ตอนที่86 อาจารย์ผู้ได้รับความนิยม
วันพุธ ฉีเล่ยเองก็มีคาบสอนเช่นกัน
เมื่อตรงเข้ามาในห้องเรียน เขาขึ้นไปยืนบนเวทีสอนดังเดิม และถ้าไม่ใช่เพราะเห็นเหอจือนั่งหน้าสวยอยู่แถวหน้าสุด ฉีเล่ยคงเข้าใจผิดไปแล้วว่า ตัวเองเข้ามาสอนผิดห้องรึเปล่า
ก่อนหน้าเขาจำได้อย่างชัดเจนว่า ในคลาสสอนของเขามีนักศึกษาอยู่ประมาณ40คนเท่านั้น แต่พอสังเกตดูดีๆในตอนนี้ กลับพบว่า บรรยากาศในคลาสตอนนี้อัดแน่นไปด้วยนักศึกษาจำนวนมาก
“ตอนนี้ผมกำลังคิดว่า ตัวผมเองมาสอนผิดห้องหรือพวกคุณเข้ามาเรียนผิดห้องกันแน่?”
ฉีเล่ยวางหนังสือสอนไว้บนโต๊ะ เดินลงมาจากเวทียกมือเท้าเอวจับจ้องด้วยสีหน้างุนงง
“ฮ่าฮ่าๆ”
เมื่อได้ยินคำพูดติดตลกของตัวเขา นักศึกษาทุกคนก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันที
“อาจารย์ฉี หนูไปบอกรูมเมทว่าอาจารย์คนใหม่ในคลาสหนู สามารถวินิจฉัยอาการเจ็บป่วยของทุกคนในห้องได้ เพียงแค่ปราดตามองก็รู้ละเอียดจนถึงขั้นเขียนใบสั่งยาได้ รูมเมทได้ฟังแบบนั้นกลับไม่เชื่อ หนูก็เลยชวนพวกเขาเข้ามา แถมอยากเห็นด้วยว่าใครกันที่มีภาวะไตบกพร่อง”
“ฮ่าฮ่าๆๆๆ”
“อาจารย์ฉี หนูมาจากหอ5 พอได้ยินเรื่องคลาสเรียนของอาจารย์ในวันนั้นก็เลยอยากมาเห็นด้วยตา วันนี้หนูมาเพื่อเปิดโลกทัศน์ในเส้นทางการแพทย์ของหนูค่ะ!”
“ผมเองก็เหมือนกันครับ ช่วงนี้เป็นอะไรไม่รู้จู่ๆก็ปวดขามาก โดยเฉพาะช่วงที่ฝนตกติดต่อกัน ก็เคยวินิจฉัยตัวเองไปว่า เป็นโรคไขข้อ อาจารย์ฉีช่วยวินิจฉัยอาการผมด้วยครับ”
“ผมเองก็นอนไม่หลับมาหลายคืนแล้ว…”
“หนูปวดตามกระดูกค่ะ…”
“….”
เมื่อจับจ้องไปที่กลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวตรงแถวที่นั่ง ฉีเล่ยไม่ทราบเลยว่าตนควรหัวเราะหรือร้องไห้ดี?
ดูเหมือนว่าทุกคนจะปฏิบัติต่อคลาสเรียนของเขาราวกับเป็นคลินิกแห่งหนึ่งไปแล้ว จุดประสงค์ที่มาค่อนข้างชัดเจน โดยส่วนใหญ่มาเพราะอาการเจ็บป่วย
แตก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านอกจากกลุ่มคนโดยส่วนใหญ่จะมาเพราะอาการเจ็บป่วยแล้ว ก็ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่มาเพื่อดูว่าอาจารย์ฉีจะสามารถรักษาพวกเขาให้หายได้อย่างไร
ในมหาวิทยาลัยแพทย์ปักกิ่งแห่งนี้ เป็นแหล่งรวมนักศึกษาแพทย์มากพรสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ อย่างไรก็ตาม เพราะเป็นการรวมตัวของกลุ่มคนที่รักและคลั่งไคล้วิถีการแพทย์ พอได้ข่าวว่ามีอาจารย์มากฝีมือเข้ามาสอน จึงไม่แปลกที่ทุกคนจะแห่กรูกันเข้ามาอย่างมากมายเช่นนี้
ยิ่งไปกว่านั้น ทางมหาวิทยาลัยเองก็มีหน้าเว็บบนโลกอินเตอร์เน็ต ข่าวสารฮิตประเด็นฮอตต่างๆมักจะถูกโพสต์ในทุกวันจันทร์ของสัปดาห์ แล้วก็บังเอิญเหลือเกินที่วันนั้นเป็นวันแรกที่ฉีเล่ยเข้ามาสอน และได้จัดการกับโห่วเจียนจนคอตกหมดสภาพในระหว่างคลาสเรียน ข่าวดังกล่าวขึ้นติดหน้าแรกของเว็บมหาวิทยาลัยในทันที
เมื่อมองออกไปนอกห้องเรียน ยังมีนักศึกษาอีกกลุ่มใหญ่ที่กำลังยืนสุมหัวแอบมองผ่านช่องกระจกเข้ามา พวกเขาทำราวกับว่ามาที่นี่เพื่อยืนฟังอาจารย์ฉีสอนโดยเฉพาะ
ฉีเล่ยอยากจะกรีดร้องออกมาดังๆสักครั้ง แต่ท้ายที่สุดก็ต้องยอมรับสถานการณ์ตรงหน้าให้ได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อได้รับความนิยมจากนักศึกษา ชื่อเสียงของอาจารย์จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นี่ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายแต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเช่นกัน เพราะไม่ช้าก็เร็ว ความสนใจของตัวนักศึกษาที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันจะสะท้อนออกไป จนทำให้ผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัยเกิดความสนใจได้ แม้ฉีเล่ยจะไม่ได้สนใจชื่อเสียง แต่เขาเองก็ไม่จำเป็นต้องโง่ปฏิเสธผลประโยชน์ที่ได้
ส่วนที่ว่าไม่ใช่เรื่องดีเช่นกันนั้นก็หมายถึง ความนิยมที่มากเกินไปอาจสร้างแรงริษยาให้กับอาจารย์คนอื่นๆได้
ฉีเล่ยเดินกลับขึ้นไปบนเวทีสอนและเคาะกระดาษดำเสียงดังสนั่น ส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบพร้อมกล่าวว่า
“ผมเข้าใจนะครับกับสิ่งที่พวกคุณกำลังทำอยู่ในตอนนี้ และตัวผมเองก็รู้สึกเป็นเกียรติมากเช่นกัน แต่ถึงแบบนั้นบทบาทของนักศึกษาคือการมาเรียนและศึกษาหาความรู้ นี่เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละทิ้ง ถ้าพวกคุณชอบในด้านการแพทย์แผนจีน ผมก็ยินดีต้อนรับทุกคนสู่คลาสเรียนของผม แต่ถ้ามาเพื่อตามกระแสหรือประโยชน์ส่วนตัว ผมเกรงว่าไม่จำเป็นต้องมาครับ ทุกวินาทีในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้มีค่า ทุกคนเองก็มีสาขาเรียนที่ต้องรับผิดชอบ ถ้าไม่ได้มีใจรักในวิชาแพทย์แผนจีนจริงๆ อย่ามาเสียเวลากับผมเลย มันไม่คุ้มหรอกครับ”
“อาจารย์ฉี พวกเราชอบแพทย์แผนจีนมากเลยครับ!”
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงตะโกนขึ้นมา
“อาจารย์ฉี เมื่อก่อนหนูเป็นคนที่ไม่ชอบพวกศาสตร์แผนจีนเลย แต่พอเห็นอาจารย์เท่านั้นแหละ หนูรักเลยค่ะ!”
นักศึกษาสาวตัวน้อยเปล่งเสียงตะโกนลั่น ราวกับว่าเธอกำลังสารภาพรักกับชายหนุ่มอยู่
“อาจารย์ฉี หนูเป็นประธานกลุ่มแฟนคลับของอาจารย์ค่ะ สโลแกนประจำกลุ่มแฟนคลับของเราคือ ร่ำเรียนแพทย์แผนจีนด้วยใจรัก พิทักษ์อาจารย์ฉีด้วยใจจริง!”
มุมปากของฉีเล่ยถึงกับกระตุกอย่างแรง
ห่ะ? นี่ฉันเพิ่งมาสอนได้สองวันเองไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงมีกลุ่มแฟนคลับของตัวเองแล้ว?
ถ้ายังขืนเป็นแบบนี้ต่อไป จะเป็นอันได้เรียนกันรึไง?
นี่ฉันกลายเป็นไอดอลไปแล้วเหรอ?
ไอดอลแพทย์แผนจีนคนแรกในประเทศ? ใช้วิธีรักษาโดยการขายบัตรจับมืออะไรทำนองนั้นเหรอ?
ฉีเล่ยคลี่ยิ้มอย่างขมขื่นใจยิ่ง และเคาะกระดาษดำอีกครั้งเพื่อให้ทุกคนเงียบ เขากล่าวเสียงดังฟังชัดขึ้นว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน