ตอนที่149 เยี่ยมเยียน
เหวินเจียนกับคังฟานค่อนข้างสนิมสนมกันอย่างมาก หลู่หยานที่เห็นแบบนั้นจึงเสนอตัวเป็นคนขับรถให้ และปล่อยให้ทั้งคู่นั่งอยู่เบาะหลังคุยกันให้หายคิดถึง รถที่ขับมาวันนี้ก็เป็นMercedes-Benzของหลู่หยาน
คังฟานที่จ้องมองหลู่หยานซึ่งกำลังขับรถอยู่ด้านหน้าด้วยความสงสัย ในที่สุดก็เอ่ยถามติดตลกขึ้นว่า
“หลู่หยาน ฉันไม่เห็นนายมาตั้งหลายปี รสนิยมเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่? ได้ข่าวว่าแต่ก่อนนายเป็นแฟนตัวยงรถPorscheเลยไม่ใช่เหรอ? ไหงตอนนี้เปลี่ยนใจมาขับBenzแทนแล้วล่ะ?”
หลู่หยานปรายมองผ่านกระจกหลัง พร้อมตอบกลับด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“โถ่คุณชายคังครับ ตอนนี้ผมเป็นนักธุรกิจหน้าใหม่ไฟแรงในปักกิ่งแล้วนะ ก็ควรจะต้องใช้รถที่ดูมีความเป็นผู้ใหญ่หน่อยไหมล่ะ? พอยิ่งโตขึ้นก็เริ่มไม่มีความรู้สึกอยากขับรถแพงๆเหมือนแต่ก่อนแล้วด้วย ก็เลยยกให้น้องของเหวินเจียนไป เออจะว่าไปแล้ว นายกลับมาทั้งทีอย่าลืมไปหาน้องมันด้วยล่ะ”
คังฟานหันไปหาเหวินเจียนเจือสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย
“น้องหมอนี่? หมายถึงสาวน้อยคนนั้นที่ชอบตามติดฉันน่ะเหรอ? นี่ก็ผ่านมาตั้งหลายปีแล้วนี่เนอะ คงโตเป็นสาวแล้วใช่ไหม?”
เหวินเจียนมีน้องสาวอยู่คนหนึ่ง และทั้งคู่ก็ห่างกันประมาณ3-4ปี อีกทั้งยังเป็นหลานเพียงไม่กี่คนในตระกูลเหวินด้วย
ตระกูลเหวินแจ้งเกิดมาจากเส้นทางการเมือง ในช่วงปีต้นๆ มีเพียงสมาชิกตระกูลเหวินบางคนเท่านั้นที่ลงเล่นการเมือง แต่ด้วยสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของตระกูลเหวิน ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงเวลาไม่กี่ปี
เหวินเจียนยิ้มตอบไปว่า
“ตอนนี้มันก็ยังติดแก คลั่งไคล้ชนิดที่ว่าถ้าบอกว่าแกกลับมาวันนี้ มีวันเธอโดดเรียนมาเพื่อเจอแกแน่นอน อืม โตขึ้นมากเลย ตอนนี้เธอเรียนคณะบริหารระหว่างประเทศที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง”
หลู่หยานพูดติดตลกเสริมไปว่า
“คังฟาน เดี๋ยวนี้ซินซินไม่ใช่สาวน้อยที่ไล่ตามตูดแกติดๆเหมือนแต่ก่อนแล้วนะ เธอเป็นถึงดาวของมหาวิทยาลัยปักกิ่งเชียวล่ะ! แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่เปลี่ยนก็คือในสายตาของเธอมีแต่นายเท่านั้น!”
“ฮ่าฮ่า ซินซินน่ารักตั้งแต่ยังเด็กแล้ว แกไม่ต้องบอกฉันก็รู้ว่าโตมาจะสวยแค่ไหน”
คังฟานเปลี่ยนเรื่องทันทีว่า
“เหวินเจียน แล้วเรื่องงานราชการเป็นยังไงบ้าง? ได้เลื่อนขั้นเป็นชั้นนายพันรึยัง?”
หลู่หยานเป็นฝ่ายตอบกลับแทนทันที
“เดี๋ยวนี้เรียกนายร้อยไม่ได้แล้วนะ ต้องเป็นพันโทเหวินเจียน! แถมเพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นผู้กำกับสถานทีตำรวจเมื่อไม่กี่วันก่อนเองด้วย! ตำรวจนายอื่นต้องใช้เวลาตั้งหลายปีกว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ หมอนี่เข้ารับราชการไม่ทันไร ทั้งยศทั้งตำแหน่งก็เลื่อนเอาเลื่อนเอาไม่หยุด ต่อจากนี้ไป พวกเราสองนักธุรกิจตัวน้อยคงต้องฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับท่านผู้กำกับเหวินเจียน!”
คังฟานตบไหล่เหวินเจียนไปหนึ่งทีพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“นายก้าวหน้าเร็วมากจริงๆ! น้อยคนนะที่จะขึ้นเป็นผู้กำกับได้ตั้งแต่อายุยังน้อยแบบนาย”
เหวินเจียนไม่มีความถือเนื้อถือตัวแม้แต่น้อยกับบรรดาเพื่อนฝูง เขายิ้มและย้อนถามกลับไปว่า
“แล้วนายล่ะมีแผนยังไงต่อบ้าง? จะอยู่ที่นี่แค่สั้นๆหรืออยู่ยาวไปเลย?”
คังฟานถอนหายใจ
“หลังจากที่ใช้เวลาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ต่างประเทศ สุดท้ายฉันก็ลืมบ้านเกิดไม่ลง ครั้งนี้คงจะอยู่ยาวแล้วล่ะ อยากจะทำธุรกิจเล็กๆสักอย่างแล้วค่อยๆพัฒนากันไป”
แม้น้ำเสียงที่เอ่ยกล่าวออกไปจะฟังดูสงบนิ่ง แต่ภายในใจกลับรู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย เขายังมีภาระหน้าที่และแรงกดดันอย่างมากที่ต้องแบกรับไว้หลังจากกลับประเทศจีนในครั้งนี้ และเขาเองก็ไม่ค่อยแน่ใจว่า ตัวเองจะประสบความสำเร็จตามที่ตั้งความหวังไว้ได้หรือไม่?
แต่ถึงอย่างนั้น หากเทียบกับอัตรากำไรที่ได้คำนวณไว้ มันก็คุ้มค่าที่จะเสี่ยง
ตอนที่คังฟานทำงานอยู่ในสหรัฐอเมริกานั้น เขาถูกบังคับให้ก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างไม่หยุดหย่อนอยู่ในสถานีวิจัยLynggaard พอได้โอกาสออกมา เขาเองก็อยากเริ่มก้าวเดินอย่างอิสระไปตามเส้นทางที่ตนกำหนดได้เอง
หลู่หยานที่ได้ยินว่าคังฟานต้องการจะเปิดธุรกิจเล็กๆสักแห่ง จึงรีบเอ่ยถามออกไปอย่างสนอกสนใจทันที
“ธุรกิจด้านไหนล่ะ? ถ้ามีอะไรที่พวกเราพอช่วยได้ก็บอกมาเลยนะ”
ในฐานะนักธุรกิจด้วยกัน หลู่หยานย่อมต้องเสาะหาเพื่อนร่วมธุรกิจที่มีความสามารถ
และเขาเองก็มั่นใจในความสามารถของคังฟานเสมอมา ในแวดวงเพื่อนฝูงกลุ่มเล็กๆของพวกเขา คังฟานนี่แหละคือคนที่มีความสามารถสูงที่สุดและมักจะเป็นผู้นำอยู่เสมอ
ไม่ว่าจะเป็นเหวินเจียนหรือหลู่หยาน เหตุผลที่พวกเขารวมตัวและสนิทกันได้ ก็เพราะมีคังฟานเปรียบเสมือนแม่เหล็กคอยดึงดูดทั้งนั้น
นี่อาจจะเรียกได้ว่า เสน่ห์ดึงดูดเฉพาะบุคคล มันเป็นทักษะความสามารถที่ไม่สามารถฝึกฝนที่ไหนได้
ทางด้านเบาะหลัง คังฟานเหลือบมองเหวินเจียนสลับไปมากับหล่าหยาน ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“ฉันจบแพทย์มา ก็ต้องทำธุรกิจเกี่ยวกับยาน่ะสิ พวกแกคิดว่ายังไง?”
“โอ้? ธุรกิจเกี่ยวกับยางั้นเหรอ? เป็นทางเลือกที่ดีมากเลยนะ โรงพยาบาล โรงเรียน และสถานบันเทิง นี่คือสามธุรกิจที่ไม่มีวันล้มหายตายจากโลกไปได้ โดยพื้นฐานแล้ว ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสามประเภทนี้ มักจะไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่แปรเปลี่ยนอยู่ตลอด ถึงจะมีวิกฤตการอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นจริงๆ อย่างมากก็กระทบเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน