เข้าสู่ระบบผ่าน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน นิยาย บท 327

ฮูหยินผู้เฒ่ากวนลูบลูกประคำไม้กฤษณาสิบแปดเม็ดบนข้อมือเบาๆ ไม่ได้เอื้อนเอ่ยคำใด

สาวใช้เด็กยกน้ำชา ของว่างและผลไม้เข้ามา

โจวเสาจิ่นรับมาอย่างยิ้มแย้ม นำไปวางไว้บนโต๊ะน้ำชา ชี้ไปยังพุทราที่แดงครึ่งหนึ่งเขียวครึ่งหนึ่งในจานผลไม้พร้อมกับกล่าวขึ้นว่า “ท่านยาย วันนี้ท่านมาได้ประจวบเหมาะพอดีเลยเจ้าค่ะ! นี่เป็นพุทราที่ท่านน้าฉือให้คนส่งมาให้เมื่อวาน บอกว่าเป็นพุทราจากซานตง ทั้งกรอบและหวาน ท่านต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน”

การพูดจาไม่มีความประหวั่นเลยสักนิด ให้การรับรองนางประหนึ่งเป็นเจ้าบ้านร่วมผู้หนึ่ง

ฮูหยินผู้เฒ่ากวนจึงหยิบพุทราขึ้นมาลูกหนึ่งพร้อมกับกล่าวยิ้มๆ ว่า “เช่นนั้นข้าจะลองชิมดู”

โจวเสาจิ่นยิ้มอย่างงดงาม ใช้ตะเกียบงาช้างคีบขนมวุ้นใสชิ้นหนึ่งให้ฮูหยินผู้เฒ่ากัว กล่าวเสียงนุ่มว่า “อันนี้เพิ่งทำมาใหม่ของวันนี้ ไม่หวานเท่าเมื่อวาน ข้ายังให้คนเติมแป้งสาลีลงไปด้วยเล็กน้อย ดูงดงามกว่าของเมื่อวานหรือไม่เจ้าคะ” ดูราวกับเด็กน้อยที่ต้องการคำชมจากผู้ใหญ่ก็ไม่ปาน

ฮูหยินผู้เฒ่ากัวจึงกล่าวขึ้นว่า “ดูแล้วขาวกว่าของเมื่อวาน!” จากนั้นชิมคำหนึ่ง แล้วเอ่ยต่อว่า “ใส่อะไรลงไปในนี้หรือ ไม่เหมือนน้ำตาลผง รสชาติอ่อนกว่าน้ำตาลผง ทว่ารสที่ติดอยู่ตรงปลายลิ้นยาวนานกว่า”

โจวเสาจิ่นหัวเราะชอบใจ กล่าวขึ้นว่า “เป็นน้ำตาลกรวดเจ้าค่ะ ละลายน้ำแล้วเติมเข้าไป ท่านช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก ชิมเพียงคำเดียวก็รู้รสแล้ว”

ฮูหยินผู้เฒ่ากัวหัวเราะร่า เอ่ยขึ้นว่า “ข้าก็มีความสามารถแค่เรื่องนี้แล้ว”

โจวเสาจิ่นย่นจมูก ดูน่ารักน่าเอ็นดูอย่างยิ่ง

จากนั้นดันจอกชาไปทางเบื้องหน้าฮูหยินผู้เฒ่ากัวอย่างรู้ความ แล้วกล่าวกับฮูหยินผู้เฒ่ากวนว่า “ท่านยาย ดื่มน้ำชาเถิด เป็นชากวาเพี่ยนจากลิ่วอันเจ้าค่ะ”

ชากวาเพี่ยนจากลิ่วอันเป็นชาที่มีน้ำชาใสสีอ่อนๆ ค่อนข้างเหมาะสำหรับให้คนมีอายุดื่ม

ฮูหยินผู้เฒ่ากวนค่อยๆ คายเมล็ดพุทราออกมาวางไว้ในจานกระเบื้องขอบทองขนาดเล็กที่อยู่ข้างๆ นึกถึงตอนที่โจวเสาจิ่นได้พบกับฮูหยินผู้เฒ่ากัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกขึ้นมา

นางให้โจวเสาจิ่นตั้งใจปรนนิบัติฮูหยินผู้เฒ่ากัวให้ดี โจวเสาจิ่นที่ได้รับการปรนนิบัติจากผู้อื่นมาจนชินจึงยังรู้สึกอึดอัดใจอยู่บ้างเล็กน้อย

แต่เหตุการณ์ผ่านไปเพียงสองปี นางก็ปรนนิบัติฮูหยินผู้เฒ่ากัวได้เสมือนกับเป็นผู้อาวุโสของตัวเองเสียแล้ว

นางรู้จักนิสัยของโจวเสาจิ่นเป็นอย่างดี ด้วยมีบิดาเป็นที่พึ่ง อีกทั้งยังมีความหยิ่งทะนงอยู่ในตัวหลายส่วน การได้ทำหน้าที่ปรนนิบัติดูแลฮูหยินผู้เฒ่ากัว ด้วยชื่อเสียงและอิทธิพลของจวนหลักย่อมไม่อาจให้นางก้มศีรษะลงต่ำได้ คงเป็นเพราะฮูหยินผู้เฒ่ากัวปฏิบัติกับนางประหนึ่งเป็นหลานแท้ๆ นางถึงได้ยังอ่อนหวานและเชื่อฟังเช่นนี้

ฮูหยินผู้เฒ่ายกจอกชาขึ้นมาจิบคำหนึ่ง

ตอนอยู่ที่จวนสี่ ทั้งร่างของนางเต็มไปด้วยหนาม แต่พอมาถึงจวนหลัก นางกลายเป็นดอกไม้งดงามดอกหนึ่ง

อี้เกอเอ๋อร์ จะเลี้ยงดูดอกไม้ดอกนี้ หรือปกป้องดอกไม้ดอกนี้ได้หรือ

ฮูหยินผู้เฒ่ากวนรู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่ส่งโจวเสาจิ่นมาอยู่ที่จวนหลัก

แต่ถ้าหากไม่มีการชี้แนะของฮูหยินผู้เฒ่ากัว จวนสี่จะสนใจโจวเสาจิ่นคนก่อนหรือ

ครอบครัวหนึ่งๆ หากต้องการดีขึ้น ต้องการเจริญรุ่งเรืองขึ้น นอกจากต้องมีคนแล้ว คนยังต้องสมัครสมานสามัคคี ปรองดองรวมเป็นหนึ่ง

ภรรยาของเก้าเกอเอ๋อร์คือหญิงสาวของตระกูลเหอ มาจากตระกูลเก่าแก่ บิดาเป็นขุนนางใหญ่ขั้นสามเจิ้ง

ถ้าหากภรรยาของอี้เกอเอ๋อร์เป็นโจวเสาจิ่น หน้าตาเช่นนี้ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ทำให้คนมองด้วยความชื่นชมอย่างช่วยไม่ได้ แต่มาจากครอบครัวเดี่ยวไร้ญาติพี่น้อง บิดาเป็นเจ้าเมืองขั้นสี่จึงทำให้นางกลายเป็นไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก…แต่เมื่อโจวเสาจิ่นมีจวนหลักเป็นที่พึ่งแล้ว แม้นจะไม่ตั้งใจ ก็จะกดทับหญิงสาวจากตระกูลเหออยู่บ้างเล็กน้อย

ต่อให้หญิงสาวจากตระกูลเหอจะเฉลียวฉลาดกว่าโจวเสาจิ่น แต่คนบนโลกนี้ส่วนใหญ่ก็มองแต่เปลือกนอก หญิงสาวจากตระกูลเหอผู้นั้นก็คงจะต้องขมขื่นไม่น้อย

นอกจากนี้หากสะใภ้คนรองเหนือกว่าสะใภ้คนโตที่เป็นเจ้าบ้าน มักจะเป็นบ้านที่วุ่นวาย

เสาจิ่นไม่เหมาะจะมาเป็นสะใภ้ของจวนสี่แล้วจริงๆ

ฮูหยินผู้เฒ่ากวนพลันไร้ชีวิตชีวาขึ้นมา

คำพูดที่นางคิดแล้วคิดอีก ขัดเกลาและแก้ไขครั้งแล้วครั้งเล่าเหล่านั้นมาถึงวันนี้ไร้ซึ่งความหมายใดๆ แล้ว

ฮูหยินผู้เฒ่ากัวเฝ้าสังเกตสีหน้าของฮูหยินผู้เฒ่ากวนอยู่ตลอด

เมื่อเห็นดวงหน้าของนางเผยความผิดหวังออกมาให้เห็นหลายส่วน ดวงใจที่แขวนเอาไว้ถึงได้วางลงมาได้

นางไม่อาจเก็บเสาจิ่นเอาไว้ที่บ้าน

ยิ่งไม่อาจให้โจวเสาจิ่นกับเฉิงอี้หมั้นหมายกัน

ถ้าหากบอกว่าเมื่อก่อนรู้สึกว่าเฉิงอี้ไม่เหมาะสมกับโจวเสาจิ่น เช่นนั้นตอนนี้นางกลับกลัวว่าบุตรชายจะทำเรื่องอื้อฉาวอย่างการช่วงชิงหลานสะใภ้มา ตอนเป็นวัยรุ่นผู้ใดบ้างไม่เลือดร้อน บางครั้งก็ทำเพื่อสตรี บางครั้งก็ทำเพื่อการเตรียมตัวสอบ บางครั้งก็เพื่อความพอใจ แต่เมื่ออายุมากขึ้น มีประสบการณ์ชีวิตเพิ่มขึ้น ความเลือดร้อนนั้นก็จะค่อยๆ จางหายไป แต่ครั้งนี้ ทั้งๆ ที่บุตรชายหารือกับนางแล้วเสียดิบดีว่าจะให้ฟางต้าเซี่ยนออกหน้าทาบทามคู่ครองให้เฉิงอี้ แต่กลับลอบดึงโจวเสาจิ่นออกมาเสียอย่างลับๆ บุตรชายราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคนในเวลาชั่วพริบตา จัดการให้เฉิงจิงทาบทามคู่ครองให้เฉิงอี้อย่างง่ายๆ และโฉ่งฉ่าง

นางไม่รู้ว่าบุตรชายคนเล็กของตัวเองผู้นี้ตั้งใจทำอะไรกันแน่!

หลายวันมานี้ฮูหยินผู้เฒ่ากัวล้วนนอนไม่ค่อยหลับ

นางเชื่อว่าบุตรชายของตัวเองเป็นคนแน่วแน่มั่นคงและระมัดระวัง ไม่เหมือนกับชายหนุ่มเลือดร้อนเหล่านั้น แต่ในใจเขาก็ชอบโจวเสาจิ่น ไม่อย่างนั้นคงไม่ปล่อยให้โจวเสาจิ่นทำเสมือนกับว่าเรือนหลีอินเป็นสวนผักหลังบ้านที่อยากเข้าก็เข้า อยากออกก็ออกเมื่อไรก็ได้อย่างไม่รู้ไม่ชี้เช่นนั้น

คนที่มาให้ตัวเองเห็นตรงหน้าบ่อยๆ กับความคิดถึงที่อยู่ไกลๆ นั้นไม่เหมือนกัน

คนที่มาให้ตัวเองเห็นตรงหน้าบ่อยๆ นั้น ความรู้สึกมีแต่จะยิ่งลึกซึ้งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนความคิดถึงที่อยู่ไกลๆ นั้นวันเวลาทำให้มันจืดจางลงได้

นางไม่อยากเสี่ยง

ดังนั้นนางจึงเอาอกเอาอกใจเด็กสาวผู้นี้เหมือนกับที่เคยทำมา

ให้ครอบครัวที่เรียบง่ายอย่างจวนสี่ได้รู้จักล่าถอย

แล้วนางค่อยหาสามีดีๆ ให้เด็กผู้นี้สักคน บุตรชายก็จะรู้จักล่าถอยไปเอง

ไม่อย่างนั้นนางก็คงจะกลายเป็นคนที่กลืนคำพูดของตัวเองไปเสียแล้ว กล่าวคือนางเกลี้ยกล่อมให้จวนสี่ส่งโจวเสาจิ่นเข้ามาอยู่ที่จวนหลักเพื่อไม่ให้คนนอกคิดว่าโจวเสาจิ่นเป็นเด็กที่จวนสี่เอามาเลี้ยงทำเป็นสะใภ้ สุดท้ายปรากฏว่ากลับกลายมาเป็นบุตรสะใภ้ของตัวเองแทน ในสายตาของผู้อื่นแล้ว โจวเสาจิ่นก็ไม่พ้นเป็นเด็กที่เอามาเลี้ยงเพื่อเป็นสะใภ้ผู้หนึ่งอยู่ดี

เด็กผู้นี้ช่างโชคร้ายจริงๆ!

เมื่อนึกถึงว่าโจวเสาจิ่นถูกนางใช้เป็นเครื่องมือแล้วก็ยังไม่รู้เรื่องรู้ราว ยังคงทุ่มเทเอาใจใส่นางเป็นอย่างดีแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่ากัวรู้สึกไม่กล้าสบตาโจวเสาจิ่นอยู่บ้างเล็กน้อย ตัดสินใจว่าต้องรีบจัดการตัดปมปัญหาเรื่องนี้ให้เด็ดขาดในดาบเดียวเสีย

ตอนที่ 327 แต่ละบุคคล 1

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน