ตอนที่171 อาการผิดปกติ
สิ่งที่ฉีเล่ยไม่ทราบก็คือ เนื่องจากเขาสอนนักศึกษาในจำนวนที่มากเกินไป จึงได้ไปสร้างความไม่พอให้กับอาจารย์จากสาขาแพทย์ตะวันตกบางคนเข้าให้แล้ว
เมื่อก่อน มีแต่นักศึกษาจากสาขาแพทย์แผนจีนแห่กันไปนั่งฟังในคลาสเรียนของการแพทย์ตะวันตก เพราะคิดว่าถ้ามีความรู้ในด้านการแพทย์แผนจีนเพียงอย่างเดียว หากเรียนจบไปก็คงหางานทำได้ยาก
ทว่าปัจจุบัน สถานการณ์กลับพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ บรรดานักศึกษาจากสาขาแพทย์ตะวันตกจำนวนไม่น้อย ต่างโดดเรียนในชั่วโมงวิชาแพทย์ตะวันตก และพากันแห่มาเรียนวิชาการวินิจฉัยที่ฉีเล่ยสอนแทน เรื่องนี้ทำให้อาจารย์แพทย์ตะวันตกบางคนที่มีนิสัยหยิ่งยโสอวดดี เริ่มไม่พอใจและมีอคติกับฉีเล่ยขึ้นมา
อย่างเช่นอาจารย์คนหนึ่งที่ชื่อจางรุ่ยจากสาขาแพทย์ตะวันตก ได้แสดงความไม่พอใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ต่อหน้าสาธารณชนอย่างชัดเจน ทั้งยังบอกอีกว่า ถ้ามีโอกาสคงต้องขอไปทดสอบทักษะทางการแพทย์กับฉีเล่ยสักครั้ง
เมื่อฉีเล่ยกลับเข้ามาในห้องพักอาจารย์ เหอจื่อก็รีบวิ่งตามหลังเขาไปทันที
วันนี้เหอจื่อสวมกางเกงยืนส์ขายาวเนื้อผ้าเดนิม จับคู่กับเสื้อยืดสีขาว สะพายการะเป๋าห้อยข้าง เธอมาในสไตล์เรียบง่ายที่แสดงให้เห็นถึงความสดใสในแบบของสาวน้อยวัยใส
หากมองจากรูปลักษณ์ภายนอก เหอจื่อจะดูเป็นสาวน้อยบ้านๆที่ไร้เดียงสาคนหนึ่ง แต่นั่นเป็นมุมมองของคนที่ยังไม่รู้อะไร แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทุกอย่างกลับตรงกันข้าม ภูมิหลังของเด็กสาวคนนี้กลับน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าอะไร เพราะเพียงแค่ทำให้เธอไม่พอใจขึ้นมา ก็มีสิทธิ์โดนปากกระบอกปืนจ่อหัวได้เลย
เหอจื่อเอ่ยกล่าวขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า
“เมื่อกี้อาจารย์ฉีพูดตลอดทั้งชั่วโมงเลย คงจะหิวน้ำมาเลยใช่ไหมค่ะ?”
ฉีเล่ยตอบกลับไปยิ้มๆ
“ก็ไม่ถึงขนาดนั้น นี่ก็หมดคาบแล้ว ผมกำลังจะไปดื่มน้ำที่ห้องพักอาจารย์”
ทันทีที่ฉีเล่ยหลุดคำพูดประโยคนี้ออกมา เหอจื่อก็รีบดึงกระเป๋าสะพายออกจากไหล่ พร้อมกับรูดซิปและหยิบเอากระติกน้ำร้อนออกมาส่งให้ฉีเล่ยทันที
“นี่เป็นชาแดงที่ดีที่สุดจากฤดูกาลนี้เชียวนะคะ พ่อหนูเพิ่งได้มาใหม่ หนูก็เลยมาต้มชามาให้อาจารย์ดื่มค่ะ ลองดูสิคะ”
ฉีเล่ยสังเกตเห็นอย่างหนึ่งว่า กระติกน้ำร้อนใบนี้เป็นใบเดียวกับที่เหอจื่อชอบใช้ดื่มระหว่างคาบเรียนมาตลอด ทุกครั้งที่เข้ามาสอนฉีเล่ยมักจะเห็นกระติกใบนี้วางอยู่ตรงหน้าเธอ
“ไม่เป็นไรครับ อีกก้าวเดียวผมก็จะถึงห้องพักอาจารย์แล้ว”
“หนูไม่ชอบดื่มชา แต่วันนี้ตั้งใจทำมาให้อาจารย์โดยเฉพาะเลยนะคะ”
ฉีเล่ยเห็นว่าเหอจื่อเริ่มปั้นสีหน้าบูดบึ้งดูไม่พอใจขึ้นเล็กน้อย ก็อดไม่ได้ที่จะรับกระติกน้ำร้อนนั้นมาทันที จะให้เขาปฏิเสธความหวังดีของลูกศิษย์ตัวเองได้ยังไงกันล่ะ? และเมื่อรับมาแล้ว เขาก็เปิดฝาออกแล้วจัดการรินชาดื่มเข้าไปอึกใหญ่
แต่หลังจากที่ดื่มไปได้เพียงแค่อึกเดียว ฉีเล่ยก็ถึงกับตาโตพร้อมกับเอ่ยชมอย่างอดไม่ได้ว่า
“นี่มันของดีแฮะ”
แม้ว่าจะเป็นชาในกระติกน้ำร้อนทั่วไป แต่ด้วยรสชาติที่กลมกล่อมของชาแดงที่ถูกเก็บเกี่ยวในช่วงที่ดีที่สุด ผสานกับกลิ่นไออุ่นอันหอมละมุนที่โชยเข้าใส่จมูก ทุกอย่างมันช่างลงตัวเสียเหลือเกิน
เมื่อได้ยินคำชมของฉีเล่ย เหอจื่อก็ได้แต่ยิ้มกว้างอย่างมีความสุขพร้อมกับเอ่ยบอกฉีเล่ยว่า
“ถ้าอาจารย์ฉีชอบ หนูจะทำมาให้ทุกวันเลย จะได้ไม่ต้องไปดื่มน้ำร่วมกับอาจารย์คนอื่นๆในห้อง”
“ไม่เห็นจะต้องลำบากเลย”
“ก็ไม่เห็นจะลำบากเลยนี่คะ หนูเต็มใจทำให้”
“ขอบคุณมากครับ”
“อาจารย์ฉี ไม่เห็นจะต้องเกรงใจเลยนี่คะ พวกเราสองคนก็เหมือนเพื่อนต่างวัยกัน ฮ่าๆๆ เดี๊ยวหนูจะทำมาให้อาจารย์ดื่มทุกวันเลย”
“ขอบคุณครับ”
เหอจื่อยิ้มและยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า
“แล้วก็ ยินดีด้วยนะคะอาจารย์ฉี หนูได้อ่านบทสัมภาษณ์ของอาจารย์แล้วด้วย หนูรู้สึกประทับใจมากเลยค่ะ โดยเฉพาะประโยคที่บอกว่า จิตวิญญาณและสายเลือดของชาวจีนยังคงไหลเวียนอยู่ในร่างกายและจิตใจ แค่ได้ยินหนูก็มีแรงฮึดขึ้นมาแล้ว!”
“ฮ่าฮ่า….เพราะผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆก็เลยพูดออกไปแบบนั้น”
“มันกลายมาเป็นปรัชญาในการดำเนินชีวิตของหนูไปแล้ว สักวันหนูจะต้องเป็นแพทย์แผนจีนที่เก่งแบบอาจารย์ฉีให้ได้”
“ขอให้ได้เป็นอย่างที่หวังนะ แต่เส้นทางนี้ใช่ว่าใครก็จะสามารถเก่งกันได้ง่ายๆหรอกนะ”
เธอเงยหน้าขึ้นสบตาฉีเล่ยราวกับมีความรู้สึกอะไรบางอย่างแอบแฝงอยู่ แต่แล้วจู่ๆใบหน้าของเหอจื่อก็มีสีแดงระเรื่อขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่เอ่ยถามออกไปว่า
“อาจารย์ฉีคะ คืนนี้อาจารย์พอจะมีเวลาว่าง…”
แต่ยังไม่ทันที่เหอจื่อจะพูดจบประโยค เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าของฉีเล่ยก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
“ขอโทษนะครับ ผมขอตัวรับสายก่อน”
ปรากฏว่าคนที่โทรเข้ามาก็คือหลี่ฮั่วเฉิน ฉีเล่ยกดรับสายพร้อมกับเอ่ยทักทายขึ้นทันที
“สวัสดีครับอาวุโสหลี่ โทรมาหาผมมีอะไรรึเปล่าครับ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน