ยอดคุณหมอสกุลเฉิน นิยาย บท 172

ตอนที่172 พักบ้าง

เมื่อเห็นสีหน้าเป็นกังวลของหลี่ฮั่วเฉิน ฉีเล่ยก็ได้แต่พูดปลอบใจไปว่า

“อาวุโสหลี่ไม่ต้องกังวลไปนะครับ ไม่มีใครรู้หรอกว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้นเองล่ะครับ ผมจะไปถามถงซีทีหลังเองว่า เธอเป็นอะไรกันแน่? มีอะไรผิดปกติกับเธออีกรึเปล่า? ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติ เดี๋ยวผมจะโทรหาอาวุโสหลี่อีกทีนะครับ”

หลี่ฮั่วเฉินกุมมือฉีเล่ย พร้อมกับพูดขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง

“ฉันต้องฝากเธอด้วยนะฉีเล่ย หลายปีที่ผ่านมาถงซีทุกข์ทรมานมามากพอแล้ว เธอไม่มีแม้แต่เพื่อนสักคนเลยด้วยซ้ำ ถ้าครั้งหน้าเกิดการกระทบกระทั่งกันขึ้นอีก เธอเองก็ควรใจเย็นให้มากกว่านี้หน่อยนะ แล้วก็ช่วยทำให้ถงซีกลับมาร่าเริงให้ได้ล่ะ”

จากคำพูดเหล่านี้ที่หลุดออกจากปากหลี่ฮั่วเฉิน ฉีเล่ยสัมผัสได้ถึงความหวังและความไว้วางใจอันเปี่ยมล้นที่ชายชราผู้นี้มีให้กับเขา จึงได้แต่ตอบกลับไปว่า

“ผมจะพยายามนะครับ”

ฉีเล่ยพยักหน้าตอบกลับไป

“อืม งั้นเธอก็กลับไปสอนต่อเถอะ ฉันไม่รบกวนแล้วล่ะ ถ้าว่างเมื่อไหร่ก็ฝากไปดูถงซีให้ด้วยนะ เพราะเรื่องนี้ทำเอาฉันไม่เป็นอันทำงานเลย ในสมองมีแต่ความคิดว่า ทำไมหลานสาวของฉันถึงได้เย็นชาได้ขนาดนี้”

“ไม่ต้องห่วงครับอาวุโสหลี่ ผมจะไปหาเธอทันทีหลังจากสอนเสร็จ”

“อ่อ ยังมีอีกเรื่อง ฉันได้อ่านบทสัมภาษณ์ของเธอในหนังสือพิมพ์แล้ว เธอทำได้ดีมากทีเดียว ดีมากจริงๆ”

หลี่ฮั่วเฉินร้องบอกพร้อมกับยกมือขึ้นตบไหล่ฉีเล่ยด้วยสีหน้าท่าทางที่เต็มไปด้วยความภูมิอกภูมิใจ

“นี่แหละคือสิ่งที่เธอควรทำ ฉันตัดสินใจไม่ผิดจริงๆทีชวนเธอมาทำงานในเมืองหลวง”

ฉีเล่ยยิ้มและกล่าวตอบไปว่า

“ก็ผมไม่สามารถอยู่หนานหยางได้แล้วนี่ครับ ก็เลยต้องมาพบคุณอย่างที่เห็น”

เมิ่อฉีเล่ยกลับมาถึงห้องเรียนอีกครั้ง ก็เป็นเวลาก่อนเริ่มคลาสประมาณเกือบสิบนาที

ที่นั่งแถวแรกปรากฏเป็นสาวแว่นหน้าตาสะสวยคนหนึ่งนั่งอยู่ แต่เดิมที่นั่งตรงนี้เป็นที่ประจำของเหอจื่อ แต่กลับไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้เธอหายไปไหน

ฉีเล่ยเองก็ไม่ได้เอ่ยปากถามอะไรเช่นกัน แต่เขางุนงงและไม่รู้สึกคุ้นเคยเล็กน้อย เพราะเมื่อใดก็ตามที่เขายืนโบกมือทักทายนักศึกษาอยู่บนเวทีแบบนี้ ก็มักจะมีเธอนี่ล่ะที่คอยโบกมือและยิ้มตอบกลับมา ทำให้คลาสเรียนแห่งนี้มีสีสันขึ้นมาก

ฉีเล่ยจำได้ว่า ก่อนหน้านี้เหอจื่อเพิ่งจะวิ่งไล่ตามเขาไปเพื่อเอาน้ำชาแดงที่แสนจะชื่นใจไปให้ ระหว่างที่คุยกันอยู่ โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดันดังขัดจังหวะขึ้นมาซะก่อน ฉีเล่ยเห็นแบบนี้ก็อดที่จะเป็นห่วงเหอจื่อไม่ได้ว่า มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเธอหรือไม่? เพราะที่ผ่านมาเหอจื่อไม่เคยโดดเรียนมาก่อนเลย

แต่หลังจากคิดเช่นนั้น ฉีเล่ยก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา

เหอจื่อมีครอบครัวที่แข็งแกร่งหนุนหลังอยู่แบบนั้น ใครจะกล้าไปมีเรื่องกับเธอได้?

และเพื่อกำจัดความคิดไร้สาระพวกนี้ออกไปจากหัว ฉีเล่ยจึงได้ประกาศเสียงดังว่า

“เอาล่ะนักศึกษาทุกคน คลาสใกล้จะเริ่มขึ้นแล้วนะ”

……………..

ฉีเล่ยยืนรออยู่บริเวณชั้นล่างของอาคารสาขาโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน เขารอมานานกว่าสิบนาทีแล้ว จนกระทั่งนักศึกษาที่เลิกเรียนต่างก็เดินกลับออกมากันหมด แม้แต่บรรดาอาจารย์เองต่างก็ทยอยกันกลับบ้านกันหมดเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้น ฉีเล่ยก็ยังไม่ลดละความพยายาม เขายังคงยืนรอหลี่ถงซีต่อไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน