ย้อนยุคไปเป็นสปายขันทีผู้เก่งกาจ!(จบ) นิยาย บท 11

เป็นไปตามคาด

ครั้นแล้วก็เห็นเฉาเจียงเดินออกมาจากกลุ่มคนช้าๆ เอ่ยอย่างไม่รีบร้อนว่า

“กราบทูลฝ่าบาท การแต่งตั้งและถอดถอนตำแหน่งขุนนางนั้นหม่อมฉันกระทำการเองมาโดยตลอด ไม่มีการใช้อำนาจโดยมิชอบโดยเด็ดขาด ขอฝ่าบาททรงทอดพระเนตรด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

ตี้จิ้งยิ้มและพยักหน้า

“ในสาส์นกราบทูลเขียนว่า เฉาอีเพ่าแห่งอำเภอเฉาที่เพิ่งจะได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลเอกสารและตราประทับ ภายในหนึ่งเดือนก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นนายอำเภอของที่นั่น”

“แล้วนายอำเภอเฉาเอ้อเพ่าก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ดูแลเมืองฉางโจวโดยไม่มีคำอธิบาย”

“แล้วยังมี…”

ตี้จิ้งไล่เรียงชื่อขุนนางอีกหลายสิบคนออกมา โดยมีขุนนางทุกขั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทุกคนล้วนได้รับการเลื่อนตำแหน่งอย่างไม่มีเหตุผล

สีหน้าขุนนางทุกคนในท้องพระโรงเปลี่ยนไปทันที

ทั้งตกใจกับความละโมบโลภมากของเฉาเจียงแล้วยังหวาดผวากับวิธีการที่รวดเร็วและรุนแรงของตี้จิ้ง เย่จิ้นมีสีหน้าเป็นกังวล

ความคิดของเขาและซูลั่วแทบจะตรงกัน คือไม่ควรรีบร้อนเช่นนี้

ค่อยๆกัดกร่อนอิทธิพลของเฉาเจียงอย่างช้าๆ นั่นคือแผนการที่ดีที่สุด

ทันทีที่ตี้จิ้งมาถึงนางต้องการใช้วิธีนี้บีบบังคับเฉาเจียง

ไม่เพียงจะทำให้ท้องพระโรงชุลมุนวุ่นวายเท่านั้น ยังเป็นการฉีกหน้าเฉาเจียงอีกด้วย

ตี้จิ้งไม่สนใจเหล่าขุนนาง นางมองไปที่เฉาเจียงด้วยใบหน้าที่เย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็งและพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า

“ไม่ทราบว่าท่านเฉาจะอธิบายเรื่องเหล่านี้อย่างไร”

ตั้งแต่นางขึ้นครองบัลลังก์ ก็เป็นเฉาเจียงกับชุยเก๋อที่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

เฉาเจียงถือเอาฉางโจวเป็นที่ดินส่วนตัวของเขาเองเสียด้วยซ้ำ

ขุนนางทุกขั้นล้วนแต่เป็นคนตระกูลเฉาของพวกเขา

นางคิดที่จะลงมือจัดการพวกเขาสองคนมานานแล้ว

แต่จะทำเช่นไรเมื่อสถานะของนางเองยังไม่แน่ชัด ดังนั้นจึงไม่กล้าฉีกหน้าทั้งสองคนนี้มาตลอด

บัดนี้สถานะของนางมั่นคงแล้ว เสนาบดีของราชสำนักเกือบทั้งหมดล้วนอยู่ฝั่งนาง

ดังนั้นนางจึงลงมือกับเฉาเจียงผู้นี้ก่อน

ซูลั่วที่กำลังมองมาจากด้านข้าง แอบพยักหน้า

ตี้จิ้งผู้นี้ไม่ได้โง่จริงๆ

ถ้าหากเฉาเจียงมิอาจอธิบายเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจน อาศัยเรื่องเหล่านี้จัดการเฉาเจียงได้เลย

ทว่า…

ซูลั่วหันไปมองทางเฉาเจียง กลับเห็นชายผู้นี้ยังคงมีท่าทีไม่ทุกข์ร้อนใดๆ

ครั้นแล้วก็เห็นเฉาเจียงโค้งตัวลงคำนับตี้จิ้งและกล่าวว่า

“ฝ่าบาท การแต่งตั้งและถอดถอนตำแหน่งขุนนางเหล่านี้มิใช่เจตนาที่แท้จริงของหม่อมฉันพ่ะย่ะค่ะ”

“เชื่อว่าทุกท่านทราบว่าตระกูลเฉาของข้าเกือบทั้งหมดล้วนแต่รับราชการในกองทัพ”

“สิบปีที่แล้วในตอนที่แค้วนเป่ยฉีถูกปราบ ฮ่องเต้องค์ก่อนได้ส่งกองกำลังทหารร่วมรบ บิดามารดาของพวกเขาได้เข้าสมัครเป็นทหารเข้าร่วมสงครามนี้อย่างแข็งขัน”

“ยามนั้นเหลยเซียวแห่งอาณาจักรจู้กับอ๋องเยี่ยนร่วมมือกันสังหารกองทัพแคว้นเป่ยฉีจนสิ้นซาก พวกเขาได้สร้างความดีความชอบมากมายในศึกสงครามครั้งนี้”

ขณะที่พูด เฉาเจียงได้หันหน้าไปทางเหลยเซียว

“เชื่อว่าท่านแม่ทัพใหญ่เองก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน”

เมื่อเหลยเซียวเห็นสายตาของตี้จิ้งและเฉาเจียงก็พยักหน้าเบาๆ กล่าวว่า

“ตอนนั้นมีทหารยศนายร้อยผู้หนึ่งนำคนบุกทะลวงแนวป้องกันของศัตรูด้วยชีวิต”

ตี้จิ้งขมวดคิ้ว

“แม้ว่าบรรพบุรุษของพวกเขาจะสร้างความดีความชอบมากมายในสนามรบแล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกเขา?”

เฉาเจียงรีบร้อนพยักหน้าแล้วเอ่ยว่า

“ฝ่าบาท หม่อมฉันเองก็คิดเช่นนี้”

“ทว่าต่อมาติ้งกว๋อกงอ๋องเยี่ยนได้ส่งคนนำจดหมายมาให้หม่อมฉัน สอบถามข่าวคราวลูกหลานของคนกลุ่มนี้ โดยกล่าวว่าหลังจากการพลีชีพของวีรบุรุษมิควรมองข้าม สมควรส่งเสริมพวกเขา”

“ดังนั้นจึงได้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นพ่ะย่ะค่ะ”

“สำหรับคนอื่นๆ ก็เป็นองค์ไทเฮาที่ทรงแนะนำว่ากำราบศัตรู ดูแลตามมา”

เมื่อตี้จิ้งได้ยินเช่นนี้สีหน้าของนางเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน แขนของนางสั่นเล็กน้อย

แต่นางก็ปิดบังมันเอาไว้ได้อย่างรวดเร็ว

และท้องพระโรงเดิมที่มีเสียงเอะอะโวยวายอยู่บ้าง พลันเงียบสงบลงหลังจากเฉาเจียงกล่าว

ติ้งกั๋วกงอ๋องเยี่ยน!

บุคคลของราชวงศ์ต้าเหยียนที่กำหนดแล้วว่ามิอาจเลี่ยงได้

เขาเป็นพระอนุชาของฮ่องเต้องค์ก่อน ลุ่มหลงในตำราพิชัยสงครามมาตั้งแต่เยาว์วัย

หลังจากที่ฮ่องเต้องค์ก่อนขึ้นครองราชย์ ได้พระราชทานดินแดนเยี่ยนในส่วนที่อันตรายและสำคัญที่สุดเป็นศักดินาที่ดินแก่เขา

สิ่งนี้มิได้เป็นการวางแผนร้ายต่ออ๋องเยี่ยน แต่พระองค์เชื่อในตัวอ๋องเยี่ยน

ดินแดนเยี่ยนตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอาณาจักรเหยียน ติดกับแคว้นเป่ยฉีและทุ่งหญ้า

ตอนที่ถูกล็อก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ย้อนยุคไปเป็นสปายขันทีผู้เก่งกาจ!(จบ)