เข้าสู่ระบบผ่าน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน นิยาย บท 124

ใครจะรู้ว่าทันทีที่คำพูดของโจวเสาจิ่นสิ้นเสียงลง จี๋อิ๋งก็ส่งเสียง เฮอะ ออกมาครั้งหนึ่ง และกล่าวว่า “เจ้าล้อข้าเล่นอยู่กระมัง ปีนี้เจ้าอายุเท่าไร เพียงแค่ตะเข็บกากบาทอย่างเดียวเจ้าต้องฝึกฝนนานสามเดือน หากต้องฝึกเรียนวิธีเย็บผ้าทั้งหมดนี้ เจ้าไม่ต้องใช้เวลาเจ็ดถึงแปดปีหรอกหรือ เจ้าดูงานเย็บปักที่เจ้าทำอยู่ตอนนี้สิ ไม่น่าเชื่อว่าฝีมือพอเทียบเท่าหนานผิงแล้ว…” นางกล่าวพลางหยิบผ้าที่ตนเย็บขึ้นมาพิเคราะห์ดูอย่างละเอียดสองสามครั้ง จากนั้นก็กล่าวอย่างภูมิใจเล็กน้อยว่า “อย่างไรก็ตาม ข้าคิดว่าหากนับจากเวลาที่ข้าเรียนเย็บผ้าแล้ว ถือว่าข้าก็เย็บได้ไม่เลวเลยจริงๆ!”

โจวเสาจิ่นร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออก

จี๋อิ๋งเร่งเร้านางว่า “เจ้ารีบตัดถุงเท้ามาให้ข้าลองเย็บดูสักคู่หนึ่งเถิด!”

โจวเสาจิ่นจึงกล่าวกับนางอย่างไม่เกรงใจแล้วเหมือนกันว่า “ตอนนี้เจ้ายังต้องฝึกเย็บอีกสักพักถึงจะเย็บถุงเท้าได้”

“ข้าทำถุงเท้าให้ตัวเองสักคู่หนึ่งก็ไม่ได้หรือ”

“ได้สิ!” โจวเสาจิ่นยิ้มพลางตอบ “ขอเพียงเจ้ากล้าสวมมันออกไปก็พอ”

“มีอะไรให้ไม่กล้าสวมมันออกไปกัน” จี๋อิ๋งกล่าวแย้งอย่างไม่เห็นด้วย “ใครจะมาส่องดูเท้าของข้าหรืออย่างไร”

โจวเสาจิ่นหัวเราะคิกๆ แล้วตัดถุงเท้าให้นางคู่หนึ่ง

จี๋อิ๋งก้มหน้าก้มตาเย็บถุงเท้าอย่างตั้งใจ

โจวเสาจิ่นยิ้มออกมาพลางนั่งปักของขวัญวันเกิดสำหรับฮูหยินผู้เฒ่ากัวเช่นกัน พอหันหน้าไปก็เห็นเสวี่ยฉิวที่นอนอยู่ในตะกร้าอย่างเชื่อฟัง กำลังใช้ดวงตาอันกลมโตและดำขลับของมันมองออดอ้อนนางอยู่

นางรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ หุบรอยยิ้มเบิกบานที่แต้มอยู่บนริมฝีปากไม่ได้เลยทีเดียว

โจวชูจิ่นเห็นท่าทางของนางแล้วก็รู้ได้ในทันทีว่านางคืนดีกับจี๋อิ๋งแล้ว จึงแอบรู้สึกดีใจกับน้องสาวด้วย

จี๋อิ๋งผู้นี้มีอุปนิสัยตรงไปตรงมา หากว่าน้องสาวมีสหายคุยเล่นเช่นนี้สักคนหนึ่ง นิสัยใจคอก็คงจะเปิดเผยขึ้นมาบ้าง

นางจงใจเลือกวันที่จี๋อิ๋งมาเพื่อไปที่ห้องข้างๆ โจวเสาจิ่น และอยู่พูดคุยกับจี๋อิ๋ง พร้อมทั้งมอบขนมเปี๊ยะกับลูกกวาดมากมายให้จี๋อิ๋ง

ท่าทางของจี๋อิ๋งสุภาพนอบน้อมยิ่ง ยามสนทนาก็ยิ้มแย้มอย่างอ่อนหวาน แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด โจวเสาจิ่นถึงได้รู้สึกว่าจี๋อิ๋งไม่ค่อยชอบพี่สาวของนางนัก พอพี่สาวเดินออกไปแล้ว นางจึงถามจี๋อิ๋งว่า “เจ้าเป็นอะไร พี่สาวของข้าทำอะไรไม่ถูกใจเจ้าหรือ”

“เปล่า!” จี๋อิ๋งยักไหล่ พลางกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ว่า “พี่สาวของเจ้าดียิ่ง แต่ข้ามักจะรู้สึกว่าพี่สาวของเจ้าคล้ายคลึงกับหนานผิงยิ่งนัก ต่างเคร่งครัดในกฎระเบียบเกินไป ปกติแล้วข้าเข้ากับคนประเภทนี้ไม่ค่อยได้สักเท่าไร”

“นี่มันเรื่องเหลวไหลอะไรกัน” โจวเสาจิ่นจ้องนางเขม็งไปครั้งหนึ่ง พลางกล่าว “ข้าไม่เคร่งกฎระเบียบอย่างนั้นหรือ”

จี๋อิ๋งแกะกล่องขนมที่โจวชูจิ่นมอบให้นางเมื่อครู่ต่อหน้าโจวเสาจิ่น แล้วหยิบขนมกรุบกรอบยัดไส้เข้าปาก พลางกล่าว “เจ้าไม่ใช่คนเคร่งครัดในกฎระเบียบ แต่เป็นคนซื่อต่างหาก!”

โจวเสาจิ่นขุ่นเคืองเป็นอย่างมาก

จี๋อิ๋งหัวเราะฮ่าๆ พลางกล่าว “เจ้าเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า ‘คนซื่อมีความสุขอย่างคนซื่อ’ หรือไม่ นี่ข้ากำลังชมว่าเจ้ามีโชคลาภวาสนาอยู่นะ!”

หากว่ามีโชคลาภวาสนาล่ะก็ ไฉนในชาติก่อนถึงถูกผู้คนย่ำยีจนน่าสมเพชขนาดนั้นได้!

โจวเสาจิ่นรู้สึกกระดากอาย

จี๋อิ๋งเอ่ยถามอย่างระแวดระวัง “เจ้าโกรธหรือ”

“ไม่ได้โกรธ!” โจวเสาจิ่นกล่าวเสียงละห้อยว่า “เพียงแค่นึกถึงเรื่องวันวานแล้วรู้สึกทอดถอนใจเล็กน้อยเท่านั้น”

จี๋อิ๋งเบ้ปากอย่างไม่เห็นด้วย พลางกล่าว “ข้าจะเล่านิทานเรื่องหนึ่งให้เจ้าฟัง” จากนั้นไม่รอให้โจวเสาจิ่นตอบ ก็กล่าวขึ้นเองแล้วว่า “มีเด็กคนหนึ่งนั่งอยู่บนขั้นบันไดอย่างเศร้าสร้อยยิ่งนัก คนที่เดินผ่านมาเห็นเข้าจึงถามเขาว่า เจ้าเป็นอะไรหรือ เจ้าทายซิว่าเด็กน้อยคนนั้นตอบว่าอย่างไร เด็กน้อยคนนั้นถอนหายใจยาวแล้วกล่าวว่า ข้ากำลังรำลึกถึงสมัยตอนเป็นเด็กอยู่“

นี่นับเป็นนิทานอะไรด้วยหรือ

นานสักพักกว่าโจวเสาจิ่นจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบกลับมา

จี๋อิ๋งกำลังล้อนางอยู่อย่างนั้นหรือ!

นางผลักหัวไหล่ของจี๋อิ๋งอย่างอดไม่ได้ พลางกล่าวว่า “ดี! ไม่คิดว่าเจ้าจะหยอกล้อข้า วันหลังข้าจะไม่ให้ห้องครัวทำเกี๊ยวทอดที่เจ้าชอบกินอีกแล้ว”

จี๋อิ๋งหัวเราะร่าเริง พลางกล่าวว่า “เจ้าตอบโต้ช้าเกินไปแล้ว ตอนแรกที่เฉิงจื่อชวนเล่านิทานเรื่องนี้ให้ข้าฟัง ข้าโต้ตอบไปในทันที…ข้าถึงบอกว่าเจ้าซื่อ เจ้ายังจะไม่ยอมรับอีก”

โจวเสาจิ่นอึ้ง กล่าวขึ้นว่า “ที่แท้ท่านน้าฉือเป็นผู้เล่านิทานเรื่องนี้ให้เจ้าฟัง อย่างไรก็ตาม เหตุใดท่านน้าฉือต้องเล่าเรื่องนี้ให้เจ้าฟังด้วยเล่า”

นางจินตนาการตอนที่ท่านน้าฉือเล่านิทานไม่ออกว่าจะเล่าด้วยท่าทางอย่างไร

จี๋อิ๋งได้ยินแล้วหน้าก็แดงเรื่อขึ้นอย่างไม่คาดคิด กระแอมไอเบาๆ ครั้งหนึ่ง พลางกล่าว “เฉิงจื่อชวนผู้นี้ชอบกวนประสาทผู้อื่นอยู่เรื่อย ไหนเลยข้าจะจดจำรายละเอียดได้ชัดเจนขนาดนั้น”

โจวเสาจิ่นไม่เชื่อเลยสักนิด

หากว่าจำได้ไม่ชัดเจน เหตุใดถึงหยิบยกนิทานเรื่องนี้มาหยอกล้อนางได้

อย่างไรก็ตาม ยามนั้นจี๋อิ๋งจะต้องรู้สึกอับอายยิ่งนักเป็นแน่

โจวเสาจิ่นไม่ใช่คนที่ชอบสะกิดรอยแผลของผู้อื่น เช่นนั้นจึงไม่ได้ซักไซ้ต่ออีก เพียงแต่เม้มปากกลั้นยิ้มเอาไว้เท่านั้น

จี๋อิ๋งผ่อนลมหายใจเบาๆ ครั้งหนึ่ง แล้วลูบศีรษะของโจวเสาจิ่น กล่าวว่า “เจ้านิสัยดีจริงๆ ไม่รู้ว่าคุณชายจากตระกูลใดที่โชคดีได้แต่งงานกับเจ้า”

โจวเสาจิ่นไม่อยากพูดถึงเรื่องเหล่านี้ จึงเปลี่ยนเรื่องคุย “ท่านน้าฉือคงจะกลับมาจากไหวอันแล้วกระมัง ธุระที่ไหวอันก็คงจะจัดการเรียบร้อยดีแล้วใช่หรือไม่”

“เฉิงจื่อชวนลงมือจัดการด้วยตนเอง ไหนเลยจะไม่สำเร็จเรียบร้อย” จี๋อิ๋งตอบอย่างไม่สนใจ ยื่นถุงเท้ายาวที่เย็บด้วยฝีมือที่ยังอ่อนหัดให้โจวเสาจิ่นตรวจดู “เป็นอย่างไร น่าจะพอใช้ได้แล้วกระมัง”

แม้ว่าฝีเข็มจะยังไม่สม่ำเสมอเท่าใดนัก แต่ก็พอเป็นรูปเป็นร่างแล้ว

โจวเสาจิ่นถอนหายใจพลางกล่าว “เจ้าเรียนรู้ไวจริงๆ!”

ตอนที่ 124 ความลับ 1

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน