะพูดขึ้นว่า

“จ้าวหยวน แกไม่ได้เข้าใจอะไรเลย ตอนนี้แกยังตามหลังลูกเขยสกุลเฉินอยู่มาก”

ภายในใจของเป่ยจ้าวหยวนเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

“คุณปู่ เพราะแบบนั้นไง ผมเลยต้องใช้วิธีนี้…”

หนึ่งพันย่อมไม่เท่าหนึ่งหมื่น เขาไม่ได้เก่งกว่าอีกฝ่ายเลย และตอนนี้ก็ยังรู้สึกแย่ เป็นเพราะเขาไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ จึงได้กล้านำป้ายประจำตระกูลไปเดิมพันแบบนั้น

เป่ยฉวนเทียนกล่าวน้ำเสียงเย็นชาใส่ว่า

“ฉันผิดหวังในตัวแกจริงๆ แต่ที่ผิดหวังนั้นไม่ใช่เรื่องที่แกด้อยกว่าอีกฝ่าย แต่เป็นเพราะแกคิดจะใช้เงินเพื่อซื้อป้ายประจำตระกูลกลับคืนมาต่างหาก”

เป่ยจ้าวหยวนเริ่มรู้สึกไม่มั่นใจเล็กน้อย

“คุณปู่…อีกไม่นานเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ก็คงจะแพร่สะพรัดไปทั่วปักกิ่ง ชื่อเสียงของตระกูลเป่ยเราที่สั่งสมมานาน คงจะต้องพังทลายลงชั่วข้ามคืนแน่ แล้วที่ผมคิดจะใช้วิธีนี้ก็เพื่อตระกูลเป่ยของเรา…”

“จ้าวหยวน…”

เป่ยฉวนเทียนไม่รอให้อีกฝ่ายพูดจบ เขาชิงพูดแทรกขึ้นทันที

“ต่อให้แกซื้อป้ายประจำตระกูลกลับมาได้ แต่ความภาคภูมิใจและความน่าเชื่อถือที่ผ่านมาของตระกูลเป่ย แกจะสามารถนำมันกลับคืนมาได้ไหม? แกจะยังรู้สึกภาคภูมิใจอยู่รึเปล่าเมื่อได้เงยหน้าขึ้นมองป้ายนี้ ถ้าไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะรักษาไว้ได้ ก็สู้ยกให้คนอื่นไปเถอะ เอาแต่ยึดติด ที่แขวนอยู่หน้าประตูบ้าน มันก็แค่ป้ายไม้แผ่นหนึ่งเท่านั้น ยังจะเหลือคุณค่าอะไรอยู่อีกล่ะ?”

คล้อยหลังพูดจบ ชายชราก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ จนถึงตอนนี้หลานชายของเขายังไม่เข้าใจอีกว่า ความสำเร็จทั้งหมดที่ประสบมาก่อนหน้าคงจะต้องสิ้นสุดลงตรงนี้ อนาคตอันสดใสก็คงเป็นอันจบลงเช่นกัน คนที่ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้วไม่รับฟังใครเช่นนี้จะเจริญต่อไปได้ยังไง?

เป่ยจ้าวหยวนเอาแต่ก้มหน้าก้มตา ไม่กล้ามองหน้าชายชราแม้สักนิด หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เอ่ยขึ้นว่า

“คุณปู่ ที่ผ่านมาผมคิดผิดเอง”

เป่ยฉวนเทียนถอนหายใจเล็กน้อยและกล่าวปลอบว่า

“สำหรับแกที่อายุแค่นี้ถือว่าไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรเลย นับเป็นโชคดีด้วยซ้ำที่ประสบปัญหาตั้งแต่ยังหนุ่มยังแน่น ดังคำกล่าวที่ว่า ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก หวังว่าแกจะนำบทเรียนในครั้งนี้กลับไปคิดทนทวน และแก้ไขเพื่ออนาคตของตัวแกเองนะ”

“ครับคุณปู่ ผมจะตั้งใจศึกษาหาความรู้ และเปิดใจมากกว่านี้ครับ”

……

ภายใต้การนำทางของฉีเล่ย รถบรรทุกก็แล่นมาถึงหน้าบ้านสกุลหลี่

ฉีเล่ยเปิดประตูกระโดดลงจากรถ และสั่งให้คนงานจำนวนหนึ่งช่วยกันขนป้ายไม้จันทร์แดงลงมา ก่อนจะนำเข้าไปเก็บในบ้านทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน