เข้าสู่ระบบผ่าน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน นิยาย บท 142

นี่เป็นไพ่ใบสุดท้ายของหลานทิงจริงๆ

ดังนั้นหลังจากนี้ไม่ว่าโจวชูจิ่นจะข่มขู่หรือล่อลวงอย่างไร นางเพียงกัดฟันแน่นเล็กน้อย หากจะให้นางพูดเบาะแสของซินหลานออกมาก็ได้ แต่สองพี่น้องตระกูลโจวจะต้องปล่อยนางไป

โจวชูจิ่นปฏิเสธไปอย่างเด็ดขาด และยังส่งสัญญาณให้ภรรยาของหม่าฟู่ซานนำตัวหลานทิงไปตัดเอ็นร้อยหวายเสีย

หลานทิงกรีดร้องโหยหวน

โจวเสาจิ่นที่ยืนอยู่ในลานกับพี่สาวตกใจกลัวจนตัวสั่นเทาไม่หยุดขณะที่กอดแขนของพี่สาวเอาไว้

ไม่นาน ภรรยาของหม่าฟู่ซานก็เดินออกมาจากห้องโถง กระซิบกล่าวเสียงเบาว่า “นางบอกว่า ซินหลานน่าจะอยู่ที่เมืองจิงโจวเจ้าค่ะ”

ใบหน้าของนางฉายความอ่อนล้าชัดเจน เห็นได้ชัดว่างานที่ได้รับมอบหมายมาในครั้งนี้ก็เป็นเรื่องยากเรื่องหนึ่งสำหรับนางเช่นกัน

“น่าจะอย่างนั้นหรือ” โจวชูจิ่นขมวดคิ้วขึ้นเป็นปม พึมพำกล่าวขึ้นว่า “ไม่ได้บอกที่อยู่ที่แน่ชัดอย่างนั้นหรือ”

“ไม่ได้บอกเจ้าค่ะ!” ภรรยาของหม่าฟู่ซานกล่าวอย่างนอบน้อมว่า “ที่อยู่ที่แน่ชัดนั้น นางเองก็ไม่ทราบ นางบอกว่า หลายปีก่อนสามีของซินหลานมารับฝ้ายอยู่ใกล้ๆ แถวนี้ ต่อมาค้นพบว่าราคาฝ้ายที่เมืองจิงโจวราคาถูกกว่าทางนี้มาก จึงละทิ้งภรรยาแล้วพาซินหลานไปที่เมืองจิงโจว…

…ตอนที่ซินหลานกลับมานั้น ฮูหยินเคยสอบถามถึงความเป็นไปล่าสุดของนาง นางก็บอกว่านางอาศัยอยู่ที่เมืองจิงโจว ที่กลับจินหลิงมาในครั้งนี้ก็เพราะต้องการจะขายบ้านหลังเก่าที่ทิ้งเอาไว้ที่จินหลิงก่อนหน้านี้ และต่อไปก็จะตั้งรกรากอยู่ที่เมืองจิงโจว…

…ต่อมาเมื่อนางพบว่าซินหลานมีความสัมพันธ์คลุมเครือกับเฉิงไป่ คิดว่านางต้องโกหกฮูหยินเป็นแน่ จึงแอบไปบ้านที่ซินหลานเคยอาศัยอยู่ก่อนหน้านี้ พบว่าบ้านหลังนั้นได้มอบหมายให้นายหน้าซื้อขายจัดการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้ขายออกไป นางสงสัยว่าซินหลานจะขโมยโฉนดที่ดินของสามีมา ยังให้คนแสร้งทำเป็นคนซื้อไปขอดูโฉนดที่ดินของบ้านหลังนั้นกับทางการ เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว ปรากฏว่าซินหลานผู้นั้นกลับมาเพื่อขายบ้านจริงๆ เจ้าค่ะ…

…ต่อมาเฉิงไป่ไม่สบาย นางไม่เห็นซินหลาน จึงไปที่บ้านของซินหลานอีกครั้ง เพื่อนบ้านใกล้เคียงบอกนางว่า เมื่อหลายวันก่อนสามีของซินหลานเร่งเดินทางมาจากเมืองจิงโจว หลังจากขายบ้านทิ้งแล้วก็พาซินหลานกลับเมืองจิงโจวไปแล้ว…

…ภายหลังจากนั้นนางก็ไม่เคยได้เจอกับซินหลานอีกเลยเจ้าค่ะ”

โจวชูจิ่นเงียบไปครู่หนึ่ง กล่าวกับภรรยาของหม่าฟู่ซานว่า “ท่าทางของนางเช่นนี้ เกรงว่ายังคงมีความหวังอยู่ คิดว่าในเมื่อข้ารู้เรื่องของซินหลานแล้ว ย่อมต้องการลากตัวซินหลานออกมาเป็นแน่ คิดว่าข้าคงยังไม่คิดจะเอาชีวิตของนาง เอาเช่นนี้ก็แล้วกัน เจ้าเข้าไปบอกนางว่าข้าไม่เชื่อคำพูดของนาง และต้องการให้เจ้าตัดเอ็นร้อยหวายของนางเสีย…”

หากตัดเอ็นร้อยหวายแล้ว เช่นนั้นก็เท่ากับว่าจะต้องนอนเป็นอัมพาตติดเตียงไปตลอดชีวิต

ภรรยาของหม่าฟู่ซานถามขึ้นด้วยอาการอกสั่นขวัญหนีว่า “จะ…ให้ตัดเอ็นร้อยหวายของนางจริงๆ หรือเจ้าคะ”

โจวชูจินกล่าวขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ก็แค่ให้ผู้หนึ่งแสดงเป็นคนดีและอีกผู้หนึ่งแสดงเป็นคนโหดร้ายเท่านั้น เจ้าเข้าใจหรือไม่”

ภรรยาของหม่าฟู่ซานพลันเข้าใจขึ้นมาในทันที ขานรับอย่างนอบน้อมด้วยใบหน้าขึ้นสีแดงเรื่อ

โจวชูจิ่นกล่าว “เจ้าต้องทำให้นางเชื่อว่า สาเหตุที่ข้ายังไม่กรอกยาทำให้เป็นใบ้ให้นางก็เพราะว่ายาชนิดนั้นไม่ได้หาได้ง่ายๆ จึงยังไม่ได้ส่งมาให้ในตอนนี้ก็เท่านั้น ถ้าหากนางยังไม่ยอมพูดอีกจริงๆ เมื่อถูกจับกรอกยาทำให้เป็นใบ้แล้ว ต่อให้นางอยากพูดก็พูดไม่ได้แล้ว ถึงแม้เมืองจินหลิงจะมีท่านหมอที่ต่อเอ็นร้อยหวายได้ แต่หากไม่ได้รักษาอย่างทันท่วงที ต่อให้เชิญท่านหมอมาได้ก็ไม่มีประโยชน์…ต้องทำให้นางเชื่อว่า ข้าไม่เชื่อคำพูดของนาง นางใช้หลักฐานอะไรมาสงสัยว่าเฉิงไป่ทำให้ฮูหยินต้องตาย ซินหลานผู้นั้นก็เพียงช่วยสาวใช้ยกน้ำเข้าไปให้กาหนึ่งก็เท่านั้น ส่วนเฉิงไป่ก็เพียงมีความสัมพันธ์คลุมเครือกับซินหลาน บางทีซินหลานอาจไม่ได้ทำอะไรเลย บางทีเฉิงไป่อาจจะได้พบกับซินหลานโดยบังเอิญ ทั้งสองคนถึงได้เข้ามาพัวพันกัน…เจ้าต้องเกลี้ยกล่อมนางว่า หากนางยังอยากมีชีวิตต่อ ก็ต้องพูดสิ่งที่รู้ออกมาให้หมด หรือต่อให้นางไม่พูด ข้าก็รู้แล้วว่าซินหลานอาศัยอยู่ที่เมืองจิงโจว อย่างมากก็อาศัยตระกูลเฉิงให้ส่งคนไปตรวจสอบ นอกเสียจากนางจะให้ข้อมูลเท็จแล้ว รายชื่อของคนนอกที่ย้ายเข้าไปอยู่เมื่อสิบปีก่อนนั้น ให้ตรวจสอบจนพบได้ไม่ยากเลยสักนิด”

ภรรยาของหม่าฟู่ซานขานรับ “เจ้าค่ะ” ครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วก็เข้าไปในห้องโถง

โจวเสาจิ่นยังคงเป็นกังวลใจเล็กน้อย ถามขึ้นว่า “แล้วถ้านางไม่เชื่อล่ะเจ้าคะ พวกเราจะตัดเอ็นร้อยหวายของนางจริงๆ หรือเจ้าคะ”

“ถ้าหากเรื่องเดินไปถึงจุดนั้นจริงๆ” โจวชูจิ่นกล่าวเสียงเคร่งขรึม “ก็คงจำเป็นต้องให้เป็นเช่นนั้นแล้ว”

โจวเสาจิ่นถอนหายใจ เดินไปพักผ่อนที่เรือนหลักพร้อมกับพี่สาว

ผ่านไปประมาณหนึ่งก้านธูป ภรรยาของหม่าฟู่ซานก็เข้ามา

“คุณหนูใหญ่” สีหน้าของนางไม่สู้ดีนัก กล่าวว่า “หลานทิงบอกว่า หลังจากที่ฮูหยินเสียชีวิตแล้ว นายท่านต้องการปล่อยตัวพวกนางทั้งหมดไป เพื่อซื้อความเชื่อใจของนายท่าน นางจึงนึกถึงกำไลหยกมันแพะคู่หนึ่งที่นางเคยเห็นอยู่ในร้านเครื่องประดับ ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับของที่ฮูหยินเคยให้ความช่วยเหลือนายท่านจวงเป็นการส่วนตัวไป แต่นางไม่มีเงินซื้อ สุดท้ายก็เลยคิดไปถึงเฉิงไป่ แต่เฉิงไป่ไม่สนใจนาง นางไม่มีวิธีอื่น จึงทำใจกล้าเขียนข้อความว่า เจ้ากับซินหลานร่วมมือกันฆ่าฮูหยิน แผ่นหนึ่งส่งไปให้เฉิงไป่ และแล้วเฉิงไป่ก็ยอมทำตามอย่างเชื่อฟังโดยบอกนางว่าได้วางเงินสองร้อยเหลี่ยงเอาไว้ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในวัดเฉิงหวง หลังจากที่นางค้นพบแล้วก็ตกใจเป็นอย่างมาก กลัวว่าจะถูกเฉิงไป่ตามมาแก้แค้น ไม่กล้าเอาเงินไป ต่อมาเฉิงไป่ก็เสียชีวิตลง…ในส่วนของซินหลาน นางไม่รู้จริงๆ ว่าซินหลานพักอาศัยอยู่ที่ไหนกันแน่ รู้เพียงว่าพอนางเห็นเฉิงไป่ป่วยหนัก ก็คิดได้ว่าต่อให้นางได้เข้าไปอยู่ในตระกูลเฉิงก็คงมีชีวิตที่ดีไม่ได้ ดังนั้นตอนที่สามีของนางตามมาหา นางจึงตามสามีของนางกลับไปที่เมืองจิงโจวเจ้าค่ะ”

และก็อาจจะกล่าวได้ว่า ที่บอกว่ามารดามีความปรารถนาสุดท้ายให้นางอยู่รับใช้ดูแลน้องสาวนั้นก็อาจจะเป็นเรื่องโกหกด้วย!

โจวเสาจิ่นตกตะลึงจนปากอ้าตาค้าง

โจวชูจิ่นเอามือทาบอกราวคนหายใจไม่ออก กว่าครู่ใหญ่ถึงกล่าวขึ้นว่า “ตอนนี้เหลือทางให้นางรอดชีวิตไปก่อน รอให้ข้าตามหาซินหลานผู้นั้นเจอแล้ว ค่อยแจ้งท่านพ่อกลับมาสอบสวน ว่าจริงๆ แล้วเหตุการณ์เป็นอย่างไรกันแน่ ถึงตอนนั้นทุกอย่างก็คงกระจ่าง!”

ภรรยาของหม่าฟู่ซานค้อมศีรษะลงเป็นการตอบรับ

โจวชูจิ่นกำชับกับนางว่า “เจ้าต้องจับตาดูนางเอาไว้ให้ดี หากนางใช้เงินติดสินบนพวกเจ้า ให้พวกเจ้ารับมาก็พอ หากนางให้พวกเจ้าแอบไปตามท่านหมอต่อเอ็นร้อยหวายมาให้นาง พวกเจ้าก็ไปตามคนมาให้นาง อย่าให้นางรู้สึกว่าไม่มีความหวัง แล้วฆ่าตัวตายหนีปัญหาได้ ข้าตั้งตารอให้นางกับซินหลานกัดกันเองอยู่!”

ภรรยาของหม่าฟู่ซานรีบให้คำมั่นสัญญา

พี่สาวต้องการใช้ความหวังมาหน่วงเหนี่ยวชีวิตของหลานทิง!

ครั้งนี้โจวเสาจิ่นได้เรียนรู้อย่างแท้จริงแล้วว่าโจวชูจิ่นเก่งกาจเพียงใด

นางรู้สึกอิจฉายิ่งนัก แต่ที่มากไปกว่านั้นกลับเป็นความชื่นชม

ด้วยเหตุนี้ตอนที่โจวชูจิ่นถามนางระหว่างที่กำลังเดินทางกลับว่า เจ้าได้เรียนรู้อะไรบ้าง นั้น นางหัวเราะร่าพร้อมกับส่ายศีรษะ แล้วกล่าวขึ้นว่า “ท่านพี่ ข้าจะหลบอยู่ข้างหลังของท่านกับท่านพ่อแล้วใช้ชีวิตน้อยๆ ของข้าไปอย่างเชื่อฟังก็พอแล้วเจ้าค่ะ”

ตอนที่ 142 แนะนำ 1

ตอนที่ 142 แนะนำ 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน