เข้าสู่ระบบผ่าน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน นิยาย บท 352

ฮูหยินผู้เฒ่ากัวประหลาดใจเป็นอย่างมาก

โจวเสาจิ่นถึงได้รู้สึกว่าหม่าฟู่ซานมาได้ไม่ถูกเวลาเท่าไรนัก

กลัวว่าฮูหยินผู้เฒ่ากัวกับท่านน้าฉือคงจะเข้าใจผิดคิดว่าเขามาเพื่อหนุนหลังตน

โจวเสาจิ่นรีบอธิบายว่า “ข้าเป็นคนเรียกเขามาเจ้าค่ะ ก่อนหน้านี้อยากให้เขาช่วยส่งของบางอย่างกลับเป่าติ้ง”

เกรงว่าคนข้างกายของเสาจิ่นคงจะกลัวนางเสียเปรียบ จึงตั้งใจคาบข่าวไปบอกกระมัง

ทว่าฮูหยินผู้เฒ่ากัวกลับไม่มีอารมณ์มาสนใจเรื่องพวกนี้แต่อย่างใด

เดิมทีก็เป็นความผิดของพวกเขาตั้งแต่แรก เสาจิ่นจะยอมปล่อยให้ตนเองถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียวได้หรือ

ฮูหยินผู้เฒ่ากัวกล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “ไปเถิด! ดูว่าหม่าฟูซานมาหาเจ้าด้วยเรื่องอะไร”

นางรู้ดีว่าไม่อาจปกปิดฮูหยินผู้เฒ่ากัวได้

โจวเสาจิ่นรู้สึกละอายใจเล็กน้อย ออกมาจากเรือนหลักของเรือนหานปี้ซาน แล้วไปพบหม่าฟู่ซาน

หม่าฟู่ซานไม่ได้มาคนเดียว ยังพาชายฉกรรจ์รูปร่างกำยำสองสามคนมาด้วย เพียงแต่ทิ้งทุกคนไว้ที่ด้านนอกเรือนหานปี้ซานเท่านั้น ตามคำกล่าวของเขาบอกว่า “พวกข้ามิได้มาทะเลาะกับตระกูลเฉิง เพียงอยากจะปกป้องคุณหนูรองไม่ให้ถูกผู้อื่นบีบบังคับรั้งตัวเอาไว้เท่านั้นขอรับ”

ตอนเห็นนางยังมองสำรวจจากหัวจรดเท้าอย่างไม่ปิดบัง กลัวว่านางจะสูญเสียเส้นผมไปสักเส้นหนึ่ง

หากมิใช่เพราะบิดาให้ความสำคัญกับนาง หม่าฟู่ซานจะปฏิบัติกับนางเช่นนี้ได้อย่างไร

โจวเสาจิ่นรู้สึกแสบจมูกขึ้นมา ยิ่งรู้สึกอยากจะไปเป่าติ้งมากขึ้น ตาไม่เห็นจะได้ไม่ต้องรู้สึกกวนใจ หากอยู่ที่นี่แล้วได้เห็นหน้าท่านน้าฉือทุกวัน ซ้ำยังต้องได้ยินฮูหยินผู้เฒ่ากัวกับหยวนซื่อคุยเรื่องแต่งงานของท่านน้าฉืออีก ชีวิตในแต่ละวันคงจะเหมือนเนื้อที่ถูกเฉือนด้วยมีดทื่อไร้ความคมเล่มหนึ่ง เจ็บปวดชอกช้ำถึงทรวง เพียงแต่ต่อให้เจ็บเพียงใดก็มิอาจร้องออกมาได้

นางกล่าวกับหม่าฟู่ซานว่า “มีท่านน้าฉืออยู่ด้วย ข้าย่อมไม่เป็นไร เพียงแต่เรื่องบางเรื่องข้ามิอาจอธิบายให้ท่านพ่อฟังตรงๆ ได้ ท่านช่วยเขียนจดหมายถึงท่านพ่อให้ข้าที บอกว่าข้าอยากไปฉลองปีใหม่ที่เป่าติ้ง ประเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้า ท่านมารับข้าก็แล้วกัน ไม่ว่าท่านพ่อจะตอบกลับมาเช่นไร ข้าก็มิอาจอาศัยอยู่ที่ซอยจิ่วหรูได้อีกต่อไปแล้ว”

เฉิงสวี่พักฟื้นอยู่ในห้องหลังฉากกั้นของฮูหยินผู้เฒ่ากัว

หม่าฟู่ซานพยักหน้ารับคำ พลางกล่าวว่า “ข้าเข้าใจแล้วขอรับ พรุ่งนี้เช้าจะมารับคุณหนูรอง”

ขณะที่โจวสเาจิ่นกำลังส่งเขาออกไปนั้น ชุนหว่านก็พรวดเข้ามาราวสายลม

“คุณหนูรองเจ้าคะๆ!” นางหอบหายใจ ทว่านัยน์ตากลับเปล่งประกายดั่งดวงดาวบนท้องฟ้าก็ไม่ปาน “นายท่านสี่เก่งกาจยิ่งนัก เพียงพูดไม่กี่คำ ก็พลิกสถานการณ์เปลี่ยนให้คุณชายใหญ่สวี่ถูกคนวางยา แล้วไปล่วงเกินแม่นางจี๋อิ๋งขณะไม่มีสติ…”

“หา!” โจวเสาจิ่นกับหม่าฟู่ซานต่างตกตะลึงพรึงเพริด โจวเสาจิ่นยิ่งแล้วใหญ่เอ่ยถามว่า “เช่นนั้นแม่นางจี๋อิ๋งเป็นอย่างไร ถูกทำโทษหรือไม่ ท่านน้าฉือพูดอะไรไปบ้าง เจ้ารีบเล่าให้ข้าฟังเร็วๆ เข้า”

โยนเรื่องไปให้สาวใช้ผู้หนึ่ง ย่อมดีกว่าอยู่แล้ว

หม่าฟู่ซานยังไม่ออกไป ยืนอยู่ที่ประตูฟังชุนหว่านเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโถงนั่งเล่น “…ฮวนสี่กับต้าซูถูกเรียกตัวไป ทว่ายังไม่ได้ซักถามก็ถูกโบยด้วยกระดานไม้คนละสิบครั้งเสียก่อนแล้ว ต้าซูยังดี ทว่าฮวนสี่ยืนแทบไม่ไหว ต้องให้บ่าวเด็กช่วยประคองไว้ขณะถูกสอบปากคำเจ้าค่ะ” คงเป็นเพราะนึกถึงสภาพน่าสังเวชในตอนนั้น สีหน้าของชุนหว่านซีดเผือดเล็กน้อย “ฮวนสี่กับต้าซูต่างสาบานว่า คุณชายใหญ่สวี่ไม่เคยกินยาจำพวกผงห้าศิลามาก่อนเจ้าค่ะ จากนั้นนายท่านใหญ่เหมี่ยนของจวนสี่ที่ถูกส่งตัวไปค้นเรือนตัวจย้าก็กลับมาบอกว่าในเรือนของคุณชายใหญ่สวี่ไม่มีของประเภทนั้นอยู่เจ้าค่ะ…ตอนนี้ทุกคนต่างถกกันว่าใครเป็นคนมอบของพวกนั้นให้คุณชายใหญ่สวี่ เรื่องของคุณหนูรองกลับไม่มีผู้ใดสนใจเลยสักนิด นายท่านสี่จึงปล่อยข้ากลับมา บอกว่าสองสามวันนี้ให้ข้าอยู่แต่ในเรือน อย่าออกไปที่ไหน หากมีเรื่องอะไรอาจจะเรียกข้าไปสอบถามอีกก็ได้เจ้าค่ะ!”

โจวเสาจิ่นยกยิ้มมุมปากบางเบา

นางรู้ดีว่า มีท่านน้าฉืออยู่ด้วย นางจะต้องปลอดภัยไร้รอยแผลอย่างแน่นอน

“แล้วจี๋อิ๋งเล่า” โจวเสาจิ่นเอ่ยถาม “ปล่อยนางกลับมาด้วยหรือเปล่า นางไม่ได้มาพร้อมกับเจ้าหรือ”

ท่านน้าฉือใส่ความนางเช่นนี้ นางจะต้องโกรธมากเป็นแน่!

ฉับพลันรอยยิ้มของชุนหว่านก็มลายหายไป ตอบว่า “นายท่านสี่บอกว่า คุณชายใหญ่สวี่ถูกแม่นางจี๋อิ๋งทำร้าย แม้ว่าคุณชายใหญ่สวี่จะเป็นบุรุษสูงเจ็ดฉื่อคนหนึ่ง แต่นายกับบ่าวนั้นมีฐานะต่างกัน แม่นางจี๋อิ๋งจึงถูกคุมขังไว้ชั่วคราว รอให้เรื่องของคุณชายใหญ่สวี่ตรวจสอบจนเป็นที่กระจ่างแล้วค่อยมาจัดการแม่นางจี๋อิ๋งเจ้าค่ะ!”

โจวเสาจิ่นรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา

นางเป็นคนเรียกตัวจี๋อิ๋งมา

หากว่านางไม่เรียกจี๋อิ๋งมา จี๋อิ๋งก็คงจะไม่ก่อเรื่องเช่นนี้

“เจ้ารู้หรือไม่ว่านางถูกขังอยู่ที่ใด” โจวเสาจิ่นเอ่ยถาม

ชุนหว่านน้ำตาเอ่อคลอ พลางกล่าวว่า “ข้าไม่ทราบเจ้าค่ะ นางถูกซักถามเสร็จก็ถูกอาไหวซานพาตัวไปแล้ว เรื่องที่นางถูกคุมขังก็เป็นชิงเฟิงที่มาบอกข้าเจ้าค่ะ ข้ารีบมารายงานคุณหนูรอง เลยไม่ได้ซักถามให้ละเอียด คิดว่าประเดี๋ยวเมื่อคนที่โถงนั่งเล่นแยกย้ายกันแล้ว ค่อยไปสอบถามชิงเฟิงใหม่เจ้าค่ะ”

“เจ้าไปเดี๋ยวนี้เถิด!” โจวเสาจิ่นกล่าวเสียงเคร่งเครียด “ถ้าไม่มีเหตุสุดวิสัยอะไร พรุ่งนี้เช้าพวกเราจะกลับไปถนนผิงเฉียว แต่หากยังไม่รู้ข่าวคราวของจี๋อิ๋ง พวกเราจะกลับไปได้อย่างไร”

ชุนหว่านก็ไม่อยากจะอยู่ที่ซอยจิ่วหรูแล้วเหมือนกัน

แต่ก่อนเป็นเพราะคุณหนูรองยังเด็ก ไม่รู้ประสีประสาอะไร ต้องมีคนชี้แนะและคอยดูแล ตอนนี้คุณหนูรองกระทำอะไรก็มีขั้นมีตอน บ้านเดิมของตระกูลโจวทางด้านโน้นมีเพียงบ่าวไพร่ หากคุณหนูรองไปอยู่ก็จะเป็นใหญ่ที่สุด มีอิสระมากขึ้น!

นางพยักหน้าหงึกๆ แล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็วปานควัน

หม่าฟู่ซานอดถอนหายใจไม่ได้พลางกล่าวว่า “เรื่องราวคราวนี้ถือว่าติดค้างนายท่านสี่แล้ว! หากมิใช่พราะเขา ต่อให้คุณหนูรองจะไม่เป็นอันใด แต่ถูกผู้หลักผู้ใหญ่ของตระกูลเฉิงเรียกตัวไปซักถามที่โถงนั่งเล่นเช่นนั้น หากถูกแพร่งพรายออกไปก็คงจะเกิดข่าวลือเสียๆ หายๆ บุญคุณครั้งนี้ ต้องบอกให้นายท่านทราบอย่างแน่นอนขอรับ”

“ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น!” ไม่ว่าต่อไปจะเป็นเช่นไร โจวเสาจิ่นก็หวังว่าบิดากับเฉิงฉือจะสนิทสนมกันได้

ทั้งสองคนล้วนเป็นคนสำคัญของนาง

หลังจากส่งหม่าฟู่ซานกลับไปแล้ว ชุนหว่านก็ยังไม่กลับมา นางจึงบอกให้ปี้เถาและคนอื่นๆ จัดเก็บข้าวของ

แม้เรื่องที่เกิดขึ้นในโพรงหินจะยังไม่แพร่งพรายออกไปในซอยจิ่วหรู แต่พวกสาวใช้ที่ค่อนข้างมีหน้ามีตาในจวนหลักต่างทราบกันหมดแล้ว

เสี่ยวถานยืดคอชะเง้อมองอยู่ที่ประตู เอ่ยถามโจวเสาจิ่นอย่างเศร้าใจว่า “คุณหนูรอง ท่านจะไปแล้วหรือเจ้าคะ”

โจวเสาจิ่นอึ้งงันไปชั่วขณะ เดินไปโอบแขนเสี่ยวถานเบาๆ

นับตั้งแต่นางได้มาเข้าๆ ออกๆ อยู่ที่เรือนหานปี้ซานเป็นต้นมา เสี่ยวถานก็ปรนนิบัตินางมาโดยตลอด ยิ่งกว่านั้นหลังจากที่นางย้ายเข้ามาที่นี่ ก็ถูกส่งตัวมารับใช้ในเรือนของนาง

ตอนที่ 352 แยกจากกัน 1

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน