ตอนที่54 ปรับอารมณ์
ฉีเล่ยขจัดอารมณ์ฟุ้งซ่านไร้สาระออกไป และเพ่งเล็งมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการฝังเข็มเพียงอย่างเดียว
เวลานี้ ชายหนุ่มได้แสดงทักษะความสามารถทางการแพทย์อันน่าอัศจรรย์ของตนเองออกมาได้เต็มที่ ใบหน้าของฉีเล่ยดูจริงจัง มือไม้ที่เคลื่อนไหวพลิ้วไปมานั้น บ่งบอกถึงความเชี่ยวชาญและช่ำชอง
ชายหนุ่มปักเข็มลงไปในแต่ละจุดโดยไม่มีท่าทีลังเล ทั้งแม่นยำและรวดเร็ว หากมองให้ละเอียดกว่านั้น กระทั่งน้ำหนักเข็ม จังหวะ และแรงกดยังสม่ำเสมอ ช่างเป็นการเคลื่อนไหวมือที่ไร้ที่ติจริงๆ ไม่แปลกเลยที่ปู่ของเธอชื่นชมในตัวเขามาก
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หลี่ถงซีได้เฝ้าดูการฝังเข็มของคนอื่น แต่ที่ผ่านมา เธอไม่เคยพบเห็นใครที่เคลื่อนไหว และลงเข็มได้เยี่ยมยอดเหมือนกับฉีเล่ยมาก่อนเลย
หลี่ถงซีพลางคิดอยู่ในใจ ผู้หญิงส่วนใหญ่คงจะชอบผู้ชายแบบนี้ ทั้งยังคิดไปถึงกระทั่งว่า ภรรยาของเขาคงจะเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ และดีกว่าผู้หญิงคนอื่นๆอย่างแน่นอน
แต่เธอกลับไม่รู้อะไรเลยสักนิดว่า ตลอดแปดปีที่ฉีเล่ยอยู่ในสกุลเฉินนั้น เขาต้องผ่านความทุกข์ทรมานมามากเพียงใด?
หลังจากทำการฝังเข็มที่เท้าสองจุดเสร็จสิ้นแล้ว ฉีเล่ยจึงค่อยๆ ปล่อยมือคลายเท้าประหนึ่งหยกขาวคู่นั้นให้เป็นอิสระ พร้อมกับร้องบอกหญิงสาวว่า
“ช่วยดึงผ้าห่มออกไปด้วย ต่อไปจะเป็นการฝังเข็มที่จุดซูอูวี๋บริเวณต้นขาครับ”
จุดซูอูวี๋คือบริเวณต้นขาด้านในลึกลงไปสามนิ้ว อธิบายให้ฟังเข้าใจง่ายก็คือ ช่วงฐานต้นขา หรือศัพท์ทางการแพทย์เรียกว่ากระดูกเชิงกราน (Pubic tubercle ) เป็นส่วนมัดกล้ามเนื้อต้นขาด้านใน (Adductor longus)
หากจะอธิบายให้เห็นภาพก็คือ หลี่ถงซีจะต้องกางขาเพื่อให้ฉีเล่ยเข้าไปฝังเข็มนั่นเอง..
หลี่ถงซีมีสีหน้าท่าทางเขินอายอย่างหนัก ถึงกับทำตัวไม่ถูก..
เมื่อเห็นใบหน้าของหญิงสาวที่เวลานี้กลายเป็นสีแดงก่ำราวกับลูกท้อ สีหน้าแววตาบอกถึงความประหม่าเก้อเขิน พร้อมกับนั่งนิ่งไม่ยอมขยับเขยื้อน ฉีเล่ยรับรู้ได้ทันทีว่า อีกฝ่ายกำลังรู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก
ฉีเล่ยจึงค่อยๆ อธิบายให้หญิงสาวเข้าใจ
“นี่เป็นจุดฝังเข็มที่ละเอียดอ่อนมาก เรื่องนี้ผมเข้าใจได้ดี แต่ก็ใช่ว่าจะใช้ทักษะปิดตาฝังเข็มไม่ได้นี่ แต่เนื่องจากจุดนี้อยู่ใกล้กับเส้นเลือดแดงมาก ผมเองก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน…”
“นี่คุณปิดตาฝังเข็มได้ด้วยเหรอ?” หลี่ถงซีเอ่ยอุทานออกมาด้วยความตกใจ
เธอที่เป็นถึงอาจารย์ในมหาลัยแพทย์ ย่อมเข้าใจได้ในเรื่องเหล่านี้ได้ง่าย แม้เธอจะสอนเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มของแพทย์แผนปัจจุบันก็ตาม แต่ก็ยังพอมีพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับแพทย์แผนจีนอยู่บ้าง
ทักษะปิดตาฝังเข็ม ชื่อก็บอกชัดเจนแล้วว่า เป็นการหลับตาในระหว่างทำการฝังเข็ม และเพ่งสมาธิทั้งหมดไปอยู่กับการสัมผัสแทน แต่ผู้ที่จะใช้ทักษะปิดตาฝังเข็มนี้ จะต้องเป็นคนที่มีพรสวรรค์ และมีประสบการณ์ที่สั่งสมมานานหลายสิบปี และต้องเป็นระดับปรมาจารย์แล้วเท่านั้น จึงจะสามารถทำอะไรแบบนี้ได้
เท่าที่หลี่ถงซีรู้มา ในบรรดาแพทย์แผนจีนทั่วโลก มีไม่ถึงสิบคนด้วยซ้ำไปที่สามารถใช้ทักษะปิดตาฝังเข็มได้ และทุกคนก็ล้วนแต่เป็นปรมาจารย์แพทย์แผนจีนระดับประเทศทั้งนั้น
เป็นไปได้หรือไม่ว่า ชายหนุ่มตรงหน้าที่ดูอ่อนเยาว์กว่าเธอคนนี้จะเป็นหนึ่งในสิบปรมาจารย์ของแพทย์แผนจีน?
ฉีเล่ยยิ้มกว้าง ก่อนจะตอบหญิงสาวกลับไปว่า
“ถ้าผมไม่มีฝีมือจริงๆ คิดเหรอครับว่าอาวุโสหลี่จะให้เกียรติชวนผมให้มาอยู่ที่บ้านด้วย? เขาเคยพานักศึกษาแพทย์ปริญญาเอกมาที่บ้านหลังนี้สักกี่คนเชียว? แล้วเคยเห็นใครเก่งกว่าผมบ้างหรือเปล่า?”
หลี่ถงซีจ้องมองฉีเล่ยราวกับว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาดตนหนึ่ง ในวัยเพียงเท่านี้ แต่กลับมีฝีมือทัดเทียมกับปรมาจารย์แพทย์แผนจีนระดับประเทศเชียวหรือ?
แต่ถึงแม้จะเป็นความจริง หรือไม่ว่าตัวเองจะเย่อหยิ่งแค่ไหน แต่การดูถูกทักษะทางการแพทย์ของคนอื่นแบบนี้ ก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควรนัก อย่างน้อยก็ควรต้องมีมารยาทบ้าง
แต่เมื่อหญิงสาวสังเกตเห็นแววตาที่สงบนิ่งปราศจากนัยยะแอบแฝง เธอก็ตระหนักได้ทันทีว่า ผู้ชายคนนี้ไม่คิดที่จะฉวยโอกาสกับเธอแน่นอน
ดังนั้น… เธอจึงควรต้องให้โอกาสเขาลองดู
หลี่ถงซีเองก็เบื่อหน่ายเกินจะทนกับบุคลิกอันเย็นชาของตัวเอง เธอรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย แต่เธอก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ และด้วยบุคลิกแบบนี้นี่เอง ที่ทำให้เธอไม่มีแม้แต่เพื่อนในมหาวิทยาลัยเลยด้วยซ้ำไป
เพราะหญิงสาวไม่อยากจะเข้าใกล้ใครเลยสักคน!
อย่าว่าแต่ผู้ชายเลย เวลานี้ แม้แต่ผู้หญิงด้วยกัน เธอก็เริ่มไม่อยากเข้าใกล้แล้วด้วย
หลี่ถงซีรู้สึกราวกับว่า ตนเองเป็นดั่งนกน้อยที่โบยบินอยู่ในโลกเพียงลำพัง มันช่างโดดเดี่ยวเหลือเกิน! โดดเดี่ยวอ้างว้างเสียจนเธอไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้ว…
“รอก่อนได้ไหม? ฉัน…ฉันขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน” หลี่ถงซีร้องบอกฉีเล่ยด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ
“เปลี่ยนเสื้อผ้างั้นเหรอ?”
ฉีเล่ยร้องถามพร้อมกับเหลือบมองชุดนอนสีม่วงของหลี่ถงซีเล็กน้อย แล้วจึงพูดต่อว่า “ไม่ต้องเปลี่ยนก็ได้นะครับ ชุดนี้ก็ดูหลวมกำลังพอดี น่าจะสะดวกสบายพอแล้ว”
“เปลี่ยน…เปลี่ยนดีกว่า”
หลั่ถงซีร้องตอบกลับไป หญิงสาวรู้สึกร้อนวูบวาบที่ใบหน้า คล้ายกับว่ามันกำลังจะระเบิดออก
หญิงสาวอายเกินกว่าจะบอกฉีเล่ยไปตามตรงว่า เมื่อครู่ที่เธอกำลังอาบน้ำอยู่ เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น ด้วยความรีบร้อนที่จะออกมาดู เธอจึงแค่เช็ดตัวแล้วรีบสวมชุดนอนออกมาทันที โดยไม่ได้สวมกางเกงชั้นใน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน