ตอนที่296 พื้นที่ทดสอบ
หลังจากได้ยินชื่อของฉีเล่ย หวงเหวินชิงก็ถึงกับตกใจสุดขีด และคิดว่าตัวเองฟังผิดไปด้วยซ้ำ
“ขอโทษนะคะ พวกคุณสองคนเป็นเพื่อนกันรึเปล่าคะ?” พนักงานต้อนรับสาวเอ่ยถามขึ้น
“เอ่อ.. ใช่ครับใช่! พวกเราสองคนทำงานที่เดียวกัน แต่บังเอิญเราสองคนมีปากเสียงกันนิดหน่อย และตอนนี้บริษัทก็เรียกตัวพวกเราสองคนกลับ ผมก็เลยต้องมาตามหาเขายังไงล่ะครับ!”
ระหว่างที่พูด หวงเหวินชิงก็ได้หยิบธนบัตรจำนวนหนึ่งหมื่นหยวนออกมาจากกระเป๋าเงิน เมื่อหันมองไปรอบๆตัวแล้วเห็นว่าไม่มีใคร เขาจึงได้วางเงินไว้บนเคาน์เตอร์พร้อมกับกระซิบว่า
“นี่น้องสาว ถ้าฉีเล่ยกลับมาเมื่อไหร่ให้รีบโทรบอกฉันเลยนะรู้ไหม?”
เมื่อเห็นปึกเงินตรงหน้า พนักงานต้อนรับสาวก็รีบตอบหวงเหวินชิงกลับไปทันที “เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงค่ะ ถ้าเขากลับมาเมื่อไหร่ ฉันจะรีบโทรบอกคุณทันที!”
หวงเหวินชิงพยักหน้า และเริ่มวางแผนการต่อไปทันที
เขาหันมาจ้องหน้าพนักงานต้อนรับสาวพร้อมกับคว้ามือของเธอไว้ ปากก็เอ่ยถามออกไปว่า “น้องสาว ที่โรงแรมพอจะมีห้องว่างบ้างไหม? ฉันรู้สึกเหนื่อยมากเลย อยากจะรีบๆหาที่นอนพักผ่อนบ้าง”
มีหรือที่พนักงานต้อนรับสาวจะไม่รู้ความหมายของหวงเหวินชิง แม้เขาจะดูมีอายุหน่อยแต่หน้าตาก็ยังหล่อเหลาอยู่มาก มิหนำซ้ำยังจ่ายหนักด้วย เธอจึงได้ตอบกลับไปว่า
“โรงแรมห้องเต็มหมดแล้วล่ะค่ะ แต่ห้องของฉันยังว่าง แล้วก็ใหญ่มากพอที่จะพักสองคนได้ ไม่ทราบว่าคุณสนใจไหมล่ะคะ?”
หวงเหวินชิงหัวเราะออกมาพร้อมกับร้องบอกทันที “ฮ่าๆๆ ก็ต้องสนใจอยู่แล้ว”
………
“เดินมาตั้งนานแล้ว ทำไมถึงยังไม่สุดทางซะที?” ฮวาโหล่วอดไม่ได้ที่จะเปรยออกมา
“น่าจะอีกไม่นานแล้วล่ะ”
ระหว่างทางที่เดินไปนั้น ฉีเล่ยก็นึกถึงปัญหาต่างๆมากมายที่เคยเกิดขึ้นเมื่อยี่สิบปีก่อน เหตุผลที่นักโบราณคดีเกือบทั้งหมดต้องเอาชีวิตมาทิ้งนั้น อาจเป็นเพราะพวกเขาไม่สามารถควบคุมพลังหยินและหยางได้
หลังจากเดินไปได้อีกครู่ใหญ่ ฉีเล่ยก็ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู เมื่อเห็นว่าเป็นเวลาบ่ายสามโมงกว่าแล้ว ทั้งคู่จึงได้หยุดทานอาหารที่เตรียมมากัน
การผจญภัยครั้งนี้นับว่าน่าเบื่อไม่น้อย แต่โชคดีที่ฮวาโหล่วค่อนข้างเป็นคนอารมณ์ดี และคอยสรรหาเรื่องตลกขบขันมาเล่าให้ฉีเล่ยฟังไม่หยุด
ในระหว่างนั้นเอง จู่ๆ ก็มีห้องๆหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าฉีเล่ยกับฮวาโหล่ว และห้องที่ปรากฏขึ้นนั้นก็ไม่ใช่ห้องในยุคสมัยนี้ แต่มันดูคล้ายกับห้องในยุคสมัยโบราณ
“ดูอย่างกับสมัยราชวงศ์ฮั่นคุณว่าไหม?”
ฮวาโหล่วทำสีหน้าครุ่นคิดพร้อมกับจ้องมองอย่างพินิจพิจารณา ก่อนจะตอบกลับมาด้วยความมั่นอกมั่นใจ “อืมม ดูเหมือนจะเป็นห้องในสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก!”
ฉีเล่ยไม่รู้ว่า สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าเวลานี้คืออะไรกันแน่ แต่เวลานี้ หัวใจของเขากำลังเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“เข้าไปดูข้างในกันดีกว่า!”
หลังจากผ่านการเดินทางที่น่าเบื่อมานาน ในที่สุดก็มีอะไรให้รู้สึกตื่นเต้นบ้าง
ฮวาโหล่วร้องตะโกนบอกพร้อมกับดึงมือฉีเล่ยวิ่งตรงเข้าไปที่ห้องนั้นทันที และเมื่อผลักประตูเข้าไป ทั้งคู่ก็ได้กลิ่นหอมอบอวลผสมกับกลิ่นไม้ของเครื่องเรือนภายในห้องโชยมา
“นี่มันกลิ่นของกุหลาบพันปีนี่?”
ด้วยสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก บวกกับกลิ่นหอมประหลาด ทำให้ฉีเล่ยนึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้อีกหนึ่งอย่าง
‘หมาฝู่ส่าน!’
‘ใช่แล้ว! หรือนี่จะเป็นห้องของฮัวโต๋หนึ่งในหมอเทวดาผู้คิดค้นยาหมาฝู่ส่านนี้ขึ้นมา?’
ในยุคสมัยนั้นยังไม่มียาชาใช้ ฮวาโต๋ซึ่งนับเป็นศัลยแพทย์ในยุคนั้น จำเป็นต้องใช้วิธีการผ่าตัดแบบสดๆ แต่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถอดทนต่อความเจ็บปวดได้อย่างน่าอัศจรรย์เหมือนกวนอู ทำให้ฮัวโต๋ต้องคิดค้นยาหมาฝู่ส่านนี้ขึ้นมา แต่จนกระทั่งถึงบัดนี้ ก็ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า ฮัวโต๋ใช้สมุนไพรชนิดใดในปรุงยาชาขึ้นมา
ฉีเล่ยมั่นใจอย่างยิ่งว่า ที่นี่น่าจะต้องเป็นที่อยู่ของฮัวโต๋อย่างแน่นอน
หลังจากเปิดประตูเข้าไปแล้ว ฉีเล่ยก็เริ่มสอดส่องสายตาสำรวจ แต่ในขณะนั้นก็มีเสียงพูดดังขึ้นว่า
“ยินดีต้อนรับสู่พื้นที่ทดสอบ”
‘พื้นที่ทดสอบงั้นเหรอ?’
ทั้งฉีเล่ยและฮวาโหล่วต่างก็ตกใจอย่างมาก ที่จู่ๆก็ได้ยินเสียงพูดดังขึ้นมาจากที่ไหนสักแห่ง แม้ฉีเล่ยจะได้เตรียมตัวมาพบกับเรื่องอัศจรรย์ใจไว้แล้วก็ตาม แต่จู่ๆก็มีเสียงพูดดังขึ้นโดยที่เขายังไม่ทันได้ตั้งตัวนั้น ก็ทำให้เขาตกใจอย่างมากเลยทีเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน