ตอนที่269 สังหารผู้บำเพ็ญพรตหยินหยาง
ยิ่งผู้บำเพ็ญพรตหยินหยางร้องตะโกนห้ามมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นการพิสูจน์แล้วว่า สิ่งที่ฉีเล่ยคิดนั้นถูกต้อง!
ทางด้านผู้บำเพ็ญพรตหยินหยางนั้น แม้จะไม่สามารถลุกขึ้นจากบัลลังก์ได้ แต่ก็สามารถปลดปล่อยพลังหยินหยางที่แข็งแกร่งของตนออกมาได้
และนี่คือพลังที่แท้จริงของผู้บำเพ็ญพรตชราผู้นี้่!
สาเหตุที่ได้ชื่อว่าผู้บำเพ็ญพรตหยินหยางนั้น ก็เพราะว่าเขาได้ครอบครองพลังหยินหยางอันแข็งแกร่ง และสามารถใช้พลังเหล่านี้สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนได้นั่นเอง
ฉีเล่ยสัมผัสได้ว่า พลังหยินหยางจากร่างของผู้บำเพ็ญพรตชรานี้ เพียงแค่ทำให้เขารู้สึกอึดอัดไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวเท่านั้น แต่ตอนนี้ เขากลับรู้สึกว่า ตัวเองกำลังหายใจไม่ออก
แต่ถึงอย่างนั้น ฉีเล่ยก็อดคิดไม่ได้ว่า พลังหยินหยางนี้น่าจะยังไม่แข็งแกร่งมากพอ ไม่อย่างนั้น ผู้บำเพ็ญพรตชรานี้คงจะไม่ถูกกักขังอยู่แต่บนบัลลังก์แบบนั้นได้แน่
“นี่ฉันจะต้องมาตายในสภาพนี้จริงๆน่ะเหรอ? ไม่นะ!”
ฉีเล่ยพึมพำออกมาในขณะที่กำลังดิ้นรนหาทางรอด ภายในใจไม่อาจยอมรับในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ได้ เขาสู้อุตส่าห์หาวิธีเอาตัวรอดมาตั้งนาน และท้ายที่สุดก็ค้นพบ และนี่ก็เป็นความหวังเดียวสำหรับเขาที่จะสามารถพาตัวเองออกไปจากถ้ำบ้าๆแห่งนี้ได้
และที่สำคัญ ความหวังนั้นก็กำลังปรากฏอยู่ตรงหน้าเขานี่แล้ว!
“ไม่นะ! ฉันจะต้องรอดออกไปจากที่นี่ให้ได้สิ!”
แต่พลังหยินหยางที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างของผู้บำเพ็ญพรตนั้นก็แข็งแกร่ง และมีพลังรุนแรงมากเหลือเกิน จนเวลานี้ ฉีเล่ยรู้สึกว่ากระดูทั่วร่างของตนเองคล้ายกำลังจะแตกละเอียด รอบตัวเขาในตอนนี้คล้ายมีวงแหวนสว่างเจิดจ้าโอบรัดอยู่
พลังหยินหยางที่ส่งออกมาจากดวงตาอันทรงพลังของของผู้บำเพ็ญพรตหยินหยาง ได้ทำให้เสื้อผ้าที่ฉีเล่ยสวมใส่อยู่นั้นฉีกขาดเสียหายอย่างมาก จนเผยให้เห็นบาดแผลเต็มตัวไปหมด แต่ฉีเล่ยก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เขาไม่สนใจความเจ็บปวดใดๆที่เกิดกับร่างกาย และยังคงตั้งหน้าตั้งตาคลานไปทีละคืบๆ ซึ่งเป้าหมายเดียวของเขาในตอนนี้ก็คือรอยฝ่ามือที่ปรากฏอยู่นั่นเอง
เพราะนั่นเป็นเพียงโอกาสรอดเดียวที่เขามีอยู่ในตอนนี้!
เมื่อผู้บำเพ็ญพรตหยินหยางเห็นว่า ฉีเล่ยยังคงดื้อดึงที่จะสัมผัสรอยฝ่ามือนั่นให้ได้ โดยไม่สนใจความเป็นความตายของตัวเองแบบนั้น เขาก็ได้แต่หัวเราะเยาะ พร้อมกับพูดจาเยาะเย้อยถากถาง
“พ่อหนุ่ม อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังคิดที่จะทำอะไร? ข้าจะบอกเจ้าให้รู้ก็ได้ว่า นั่นน่ะเป็นประตูชีวิตของข้าอย่างที่เจ้าคาดเดาไว้จริงๆ แต่เจ้าคิดรึว่า เจ้าจะสามารถมีชีวิตรอดไปสัมผัสมันได้?”
ระหว่างนั้น ฉีเล่ยก็รู้สึกคล้ายกับถูกก้อนหินใหญ่ยักษ์ขนาดมหึมา กระแทกเข้าใส่แผ่นหลังของตนเองครั้งแล้วครั้งเล่าตลอดทางที่พยายามคืบคลานเข้าไปอย่างช้าๆ ทำให้เขาถึงกับกระอักเลือดสีแดงออกมาคำแล้วคำเล่าไม่หยุดหย่อน
และเมื่อคืบคลานเข้าไปใกล้รอยฝ่ามือได้ในระยะที่เหลือเพียงแค่สิบเซ็นติเมตร ในที่สุด ฉีเล่ยก็ไม่สามารถทานทนต่อไปได้อีก เขาหมดสติไปก่อนที่จะได้สัมผัสรอยฝ่ามือนั้น
ผู้บำเพ็ญพรตหยินหยางจ้องมองใบหน้า และสภาพที่กำลังดิ้นรนด้วยความเจ็บปวดของฉีเล่ย พร้อมกับเดาะลิ้นเบาๆ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเสียดาย
“นี่พ่อหนุ่ม! เจ้ามีกายหยางที่บริสุทธิ์เช่นนี้ นับเป็นกายที่ล้ำเลิศและหาได้ยากยิ่ง เจ้าไม่นึกเสียดายรึที่จะต้องตายไปอย่างไร้ประโยชน์เช่นนี้? ส่วนข้านั้น ข้ายอมรับว่ารู้สึกเสียดายและเจ็บปวดใจยิ่งนัก ที่ต้องสูญเสียกายหยางบริสุทธิ์นี้ไป หากเจ้าเชื่อฟังคำพูดของข้าตั้งแต่แรก ยินยอมทำตามที่ข้าต้องการอย่างว่าง่าย ก็คงจะไม่เกิดเหตุการณ์เลวร้ายเช่นนี้กับเจ้าแน่!”
จากนั้น ผู้บำเพ็ญพรตหยินหยางก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา พร้อมกับหัวเราะเสียงเย็น ก่อนจะพึมพำออกต่อทันที “เฮ้อ.. ช่างน่าเสียดาย เจ้ายังอ่อนต่อโลกจนเกินไป!”
เมื่อเห็นว่าฉีเล่ยเป็นหมดสติไปแล้ว ผู้บำเพ็ญพรตหยินหยางค่อนข้างมั่นใจว่า ฉีเล่ยคงจะต้องขาดใจตายในอีกไม่ช้า เขาจึงได้ถอนพลังของตนกลับคืน และภายในบริเวณนั้นก็กลับสู่ความเป็นปกติดังเดิม แล้วปล่อยให้ฉีเล่ยนอนหมดสติแน่นิ่งอยู่กับพื้นเช่นนั้นต่อไป
หลังจากสิ้นใจ ร่างของฉีเล่ยก็คงจะต้องเน่าเปื่อยเหลือแต่โครงกระดูก ไม่ต่างจากกองกระดูกของคนอื่นๆที่อยู่ภายในถ้ำ และนับจากนี่ ประธานสภาแพท์ยแผนจีนก็คงจะเหลือเพียงแค่ชื่อเท่านั้น!
เวลาผ่านไปเนิ่นนาน แต่ร่างของฉีเล่ยก็ยังคงไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว ผู้บำเพ็ญพรตหยินหยางเองก็คร้านที่จะใส่ใจกับฉีเล่ยอีก
แต่แล้วจู่ๆ ร่างที่สลบไสลไร้สติของฉีเล่ยนั้น กลับมีลำแสงสีขาวสุกสว่างปรากฏขึ้น
ภายในลำแสงสีขาวนั้นมีเสียงมากมายดังขึ้น กระทั่งผู้บำเพ็ญพรตหยินหยางผู้รอบรู้ทุกอย่างในโลกภายนอก ยังไม่สามารถบอกได้ว่า มันคือเสียงอะไรกันแน่?
และเมื่อลำแสงสีขาวนั้นค่อยๆจางหายไป ผู้บำเพ็ญพรตหยินหยาางก็เห็นร่างของฉีเล่ยลุกขึ้นมายืน เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ยังคงมีสภาพฉีกขาด ตามร่างกายยังคงมีบาดแผล และเลือดไหลอย่างเห็นได้ชัดเช่นเดิม
“นี่เจ้ายังไม่ตายหรอกรึ?!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน