เข้าสู่ระบบผ่าน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน นิยาย บท 321

เมื่อได้ยินว่าเฉิงเจียกลับมาแล้ว โจวเสาจิ่นก็โล่งอกไปเปลาะหนึ่ง รู้สึกว่านี่สิถึงจะเป็นหลี่จิ้งคนที่นางประมาณการเอาไว้ผู้นั้น ไม่ใช้อำนาจที่เหนือกว่ากดข่มผู้คน ไม่ว่าสถานการณ์อะไรก็ล้วนวางเฉิงเจียเอาไว้ในตำแหน่งที่สำคัญที่สุด

ชุนหว่านกลับกล่าวยิ้มๆ ว่า “คุณหนูรอง คุณหนูเจียมาด้อมๆ มองๆ อยู่ด้านนอกประตู ป้ารับใช้ที่เฝ้าอยู่หน้าประตูให้นางเข้ามานางก็ไม่เข้ามา กลัวว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะไม่ชอบ ท่านไปดูนางสักหน่อยดีหรือไม่!”

โจวเสาจิ่นถามขึ้นอย่างแปลกใจว่า “เหตุใดเพิ่งกลับมานางก็วิ่งพล่านไปทั่วเช่นนี้ได้แล้วหรือ”

เสี่ยวถานที่ถือดอกฉัตรทองหนึ่งกำใหญ่เอาไว้เดินเข้ามายิ้มๆ เอ่ยตอบว่า “เป็นนายหญิงผู้เฒ่าหลี่บอกมาว่าตระกูลหลี่ไม่ได้มีกฎระเบียบมากมายขนาดนั้น ให้คุณหนูเจียสนใจเพียงดูแลรักษาร่างกายให้สบายใจ แต่งเข้าไปอย่างมีความสุขก็พอเจ้าค่ะ และด้วยคำพูดประโยคนี้ ทุกวันนี้ฮูหยินใหญ่หลูจึงเอาแต่นอนอยู่บนเตียง ทว่านายหญิงผู้เฒ่าหลี่กลับส่งหลี่มามาคนข้างกายไปช่วยฮูหยินใหญ่หลูจัดการงานบ้าน ฮูหยินใหญ่หลูเคืองโกรธยิ่งนักจึงไม่สนใจทำอะไรเลยสักอย่าง นายหญิงผู้เฒ่าหลี่จึงประเดี๋ยววันนี้ก็ซื้อเตียงหลังหนึ่งกลับมาให้คุณหนูเจีย ประเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ซื้อเก้าอี้ไม้ประดู่แดงชุดหนึ่งกลับมาให้คุณหนูเจีย ได้ยินคนที่เรือนหรูอี้กล่าวกันว่า แค่เครื่องเรือนก็มีถึงห้าชุดแล้ว แต่ฟังความหมายจากคำพูดของนายหญิงผู้เฒ่าหลี่แล้ว การแต่งงานครั้งนี้ จะให้ดีที่สุดทุกอย่างต้องจัดเป็นคู่ๆ ยังต้องรวบรวมอีกหนึ่งชุดถึงจะสมเกียรติ จึงสั่งให้พ่อบ้านไปหังโจว บอกว่าต้องการซื้อไม้หนานมู่จากที่นั่นกลับมาบางส่วน แม้แต่นายท่านใหญ่หลูยังทนดูไม่ได้ เกลี้ยกล่อมนายหญิงผู้เฒ่าหลี่ไปหลายประโยค นายหญิงผู้เฒ่าหลี่จึงไม่พอใจ บอกว่าเงินที่นางใช้ซื้อของให้คุณหนูเจียล้วนเป็นเงินส่วนตัวของนางเอง ไม่ได้ใช้เงินของจวนสามเลยแม้แต่แดงเดียว หากผู้ใดทนดูไม่ได้ หากผู้ใดรู้สึกไม่ชอบใจ ก็ให้มาพูดต่อหน้านาง ไม่ต้องเอาไปพูดลับหลังทำตัวเป็นคนขี้ขลาด ยังบอกอีกว่า เงินสินติดตัวของนาง นางอยากจะใช้อย่างไรก็ได้ ตั้งแต่เมื่อไรกันที่ตระกูลเฉิงยากจนถึงขั้นต้องมาคิดบัญชีกับเงินสินติดตัวของสะใภ้เช่นนี้! ความนัยในคำกล่าวนั้นคือจะบอกว่านายท่านใหญ่หลูรับการยุยงของฮูหยินใหญ่หลูมาช่วงชิงเอาเงินส่วนตัวของนาง…

…นายท่านใหญ่หลูได้แต่ยอมจำนนโดยไม่กล้ากล่าวอะไรอีกแม้สักประโยค ส่วนฮูหยินใหญ่หลูก็โกรธจนไม่กินอะไรอยู่หลายวัน แม้แต่คุณชายใหญ่เจิ้ง ก็ได้แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้อะไรสักอย่างเท่านั้น…

…ฉะนั้นใครยังจะกล้าไปยุ่งเรื่องของคุณหนูเจียอีกเจ้าคะ!”

นี่เป็นครั้งแรกที่โจวเสาจิ่นได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้

นางร้อง “อ้อ” ขึ้นเสียงหนึ่งอย่างห้ามไม่อยู่ กล่าวยิ้มๆ ว่า “เสี่ยวถาน ข้าคิดไม่ถึงว่าสายข่าวของเจ้าจะรวดเร็วเพียงนี้!”

เสี่ยวถานหน้าแดงเล็กน้อย เอ่ยขึ้นว่า “ข้าก็เพียงเติบโตอยู่ในจวนมาตั้งแต่เล็กจึงรู้จักคนมากกว่าคนอื่นก็เท่านั้นเจ้าค่ะ”

การรู้จักคนมากก็เป็นข้อได้เปรียบเช่นกัน!

โจวเสาจิ่นยิ้มหวานขณะเดินไปหาเฉิงเจีย

เฉิงเจียยังคงกลัวว่าจะถูกฮูหยินผู้เฒ่ากัวตำหนิจริงๆ จึงลากโจวเสาจิ่นไปนั่งคุยกันบนตั่งหินข้างทะเลสาบของเรือนหานปี้ซานแทน “…เจ้าไม่รู้อะไร นับตั้งแต่ที่เจ้าไม่สบายในครั้งนั้น ฮูหยินผู้เฒ่ากัวก็หมายหัวข้าเอาไว้แล้ว ข้าจึงไม่อยากไปยั่วโทสะนางอีก”

โจวเสาจิ่นมองสำรวจเฉิงเจียตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เห็นนางแข็งแรงมีชีวิชีวาดี เมื่อเทียบกับหลายวันก่อนแล้วราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ถึงได้วางใจลงได้จริงๆ กล่าวยิ้มๆ ว่า “ฮูหยินผู้เฒ่าดูเย็นชาทว่าจิตใจดียิ่งนัก เจ้าไปกล่าวขอโทษนางสักครั้งและไปพูดคุยดีๆ ด้วยสักสองสามประโยค นางก็หายโกรธแล้ว”

เฉิงเจียแลบลิ้น กล่าวขึ้นว่า “ข้าไม่กล้า หากอยากไปเจ้าก็ไปเถิด!”

ความสัมพันธ์ของคนเรานี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับพรหมลิขิตด้วย

โจวเสาจิ่นเองก็ไม่ได้บีบคั้นนาง กล่าวขึ้นว่า “เจ้าเองก็จริงๆ เลย! ต่อให้อยากไปหาหลี่จิ้ง ก็ต้องวางแผนให้ดีก่อนถึงจะถูก เหตุใดถึงหนีออกไปอย่างไม่ระมัดระวังเช่นนั้นเล่า ตอนนั้นพวกเราต่างเป็นกังวลใจ กลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นกับเจ้า…”

เฉิงเจียกล่าวตัดบทคำพูดของโจวเสาจิ่นอย่างอับอายว่า “เจ้าอย่าพูดอีกเลย! ช่วงหลายวันก่อนนั้นหลี่จิ้งก็พร่ำบ่นคำพูดพวกนี้อยู่ข้างหูข้าทุกวัน จนหูของข้าเกือบจะชาไปหมดแล้ว เจ้าอย่าเป็นไปด้วยอีกคนเลย ข้ายอมรับผิดแล้วยังไม่พอหรือ ข้าได้สาบานต่อหน้าหลี่จิ้งไปแล้วว่าต่อไปจะไม่ทำเรื่องที่ทำให้คนที่รักต้องเป็นกังวลใจเช่นนี้อีก เจ้าเมตตาข้าเถิด!”

ดูแล้วหลี่จิ้งมิได้ถูกเฉิงเจียปั่นหัวจนเลอะเลือน

เฉิงเจียนั้นจำเป็นต้องมีคนเช่นนี้มาคอยควบคุมดูแลสักคน!

โจวเสาจิ่นเม้มปากกลั้นยิ้ม

เฉิงเจียจึงหยิบกล่องไม้จันทน์แดงแกะสลักดอกโบตั๋นขนาดเท่าฝ่ามือกล่องหนึ่งออกมา กล่าวขึ้นว่า “นี่เป็นของขวัญขอบคุณที่หลี่จิ้งมอบให้เจ้า!”

โจวเสาจิ่นประหลาดใจยิ่งนัก รับมาอย่างยินดี

เฉิงเจียยิ้มพร้อมกับกล่าวว่า “เจ้าลองเปิดดู ข้ากับหลี่จิ้งเลือกด้วยกัน”

โจวเสาจิ่นเปิดกล่องออก

ภายในกล่องบุผ้ากำมะหยี่สีม่วงแดงเอาไว้มีหินสีเขียวมรกตวางอย่างเงียบเชียบอยู่ห้าเม็ด แต่ละเม็ดมีขนาดใหญ่เท่าไข่นกพิราบ สีเขียวเปล่งประกายงดงามสุกใส ทำให้แม้แต่ความงามของฤดูใบไม้ผลิยังดูจืดชืดไปเลยทีเดียว

“นี่…” โจวเสาจิ่นเบิกดวงตาโต

นี่นับเป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นหินสีเขียวมรกตน้ำดีขนาดนี้

“มอบให้เจ้า!” เฉิงเจียกล่าวขึ้นอย่างภาคภูมิ “งดงามหรือไม่! ข้าบอกแล้วว่าเจ้าจะต้องชอบ หลี่จิ้งยังเตรียมจะมอบทับทิมให้เจ้าด้วย!”

“งดงามมาก!” โจวเสาจิ่นกล่าวอย่างจริงใจ ครุ่นคิดครู่หนึ่ง เก็บเอาไว้อย่างยินดี “ข้าชอบมาก!”

อย่างมากตอนที่เฉิงเจียแต่งงานเวลาตนเติมสินสอดให้นางค่อยหาของดีๆ สักชิ้นมาให้นางก็แล้วกัน

เฉิงเจียเห็นโจวเสาจิ่นชอบของที่ตนเลือกก็ดีใจเป็นอย่างมาก นางกับโจวเสาจิ่นพูดคุยกันเจื้อยแจ้วถึงเรื่องของหลี่จิ้งไปกว่าครึ่งค่อนวัน

ทว่าโจวเสาจิ่นกลับคิดถึงเฉิงฉือ

ตอนที่ท่านลุงใหญ่หลูมาขอให้ฮูหยินผู้เฒ่าช่วยส่งข่าวไปให้เฉิงฉือนั้น ฮูหยินผู้เฒ่าไม่ได้ปฏิเสธ

ท่านน้าฉือจะต้องไม่ได้กลับมาตามกำหนดการเป็นแน่

เพียงแต่ไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาตอนไหนเท่านั้น

รอให้เขากลับมาถึงบ้าน พอทราบว่าหลี่จิ้งกับเฉิงเจียหมั้นหมายกันแล้ว จะต้องประหลาดใจมากเป็นแน่

นึกภาพใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกใดๆ ของเฉิงฉือเผยสีหน้าประหลาดใจออกมาแล้ว โจวเสาจิ่นก็หัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

เฉิงเจียกระทุ้งนาง “เจ้าหัวเราะอะไร เรื่องที่ข้ากล่าวมาเมื่อครู่น่าขบขันมากหรือ”

จริงๆ แล้วโจวเสาจิ่นไม่รู้ว่าเฉิงเจียพูดอะไรไปบ้าง จึงกล่าวเลี่ยงอย่างกำกวมไปว่า “ข้ารู้สึกน่าขบขันเล็กน้อย”

เฉิงเจียขยับเข้ามากระซิบที่ข้างหูของโจวเสาจิ่นด้วยใบหน้าแดงเรื่อว่า “เช่นนั้นข้าจะถือว่าเจ้ารับปากแล้ว!”

นางรับปากอะไรอย่างนั้นหรือ

โจวเสาจิ่นมีสีหน้าเหรอหราเล็กน้อย

ตอนที่ 321 เคลื่อนไหว 1

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน