เข้าสู่ระบบผ่าน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน นิยาย บท 237

บอกจวนหลักหรือ!

โจวชูจิ่นอดหันไปมองโจวเสาจิ่นไม่ได้

โจวเสาจิ่นกล่าวโดยไม่ต้องคิดว่า “เช่นนั้นข้าไปบอกท่านน้าฉือโดยตรงเลยก็แล้วกัน! ไม่จำเป็นต้องไปรบกวนท่านลุงใหญ่เหมี่ยนหรอก เรื่องเช่นนี้มิใช่ว่ายิ่งคนรู้น้อยเท่าไรยิ่งดีหรอกหรือ หากท่านน้าฉือทราบว่าเฉิงลู่ทำเรื่องพวกนี้ ย่อมไม่เสียดายเขาอย่างแน่นอน”

โจวชูจิ่นรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของน้องสาวกับจวนหลักดีกว่าของตน อีกทั้งตอนนี้ยังเห็นนางตอบตกลงอย่างไม่ลำบากใจเลยสักนิด ลอบพยักหน้าอย่างอดไม่ได้ กล่าวขึ้นว่า “ต้องการให้ข้าไปพร้อมกับเจ้าหรือไม่”

“ไม่ต้องเจ้าค่ะ” โจวเสาจิ่นกล่าวยิ้มๆ “ท่านใกล้จะออกเรือนแล้ว ออกไปข้างนอกตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก ข้าไปคนเดียวก็ได้แล้วเจ้าค่ะ”

ผู้ช่วยหลี่ได้ยินแล้วใจเต้นตึกตัก

จากคำบอกกล่าวของใต้เท้าโจว บุตรสาวคนโตของเขามีความสามารถมาก ส่วนบุตรสาวคนเล็กเชื่อฟังรู้ความ การมาจัดการธุระที่จินหลิงในครั้งนี้ของเขาหากได้รับความช่วยเหลือจากตระกูลเฉิงจะดีมาก แต่หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากตระกูลเฉิง ก็ไม่ต้องไปเคืองโกรธตระกูลเฉิง เนื่องจากกว่าที่ตระกูลเฉิงจะสร้างซิ่วไฉออกมาได้ผู้หนึ่งนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย อีกทั้งยังเป็นซิ่วไฉที่ได้รับการละเว้นภาษีอีกด้วย ซึ่งนั่นจะเป็นเมล็ดพันธ์สำหรับสอบจวี่เหรินและจิ้นซื่อในภายภาคหน้า ซึ่งหากไม่ได้การจริงๆ ก็เชิญให้บุตรสาวคนโตออกหน้าไปขอร้องนายท่านใหญ่เหมี่ยนของจวนสี่ให้ช่วยไปเจรจากับตระกูลเฉิง มีเรื่องอะไรให้ไปหารือกับบุตรสาวคนโต เนื่องจากนางมีความสัมพันธ์กับตระกูลเฉิงดียิ่ง

แต่ดูจากตอนนี้แล้ว เกรงว่าความสัมพันธ์ของคุณหนูรองกับตระกูลเฉิงจะดียิ่งกว่า

โดยเฉพาะกับจวนหลัก

ไม่รู้ว่าตนจะได้ใช้โอกาสนี้เข้าไปโขกศีรษะให้นายท่านสี่ของจวนหลักหรือไม่ ด้วยวิธีนี้อาจจะได้รับการฝากฝังจากนายท่านใหญ่หรือไม่ก็นายท่านรองผ่านทางนายท่านสี่บ้าง

ความคิดนี้วาบผ่านเข้าในหัว เขาหัวเราะหยันตัวเอง

ตนช่างเป็นคนไม่รู้จักพอดั่งงูหมายจะเขมือบช้างยิ่งนัก ใต้เท้าโจวก็ปฏิบัติกับเขาไม่เลวเลยทีเดียว เขาติดตามใต้เท้าโจว ถึงแม้จะไม่ได้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว แต่ก็เป็นที่น่าพึงพอใจของทั้งสองฝ่าย ค่อนข้างมีอิสรเสรี แต่เพื่อตำแหน่งและความก้าวหน้าแล้ว ตอนนี้กลับคิดจะปีนกิ่งไม้สูงของตระกูลเฉิง ไม่รู้ว่าตระกูลเฉิงมีผู้ติดตามมากมายขนาดไหน กิ่งไม้สูงนั้นมิใช่ว่าจะปีนขึ้นไปได้ง่ายดายขนาดนั้น ไม่แน่ว่านอกจะปีนขึ้นไปไม่ได้แล้วยังอาจจะถูกขอนไม้ร่วงลงมาทับเสียชีวิตก่อนก็เป็นได้

เขาตั้งใจติดตามเป็นผู้ช่วยให้ใต้เท้าโจวเช่นนี้ต่อไปดีแล้ว ด้วยความใจกว้างของใต้เท้าโจว ไม่เพียงไม่ต้องกังวลถึงเรื่องอาหารเครื่องนุ่งห่ม ต่อไปเมื่อใต้เท้าโจวมีชื่อเสียงรุ่งโรจน์แล้ว ไม่แน่ว่าตนอาจจะขอตำแหน่งในราชสำนักสักตำแหน่งหนึ่งได้ก็เป็นได้

ผู้ช่วยหลี่ขจัดความคิดนี้ออกไปเสีย กล่าวอย่างนอบน้อมว่า “ความหมายของใต้เท้าโจวก็คือ การถอดถอนยศจิ้นซื่อทำไม่ได้นอกจากจะมีข้อหาทุจริตการสอบ ประพฤติตนมิชอบ หรือการสอบขั้นสุดท้ายหมดอายุความ ข้อหาทุจริตการสอบง่ายที่สุด ทว่าก็เป็นวิธีที่ฆ่าศัตรูไปหนึ่งพันแต่ตัวเองก็สูญเสียทหารไปกว่าแปดร้อยนาย กล่าวคือ ครั้นมีการทุจริตการสอบเกิดขึ้น ขุนนางน้อยใหญ่และบัณฑิตจำนวนมากของจินหลิงจะถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย กรมพิธีการและกรมการตรวจตราจะส่งคนมาตรวจสอบ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองแล้วขุนนางน้อยใหญ่ของเมืองจินหลิงอาจจะยอมร่วมมือกับกรมพิธีการและกรมการตรวจตรา ครั้นกรมพิธีการและกรมการตรวจตราไม่อาจหาหลักฐานที่แน่ชัดเกี่ยวกับข้อสอบปีที่เฉิงลู่เข้าร่วมสอบได้ ขุนนางน้อยใหญ่ของเมืองจินหลิงอาจจะทำการฟ้องกลับได้ รังแต่จะเป็นการทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าทำให้เฉิงลู่ได้รับประโยชน์แทน…

…ถัดมาเป็นข้อหาการประพฤติตนมิชอบ…

…ใต้เท้าโจวบอกว่า ด้วยความรอบคอบและลิ้นที่คมคายของเฉิงลู่แล้ว คาดว่าข้อนี้อาจจะยากยิ่งกว่าข้อหาทุจริตการสอบอีกก็เป็นได้…

…สุดท้ายคือปล่อยให้การสอบขั้นสุดท้ายหมดอายุความ…

…เรื่องของเฉิงไป่บิดาของเฉิงลู่ได้ถูกตัดสินให้มีความผิดโดยท่านเจ้าเมืองแล้ว ถึงแม้จะมีคำกล่าวที่ว่า ความผิดของตัวเองไม่เกี่ยวข้องกับบุตรหลาน แต่ก็มีอีกคำกล่าวเช่นกันว่า ลูกของหนูย่อมขุดรูเป็น อยู่ด้วย ความหมายของใต้เท้าโจวก็คือ ไม่เสียหายที่จะลอบเอาเรื่องนี้ไปบอกให้จวนหลักทราบ อาศัยจวนหลักช่วยออกหน้าไปส่งสัญญาณแจ้งให้ทางการและสำนักศึกษาหลวงทราบ…หากขุนนางทั้งบนและล่างทั้งหลายในเมืองจินหลิงแพร่เรื่องนี้ออกไป เช่นนั้นคงจะดีไม่น้อย”

ขณะที่ผู้ช่วยหลี่กล่าวอยู่นั้น โจวเสาจิ่นครุ่นคิดพิจารณาอย่างละเอียดไปด้วยไม่หยุด กระทั่งผู้ช่วยหลี่กล่าวจบ ร่างของโจวเสาจิ่นก็ท่วมไปด้วยเหงื่อเย็น

หมากกระดานนี้ช่างหนักหนายิ่งนัก!

หากตระกูลที่เฉิงลู่พึ่งพาอาศัยอยู่ออกหน้ามาพูดว่าเขามีพรสวรรค์แต่ขาดคุณธรรม ขอให้สำนักศึกษาหลวงยึดยศซิ่วไฉของเขาเสีย ชีวิตนี้เฉิงลู่ก็อย่าหวังจะได้รับราชการเลย ต่อให้แก่ตัวไปก็อย่าคิดว่าจะได้รับการเคารพนับถือจากผู้อื่น แม้แต่ลูกหลานของเขาก็ไม่อาจได้ดองกับบุตรหลานจากตระกูลดีๆ ด้วยเหตุนี้ครอบครัวนี้ก็จะพังทลายลง ต้องต่อสู้ดิ้นรนอยู่ในสถานะที่ต่ำที่สุดของสังคม

แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่เฉิงลู่เสาะแสวงหามาเอง

เรื่องที่เกิดขึ้นในชาติก่อนไม่กล่าวถึง เรื่องที่เขากระทำในชาตินี้พวกเขาก็ไม่ได้ตามไปสืบสวน ทว่าเขากลับไม่ยอมวางมือครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้าพวกนางยอมปล่อยไป ต่อไปคงมีแต่พวกนางที่ต้องเผชิญกับหายนะ

โจวเสาจิ่นตัดสินใจแน่วแน่ กล่าวขึ้นว่า “เช่นนั้นพรุ่งนี้ข้าจะเข้าจวนไปหาท่านน้าฉือก็แล้วกัน เรื่องเช่นนี้ ยิ่งปล่อยเอาไว้นานยิ่งสร้างปัญหา นอกจากนี้เฉิงลู่ผู้นั้นก็กลับจินหลิงมาแล้ว ก่อนปีใหม่ยังนำของขวัญปีใหม่มามอบให้พวกข้าสองพี่น้องด้วยตัวเองราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาช่างเสแสร้งเก่งยิ่งนัก”

โจวชูจิ่นพยักหน้าเห็นด้วย ให้ฉือเซียงไปเตรียมป้ายชื่อเข้าพบ

โจวเสาจิ่นยิ้มน้อยๆ กล่าวว่า “ท่านพี่ ป้ายชื่อนี้จะให้เตรียมอย่างไรเจ้าคะ ใช้ป้ายชื่อของท่านพ่ออย่างนั้นหรือ หากคนของท่านพ่อไปซอยจิ่วหรูแล้วไม่ไปขอเยี่ยมท่านลุงใหญ่เหมี่ยนแต่กลับไปขอเยี่ยมท่านน้าฉือแทน คนอื่นจะต้องสงสัยเป็นแน่ หรือว่าจะให้เตรียมป้ายชื่อของข้าอย่างนั้นหรือ แต่ท่านน้าฉือเป็นถึงจิ้นซื่อขั้นสองนะเจ้าคะ!”

นางเป็นสตรีในห้องหอ ป้ายชื่อของนางจึงใช้ได้แค่ในเรือนชั้นในเท่านั้น

โจวชูจิ่นตบหน้าผากตัวเองเบาๆ กล่าวยิ้มๆ ว่า “ดูข้าสิ เลอะเลือนไปหมดแล้ว เช่นนั้นให้ฉือเซียงไปแจ้งที่จวนสักหน่อยก็พอ จะได้ไม่เป็นการเสียมารยาท” กล่าวอีกว่า “จู่ๆ เจ้าก็ไปหาท่านน้าฉือเช่นนี้ จะทำให้ผู้อื่นผิดสังเกตหรือไม่!”

โจวเสาจิ่นคิดดูแล้วก็เห็นว่ามีเหตุผล จึงปรึกษากับพี่สาวว่า “หรือไม่ พรุ่งนี้เชิญฮูหยินเข้าจวนไปคารวะท่านยายสักครั้ง ข้าจะได้ถือโอกาสนั้นไปเรือนหานปี้ซานดีหรือไม่”

“ความคิดนี้ดี!” โจวชูจิ่นกล่าว หันไปมองผู้ช่วยหลี่ กล่าวขึ้นว่า “ท่านผู้ช่วยคิดว่าอย่างไร”

ผู้ช่วยหลี่เองก็คิดว่าความคิดนี้ดี กล่าวยิ้มๆ ว่า “เช่นนั้นก็รบกวนคุณหนูทั้งสองแล้ว!”

โจวชูจิ่นและโจวเสาจิ่นไปที่ห้องหนังสือ

หลี่ซื่อเพิ่งอาบน้ำอาบท่าเสร็จ สาวใช้สองสามคนกำลังเช็ดผมให้นาง ได้ยินว่าโจวเสาจิ่นสองพี่น้องมาหา นางเกล้าผมที่ยังเปียกอยู่แล้วก็ออกจากห้องชั้นในไป

เนื่องจากยอมโอนอ่อนให้แล้ว การปฏิบัติตัวของโจวชูจิ่นต่อหลี่ซื่อจึงสุภาพขึ้นด้วยเช่นกัน รีบกล่าวยิ้มๆ ว่า “หากรู้แต่เนิ่นๆ ว่าผมของฮูหยินยังไม่แห้ง พวกข้าก็คงจะมาหาให้ช้ากว่านี้อีกสักหน่อย” จากนั้นเรียกให้สาวใช้นำผ้าขนหนูเข้ามา “ให้ข้าเช็ดผมให้ฮูหยินก็แล้วกัน!”

ตอนที่ 237 กลับจวน 1

ตอนที่ 237 กลับจวน 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน