เข้าสู่ระบบผ่าน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน นิยาย บท 314

โจวเสาจิ่นลูบใบพัดของกังหันลมเบาๆ ราวกับกำลังลูบดอกไม้อันงดงามในยามวสันต์

ปี้เถาเม้มปากกลั้นยิ้ม พลางกล่าวว่า “นายท่านสี่ช่างเป็นผู้ที่ใส่ใจจริงๆ เจ้าค่ะ รู้ว่าคุณหนูรองอยู่แต่ในบ้านแล้วจะรู้สึกเบื่อหน่าย จึงให้คนส่งกังหันลมเหล่านี้มาให้เป็นการเฉพาะ”

โจวเสาจิ่นพยักหน้า คิ้วของนางดูอ่อนโยนจนเหมือนจะหยดออกมาเป็นน้ำได้เลยทีเดียว นางบอกปี้เถาว่า “เสียบกังหันลมเหล่านี้ไว้ตามช่องหน้าต่างให้ที”

เช่นนี้นางก็จะได้ดูกังหันลมเหล่านี้จนผล็อยหลับไป

ปี้เถายิ้มน้อยๆ พลางขานรับว่า “เจ้าค่ะ” แล้วนำสาวใช้เด็กสองสามคนไปเสียบกังหันลมกันอย่างเบิกบาน

ทว่าฮูหยินผู้เฒ่ากัวกลับรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน

เจ้าสี่ต้องการทำอะไรกันแน่

อยากจะบอกการตัดสินใจของเขาให้นางทราบ และแสดงเจตจำนงของเขาอย่างนั้นหรือ

ฮูหยินผู้เฒ่ากัวดื่มน้ำชาติดๆ กันหลายจิบ แล้วอารมณ์ถึงได้สงบลงมาเล็กน้อย ยิ้มพลางกล่าวกับสาวใช้ที่อยู่ในห้องด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ว่า “นายท่านสี่ของพวกเจ้ามองเสาจิ่นเป็นเด็กน้อยไม่ประสาคนหนึ่ง พอเห็นนางป่วย ถึงกับซื้อกังหันลมกลับมาให้กองหนึ่ง”

ปี้อวี้เติมน้ำชาให้ฮูหยินผู้เฒ่าไปด้วย พลางกล่าวยิ้มๆ ไปด้วยว่า “คุณหนูรองอายุน้อยที่สุดในเรือนหานปี้ซาน ทั้งยังเป็นเด็กที่อ่อนโยนบอบบาง เห็นแล้วทำให้ผู้คนรู้สึกเอ็นดู นายท่านสี่ย่อมต้องมองคุณหนูรองเหมือนเป็นเด็กน้อยผู้หนึ่งเช่นกันเจ้าค่ะ! นี่ก็ถือว่าคุณหนูรองกับนายท่านสี่มีวาสนาต้องกัน หากเป็นคุณหนูเซิงที่กินน้ำแข็งจนจะละลายกลายเป็นน้ำอยู่แล้ว อย่าพูดถึงการหลอกล่อเหมือนเด็กๆ เลย แม้แต่ให้ความเคารพเสมือนเป็นคุณหนูคนหนึ่ง เกรงว่านายท่านสี่ยังอาจจะรู้สึกว่าไม่จำเป็นก็เป็นได้เจ้าค่ะ”

ขณะที่นางกล่าว เจินจูและคนอื่นๆ ที่ช่วยพัดฮูหยินผู้เฒ่ากัวอยู่ข้างๆ ต่างก็หัวเราะขึ้นมา

เฉิงเซิงมีร่างกายที่แข็งแรง โตจนป่านนี้แทบจะไม่เคยเจ็บป่วยไม่สบายเลยสักครั้ง มีครั้งหนึ่งที่ฝนตกหนัก และน้ำไหลหลาก น้ำในเรือนหานปี้ซานท่วมสูงถึงหนึ่งฉื่อ นางจึงสั่งให้สื่อมามาไปจับเป็ดมาปล่อยให้แหวกว่ายอยู่ในเรือน พอเป็ดตัวนั้นว่ายน้ำไม่เร็วทันใจ ยังถลกปลอกขาขึ้นมาแล้วลงน้ำไปวิ่งไล่เป็ดด้วยตัวเอง บังเอิญถูกเฉิงฉือเห็นเข้าพอดี เขารีบให้คนลากนางขึ้นมา ทั้งยังกลัวว่านางจะต้องลมเย็นจนเป็นไข้ จึงไปเชิญท่านหมอมาตรวจร่างกาย และต้มน้ำขิงให้นางดื่ม ใครจะรู้ว่าเฉิงเซิงไม่ยอมกินยา ซ้ำยังกรอกน้ำขิงนั้นลงในปากของสาวใช้คนสนิท ส่วนตนเองกลับไม่แม้แต่จะกระแอมไอเลยสักครั้ง…จากนั้นเป็นต้นมาต่อให้เฉิงเซิงจะแกะกระเบื้องบนหลังคา เฉิงฉือก็ไม่สนใจนางอีกแล้ว

ฮูหยินผู้เฒ่ากัวก็หัวเราะขึ้นมาด้วย

ทว่าในใจกลับรู้สึกขมขื่นเล็กน้อย

เด็กคนนี้ตั้งแต่เล็กก็มักจะขี้สงสารคนที่ตัวเล็ก อ่อนแอ และว่านอนสอนง่ายประเภทนั้น ลักษณะของเสาจิ่นจึงเป็นที่ถูกใจของเขา

จึงไม่แปลกไม่ว่าเรื่องอะไรเขาล้วนเก็บเด็กน้อยผู้นั้นมาใส่ใจ

ฮูหยินผู้เฒ่ากัวอดทอดถอนใจไม่ได้

ทว่าโจวเสาจิ่นกลับไม่กล้าออกไปเดินเล่นข้างนอกอีกแล้ว นางเรียกภรรยาของหม่าฟู่ซานเข้ามา หลังจากฝากฝังเรื่องส่งจดหมายให้หลี่จิ้งแก่ภรรยาของหม่าฟู่ซ่านเรียบร้อยแล้ว ก็กินยาพักผ่อนอยู่ในบ้านอย่างเชื่อฟัง จนกระทั่งฮูหยินผู้เฒ่ากัวมาเยี่ยมนางในตอนเย็น เมื่อถูกจับได้แล้ว นางจึงยิ่งต้องพักฟื้นร่างกายอยู่ในห้องแต่โดยดี

เพียงแต่ไม่ได้เห็นเฉิงฉือ นางจึงรู้สึกเสียใจเล็กน้อย

แต่เสียใจแล้วจะทำอย่างไรได้

นางจะไปถามท่านน้าฉือว่าไฉนถึงไม่มาเยี่ยมนางได้ด้วยหรือ

ยังไม่ต้องพูดถึงว่าท่านน้าฉืองานยุ่งมากในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้ เพียงแค่นางมีความคิดที่ไม่เหมาะสมต่อท่านน้าฉือ หากถูกท่านน้าฉือสังเกตเห็นขึ้นมา ก็เพียงพอที่จะทำให้นางอับอายจนตายแล้ว

นางนอนอยู่บนเตียง อารมณ์ห่อเหี่ยวลงมาเล็กน้อย

แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมาแล้วเห็นกังหันลมที่กำลังหมุนอยู่เหล่านั้น ก็รู้สึกหัวใจพองโตขึ้นอีกครั้ง รู้สึกชื่นบานคล้ายกับอารมณ์ขณะที่เดินทอดน่องกลางยามวสันต์ก็ไม่ปาน

เพียงแต่อารมณ์นี้คงอยู่ได้ไม่นานนัก

วันที่ได้รับกังหันลม นางส่งชุนหว่านไปขอบคุณเฉิงฉือ ชุนหว่านกลับมาแจ้งว่า เฉิงฉือเพียงตอบนางมาเบาๆ ว่า “เข้าใจแล้ว” ประโยคเดียว จากนั้นเขาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในทันที

ท่านน้าฉือบังเอิญซื้อมาโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือว่ากลัวนางจะรู้สึกเหงาเลยตั้งใจซื้อมาให้นางเพื่อดึงดูดความสนใจกันนะ

โจวเสาจิ่นเดาไม่ถูกเลยทีเดียว

นางนึกถึงบรรดาปิ่นลูกปัดแก้ว เครื่องประดับผมที่ทำจากไข่มุกทะเลใต้ และเครื่องประดับอื่นๆ ที่ทำจากปะการังสีแดงเหล่านั้นที่เฉิงฉือมอบให้นาง…แล้วรู้สึกว่าเฉิงฉือปฏิบัติกับตนเองแตกต่างออกไปบ้างไม่มากก็น้อย

โจวเสาจิ่นนอนขดตัวอยู่บนเตียง ประเดี๋ยวก็รู้สึกดีใจประเดี๋ยวก็รู้สึกโศกเศร้า วันเวลาล่วงผ่านไปโดยไม่รู้ตัว หากมิใช่เพราะได้ยินสาวใช้เด็กพูดคุยกันนอกหน้าต่างโดยบังเอิญว่าตอนที่ซื่อจื่อของจวนเหลียงกั๋วกงแต่งงานนั้นสินเจ้าสาวเกี้ยวแรกของคุณหนูใหญ่ตระกูลหลิวหามไปถึงจวนเหลียงกั๋วกงเรียบร้อยแล้ว แต่สินเจ้าสาวเกี้ยวสุดท้ายยังไม่ได้ยกออกมาจากตระกูลหลิวเลย สินเจ้าสาวของคุณหนูใหญ่หลิวคงมีค่ามากกว่าหนึ่งหมื่นเหลี่ยงเป็นอย่างน้อยนั้นล่ะก็ เกรงว่านางยังคงจะหมกมุ่นอยู่กับความคิดของตนเองจนสลัดให้หลุดออกมาไม่ได้เป็นแน่

“ชุนหว่าน” นางพยายามลุกขึ้นมานั่ง พลางกล่าวว่า “วันที่สิบห้าเดือนห้าผ่านไปแล้วหรือ”

ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเฉิงกับจวนเหลียงกั๋วกงนั้นไม่เลวนัก ตอนที่จูเผิงจวี่แต่งงาน ตามหลักแล้วตระกูลเฉิงควรจะไปร่วมงานกันทั้งตระกูล แม้ว่าฮูหยินผู้เฒ่ากัวและนายหญิงผู้เฒ่าคนอื่นๆ จะเป็นหม้าย ไม่อาจไปร่วมงานแต่งได้ แต่ตระกูลจูไม่ว่าอย่างไรก็น่าจะส่งเทียบเชิญมาให้ถึงจะถูก เหตุใดนางถึงไม่ได้ยินความเคลื่อนไหวใดๆ แม้แต่น้อยเลยเล่า

เฉิงฉือเองก็ไม่ได้มาเยี่ยมนางเลยสักครั้งเหมือนกัน!

ดวงใจของนางราวกับถูกเข็มทิ่มแทงอยู่ก็ไม่ปาน

ทว่าชุนหว่านกลับกล่าวยิ้มๆ ว่า “ท่านยังจะกล้าถามอีกหรือเจ้าคะ! วันนั้นตอนที่จวนเหลียงกั๋วกงส่งเทียบเชิญมาให้ คุณหนูใหญ่ของจวนเหลียงกั๋วกงยังกำชับมามาที่มาส่งเทียบเชิญแทนนางให้มาคารวะท่านเป็นพิเศษด้วย แต่ปรากฏว่าท่านนอนหลับสนิท ปลุกอย่างไรก็ปลุกไม่ตื่น ยังดีที่ฝานมามามีไหวพริบดี กล่าวขอโทษมามาท่านนั้น และเล่าเรื่องที่ท่านป่วยเป็นไข้ให้นางฟัง แล้วควักเงินส่วนตัวมอบให้มามาผู้นั้นไป หาไม่แล้วก็อาจจะกลายเป็นที่น่าขบขันไปเสียแล้วเจ้าค่ะ!”

ดวงหน้าของโจวเสาจิ่นแดงเถือกราวกับจะหลั่งโลหิตออกมาได้อย่างไรอย่างนั้น

ชุนหว่านยกรังนกเข้ามา ยิ้มพลางกล่าวว่า “คุณหนูรอง นี่เป็นรังนกที่นายท่านสี่ให้ซางมามาส่งมาให้ท่านเจ้าค่ะ ฝานมามาพาเสี่ยวถานและคนอื่นๆ ไปล้างนานครึ่งค่อนวันจึงจะล้างจนสะอาดหมดจด ท่านรีบดื่มตอนร้อนๆ เถิด! ถ้าเย็นชืดแล้วจะไม่อร่อยนะเจ้าคะ!”

โจวเสาจิ่นตะลึงงัน เอ่ยถามขึ้นว่า “เหตุใดจู่ๆ ท่านน้าฉือถึงได้ส่งรังนกมาให้เล่า”

ชุนหว่านกล่าวยิ้มๆ ว่า “หลายวันมานี้ฮูหยินผู้เฒ่ากัวเจ็บคอเล็กน้อย รังนกคุณภาพดีในบ้านล้วนถูกฮูหยินผู้เฒ่าส่งไปที่จิงเฉิงเมื่อหลายวันก่อนเพื่อมอบเป็นสินเจ้าสาวให้คุณหนูเซิงหมดแล้ว ดังนั้นนายท่านสี่จึงให้คนไปซื้อกลับมาอีกเป็นการเฉพาะ ซื้อมาทั้งหมดห้าจิน มอบให้ท่านสองจิน และฮูหยินผู้เฒ่ากัวสามจิน ฝานมามาเห็นว่าช่วงนี้สภาพจิตใจของท่านไม่สู้ดีนัก จึงต้มรังนกเอาไว้ส่วนหนึ่งเจ้าค่ะ”

โจวเสาจิ่นประหนึ่งถูกน้ำเย็นถังหนึ่งสาดใส่ก็ไม่ปาน

ท่านน้าฉือชอบนาง แต่ก็ไม่เหมือนหลี่จิ้ง

เมื่อเฉิงเจียผิดสัญญากับหลี่จิ้ง หลี่จิ้งที่ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทั้งกลัวว่าเฉิงเจียจะส่งคนไปตามหาเขา และกลัวว่านางจะแอบออกมาจากจวนโดยไม่ได้รับอนุญาต เขาไม่เพียงส่งคนไปเฝ้าดูจากโรงเตี๊ยม ยังลอบจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อเช่าชั้นสองของร้านขายของชำที่ตั้งอยู่ที่หน้าปากซอยจิ่วหรู พักอยู่ที่นั่นอีกสามสี่วันด้วย…

โจวเสาจิ่นพยายามกะพริบตาเพื่อซ่อนรอยเปียกชื้นที่ขอบตา พลางบอกให้ชุนหว่านตักน้ำเย็นมาให้นางล้างหน้า “…ไม่อาจทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ได้อีกแล้ว!”

ตอนที่ 314 กังหันลม 1

ตอนที่ 314 กังหันลม 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน