ตอนที่301 ราวกับนิยายแฟนตาซี
เวลานี้ สัตว์น้อยใหญ่นานาต่างเผ่าพันธุ์ ล้วนพากันมารวมตัวอยู่ที่หน้าทางเข้าถ้ำแห่งนี้ และดูเหมือนพวกมันจะรู้แล้วว่า ลิงใหญ่ตัวนั้นได้จากพวกมันไปแล้ว ดวงตาของพวกมันจึงได้เปลี่ยนเป็นเศร้าสร้อยอย่างมาก
เมื่อเห็นเจ้าลิงน้อยจะต้องจากไปเช่นนี้ สัตว์น้อยใหญ่บริเวณนั้นต่างก็เริ่มพากันส่งเสียงร้องโหยหวน บรรยากาศในป่าทั้งป่าเวลานี้ ได้เปลี่ยนเป็นเศร้าโศกอย่างมาก
ระหว่างที่ฉีเล่ยก้าวเดินออกไปนั้น เหล่าสัตว์ทั้งหลายต่างก็พากันเดินตาเขาไปไม่ห่าง แม้เขาจะไม่รู้ว่า เจ้าลิงใหญ่ตัวนั้นมีตำแหน่งอะไรในป่าใหญ่แห่งนี้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้ ก็พอที่จะบอกอะไรบางอย่างกับเขาได้บ้าง
และเมื่อทั้งหมดกลับเข้าไปในเต็นท์ สัตว์เหล่านั้นจึงได้ค่อยๆจากไปทีละตัว
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
จนกระทั่งถึงตอนนี้ ฮวาโหล่วยังไม่กล้าคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันคืออะไร? นั่นเพราะมันเป็นเรื่องที่ดูราวกับภาพยนตร์แฟนตาซี มันดูราวกับไม่ใช่ความจริง
“ผมเองก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน ไม่แน่ว่านี่อาจเป็นเพียงแค่ความฝันก็ได้!”
เวลานี้ ภายในใจของฉีเล่ยมีแต่เรื่องพลังงานสีดำลึกลับนั่น
‘แสดงว่าหลิงตันนี่จะต้องมีความสำคัญอย่างมาก คนกลุ่มนี้ถึงได้พยายามที่จะขโมยหลิงตันของเจ้าลิงใหญ่นั่น!’
ฉีเล่ยเฝ้าครุ่นคิดว่า เขาพบเห็นพลังงานสีดำนี้ครั้งแรกที่ตระกูลจิน จากนั้นก็ที่ป่าทึบแห่งนี้
‘คนกลุ่มนี้เป็นใครกันนะ? แล้วมีจุดประสงค์อะไรกันแน่?
ฉีเล่ยอยากให้เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ความฝัน เพราะหากเรื่องนี้เป็นความจริง เขาเชื่อว่า สถานการณ์จะต้องเลวร้ายเกินกว่าที่เขาจะคาดคิดแน่
แต่ถึงอย่างนั้น เจ้าลิงน้อยข้างกายเขาเวลานี้ ก็คอยเตือนให้เขาระลึกอยู่เสมอว่า นี่คือความจริง ไม่ใช่ความฝันแต่อย่างใด!
‘เฮ้อ! ฉันก็เป็นแค่หมอคนหนึ่ง จะมานั่งครุ่นคิดเรื่องพวกนี้ให้เป็นทุกข์ใจไปทำไมกัน?’
ยิ่งครุ่นคิดเรื่องนี้มากเท่าไหร่ ฉีเล่ยก็ยิ่งรู้สึกเสียใจทุกข์ใจมากเท่านั้น เขาจึงสลัดความคิดเหล่านั้นทิ้ง แล้วซุกตัวเข้าไปในถุงนอนทันที
เจ้าลิงน้อยเองก็ตามเข้าไปนอนข้างๆฉีเล่ยอย่างรู้ภาษา ก่อนจะนอนหลับไปพร้อมกันกับเขา
ทุกอย่างดูเหมือนจะกลับสู่ความสงบอีกครั้ง
แต่อีกด้านนั้น จู่ๆคนกลุ่มหนึ่งก็ตื่นขึ้น
“ดูเหมือนจะเกิดเรื่องขึ้นแล้ว?”
“อืมม…”
“เจ้าลิงนั่นดุร้ายมาก ตอนนี้มันตายแล้ว แต่เรายังไม่ได้หลิงตันของมันมาเลย แล้วนี่พวกเราจะทำยังไงต่อกันดีล่ะ?”
ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งทำสีหน้าท่าทางครุ่นคิดอยู่นาน และในที่สุดก็พูดขึ้นว่า
“แต่ยังมีลิงน้อยอยู่อีกตัวไม่ใช่เหรอ? ในเมื่อตัวใหญ่มันตายไปแล้ว เราก็ไปเอาเจ้าลิงน้อยนั่นมา แล้วค่อยๆเพาะหลิงตันในตัวมัน แบบนี้จะไม่ยิ่งดีกว่าเหรอ?”
ทุกคนในที่นั้นพยักหน้าหงึกๆอย่างเห็นด้วย
“งั้นพวกเราก็ต้องรีบไปเขาจิ่วเหลียนกันเลย!”
ยามใดที่ดวงตะวันสาดทอแสง ขุนเขามักได้สัมผัสแสงแรกก่อนสิ่งอื่นเสมอ
แม้ว่าเมื่อคืนจะเกิดเรื่องราวมากมาย แต่หลังจากกลับมาที่เต็นท์ ฉีเล่ยก็ถึงกับหลับเป็นตาย และเมื่อตื่นขึ้นมา เขาจึงรู้สึกสดชื่นแจ่มใสอย่างมาก
ฮวาโหล่วตื่นขึ้นมาออกกำลังกายแต่เช้า เธอกำลังยืนอยู่นอกเต็นท์พร้อมกับขยับร่างกายไปมา ปล่อยให้ฉีเล่ยกับเจ้าลิงน้อยนอนกรนเสียงดังอยู่ในถุงนอนต่อไป
“ทำไมถึงตื่นเช้านักล่ะ?”
“ฉันตื่นเช้าแบบนี้ทุกวัน อีกอย่าง ยังหาคัมภีร์นั่นไม่พบ ฉันก็คงหลับไม่สนิทแน่!”
ฮวาโหล่วเอ่ยตอบยิ้มๆ ฉีเล่ยเข้าใจความหมายดี เขาจึงเพียงแค่พยักหน้าแต่ไม่พูดอะไร
หลังจากนั้น คนสองคนกับลิงน้อยหนึ่งตัวก็เริ่มออกเดินทางกันต่อ และไม่มีใครรู้ว่าทางข้างหน้าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีกบ้าง?
แต่สิ่งที่น่าแปลกประหลาดอย่างมากก็คือ สัตว์ป่าจำนวนมากที่จ้องมองคนสองคนด้วยเจตนามุ่งร้ายนั้น เมื่อพวกมันหันไปเห็นลิงน้อยเข้า แววตาของพวกมันจะอ่อนโยนลงทันที และไม่มีเจตนามุ่งร้ายอีกต่อไป หลังจากนั้นพวกมันก็จะมาเดินวนรอบลิงน้อยหนึ่งรอบ แล้วก็จากไปอย่างง่ายดาย
ผ่านไปครึ่งวัน ในที่สุดฉีเล่ยกับฮวาโหล่วก็ขึ้นมาถึงยอดเขาได้สำเร็จ
ต้องยอมรับว่า การเดินทางครั้งนี้เป็นไปอย่างไม่ยากเย็นอะไรนัก
ฉีเล่ยยืนทอดสายตาออกไปไกล สีหน้าแววตาของเขาตื่นเต้นเกินกว่าที่จะพรรณนาออกมาได้ เพราะหลังจากออกเดินทางจากปักกิ่งมานานหลายวัน ในที่สุดเขาก็มาถึงสถานที่ซึ่งมีคัมภีร์ในตำนานซ่อนอยู่แล้ว!
จากแผนที่ที่ได้มานั้น หากเขาค้นหาให้ทั่วบริเวณนี้ ควรจะต้องพบเจอสิ่งที่ต้องการ แต่ก็ไม่รู้ว่า ผลลัพธ์ที่ได้นั้นจะเป็นอย่างที่ควรหรือไม่?
ระหว่างทางที่เดินขึ้นเขากันมานั้น เจ้าลิงน้อยก็ค่อยๆ พัฒนาความสนิทสนมคุ้นเคยกับฉีเล่ยและฮวาโหล่วมากขึ้นเรื่อยๆ มันดูร่าเริงขึ้นกว่าเดิม ราวกับว่าสามารถขจัดความเศร้าโศกที่ลิงใหญ่ตายจากไปได้เพียงแค่ชั่วข้ามคืน
ลิงน้อยกระโดดโลดเต้นไปมา พร้อมกับส่งเสียงร้อยเจี๊ยกๆอย่างมีความสุข ทำให้บรรยากาศรอบๆ ดูสดใสขึ้นได้ในทันที
“ที่นี่เป็นสถานที่ที่เจ้าอยู่มาก่อน น่าแปลกที่เจ้าดูตื่นเต้นราวกับไม่เคยขึ้นมาบนยอดเขา?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน