เข้าสู่ระบบผ่าน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน นิยาย บท 372

โจวชูจิ่นกล่าวยิ้มๆ ว่า “ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น เขาเป็นท่านน้าของพวกเรานี่นา”

ฟังจากความหมายที่กล่าวมาก็คือ เขาเป็นคนจากตระกูลมารดาของพวกนาง

ชาติก่อนเนื่องจากตัวเองเป็นเหตุ พี่สาวจึงตัดขาดการไปมาหาสู่กับตระกูลเฉิง มีเรื่องอะไรล้วนปรึกษาหารือกับพี่เขย…ทว่าตอนนี้ นางสบายดี พี่สาวมีเรื่องจึงไม่บอกพี่เขยแต่กลับยินดีจะพูดกับท่านน้าฉือ…

โจวเสาจิ่นเหงื่อตก

พี่สาวกับพี่เขยจะต้องไม่เหินห่างกันด้วยเหตุผลนี้ถึงจะดี!

นางเอ่ยขึ้นว่า “แต่เรื่องนี้ท่านพี่ควรจะคุยกับพี่เขยด้วยถึงจะถูก ข้าคิดว่าพี่เขยมิใช่คนที่เมื่อครอบครัวของภรรยามีเรื่องแล้วจะคิดว่าตนจะติดร่างแหไปด้วย แล้วตำหนิภรรยาประเภทนั้น ระหว่างสามีภรรยาก็ควรจะปฏิบัติต่อกันด้วยความจริงใจถึงจะถูก ไม่อย่างนั้นจะพูดอะไรหรือกระทำเรื่องใดก็ต้องคอยปิดบังซ่อนหัวซ่อนหางเอาไว้ตลอด ช่างน่าเศร้านัก!”

โจวชูจิ่นฟังแล้วก็หัวเราะคิกออกมา จิ้มหน้าผากโจวเสาจิ่นพร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า “เป็นเด็กเป็นเล็ก จะรู้เรื่องอะไร ยังมาบอกข้าเรื่องหลักคำสอนของสามีภรรยาอีก…” ขณะที่นางกล่าวนั้น ดวงตาแพรวพราวระยิบระยับ ดูแล้วงดงามมีเสน่ห์ยิ่ง “แต่อย่างไรก็ตาม ที่เจ้าพูดมาก็ถูก เรื่องวุ่นวายหนึ่งกองใหญ่ของตระกูลพี่เขยเจ้านั้น นับตั้งแต่เกิดเรื่องที่พ่อสามีไปยืมเงินเป็นต้นมา เขาก็ไม่กล้ามองหน้าข้าตรงๆ อีกเลย เขาต้องรู้สึกไม่สบายใจมากเป็นแน่ เรื่องขมขื่นของครอบครัวพวกเราก็เป็นเรื่องไม่ค่อยดีนัก พี่เขยของเจ้าก็เลยระมัดระวังตัวมากถึงเพียงนี้”

“ใช่แล้วเจ้าค่ะๆ” โจวเสาจิ่นยิ้มร่าพร้อมกับพยักหน้าหงึกๆ ไม่หยุด ประหนึ่งลูกนกจิกกินข้าวสาร

โจวชูจิ่นมองแล้วก็หัวเราะไม่หยุด พูดคุยถึงเรื่องทั่วไปภายในบ้านกับโจวเสาจิ่นขึ้นมา “…ความหมายของพี่เขยของเจ้าแล้ว อยากให้เจ้าพักอยู่ที่เรือนปีกตะวันตก แต่พวกเราเป็นคนจากทางใต้ มักจะรู้สึกว่าห้องที่อยู่ทางทิศใต้หันหน้าไปทางทิศเหนือถึงจะเป็นห้องที่ดี จึงจัดให้เจ้าไปอยู่ที่เรือนด้านหลัง แล้วก็ตั้งใจกั้นห้องขนาดสามห้องกั้นที่ติดกับทิศตะวันออกนี้ออกมา ทำเป็นลานเล็กๆ ให้เป็นพิเศษ เสียดายที่พี่สาวและพี่เขยของเจ้าไม่ร่ำรวย ไม่อย่างนั้นจะสร้างเรือนด้านหลังเพิ่มอีกหนึ่งชั้น ทำเป็นหอเย็บปักให้เจ้าได้สักแห่งหนึ่งแล้ว”

โจวเสาจิ่นรีบกล่าวว่า “เช่นนี้ก็ดีมากแล้วเจ้าค่ะ ท่านพี่ใกล้จะคลอดบุตรแล้ว อย่าต้องเปลืองเรี่ยวแรงและเงินทองมากขนาดนั้นเลย รอให้ข้ามีหลานชายแล้ว ท่านค่อยสร้างเรือนด้านหลังเพิ่มอีกหนึ่งชั้นก็แล้วกันเจ้าค่ะ”

โจวชูจิ่นหน้าแดงเรื่อขึ้นเล็กน้อย เอ่ยขึ้นว่า “พี่เขยเจ้าบอกว่า จะให้ดีท้องนี้ควรจะเป็นบุตรสาว”

บุตรสาวจิตใจละเอียดอ่อน เชื่อฟัง เป็นดั่งกระดุมเสื้อ[1]ของมารดา ต่อไปเมื่อมีบุตรชายเพิ่มเข้ามาบุตรสาวก็ช่วยมารดาดูแลน้องชายได้

โจวเสาจิ่นเม้มปากกลั้นยิ้ม

โจวชูจิ่นกล่าวขึ้นว่า “ฮูหยินต้องดูแลข้า ก็เลยจัดให้พักอยู่ที่เรือนปีกตะวันออก เวลามีเรื่องอะไรตะโกนเรียกก็ได้ยินแล้ว คนในบ้านเป็นคนที่พวกเราพามาด้วยจากทางใต้ พวกเขาไม่คุ้นกับสถานที่และผู้คน จึงน่าจะอยู่อย่างสงบอยู่ภายในบ้านมากกว่า ส่วนคนที่หน้าประตูนั้นเจ้าเองก็ได้เจอแล้ว ครอบครัวแซ่หยางครอบครัวนั้น เป็นคนจิงเฉิง ไม่ว่าที่ไหนล้วนรู้จักหมด หากเจ้าอยากออกไปข้างนอก ก็ให้นางไปเป็นเพื่อน” จากนั้นหยิบถุงเงินออกมายื่นส่งให้นางถุงหนึ่ง เอ่ยขึ้นว่า “ในนี้เป็นเศษลิ่มเงินจำนวนยี่สิบเหลี่ยง เจ้าเอาไว้ใช้เป็นค่าขนม หากไม่พอ ก็ให้มาบอกพี่สาว”

โจวเสาจิ่นรับมาอย่างไม่เกรงใจ

โจวชูจิ่นยิ้มพร้อมกับลุกขึ้น เอ่ยขึ้นว่า “เวลาก็ไม่เช้าแล้ว เจ้าไปพักผ่อนครู่หนึ่งเถิด ถึงเวลาพวกเราค่อยไปรับสำรับค่ำด้วยกันที่ห้องโถง ส่วนทางด้านของท่านน้าฉือนั้น พวกเราค่อยหาโอกาสไปกล่าวขอบคุณเขาที่เป็นผู้อาวุโสด้วยกันสักครั้งหนึ่ง”

ผู้อาวุโสอย่างนั้นหรือ

โจวเสาจิ่นนึกถึงท่าทางของเฉิงฉือแล้วก็หัวเราะออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่ ไปส่งพี่สาวที่ประตู

ฝานหลิวซื่อกำลังคุยกับหยางมามาผู้นั้นอยู่ตรงทางเดิน “…ตรอกซอยแถบนี้เกือบทุกบ้านล้วนปลูกต้นอวี๋เอาไว้ ดังนั้นชื่อซอยจึงมีคำว่า ‘อวี๋’ ประกอบอยู่ ท่านดูซอยที่อยู่ทางทิศตะวันออกซอยนั้น มีชื่อว่าซอยซวงอวี๋ ถัดออกไปก็เป็นซอยอวี๋เฉียน ซอยอวี๋ซู่ของพวกเรานี้ต่างหากที่เป็นซอยหลักที่แท้จริง”

โจวเสาจิ่นรู้สึกยินดีอยู่ในใจ

นางกำลังกังวลอยู่พอดีด้วยไม่รู้ว่าบ้านของท่านน้าฉือต้องเดินไปทางไหน!

แต่เมื่อฝานหลิวซื่อกับหยางมามาได้ยินเสียงเคลื่อนไหวก็หยุดบทสนทนาลงหมุนกายกลับมาทำความเคารพโจวเสาจิ่นสองพี่น้อง หยางมามาผู้นั้นก้าวเข้ามาประคองโจวชูจิ่นอย่างกระตือรือร้น เอ่ยขึ้นว่า “นี่เป็นวันแรกที่ข้าได้พบฮูหยินและคุณหนูรอง จึงคิดว่าควรมาทำความรู้จักเอาไว้ ต่อไปเวลาพวกหมัวมัวหรือแม่นางทั้งหลายมีเรื่องอะไรต้องการใช้งานข้า ข้าจะได้ไม่จำคนผิดเจ้าค่ะ!”

โจวชูจิ่นกล่าวยิ้มๆ ว่า “เจ้าวางใจเถิด ตั้งใจทำหน้าที่ให้ดี ข้าไม่มีทางเอาเปรียบคนข้างกายอย่างแน่นอน เจ้าลองถามคนข้างกายของข้าดูก็รู้แล้ว”

“ดูสะใภ้ใหญ่กล่าวสิเจ้าคะ ทำให้ข้าซาบซึ้งยิ่งนักแล้ว” หยางมามารีบแสดงความจงรักภักดี “แค่เห็นสะใภ้ใหญ่ครั้งแรกข้าก็รู้แล้วว่าสะใภ้ใหญ่เป็นคนจิตใจดีผู้หนึ่ง พอได้ยินว่าจะได้มาเป็นบ่าวรับใช้อยู่ที่บ้านของสะใภ้ใหญ่ ก็ดีใจจนนอนไม่หลับทั้งคืนเลยเจ้าค่ะ…”

โจวชูจิ่นกล่าวตัดบทสนทนาของนางยิ้มๆ ว่า “เอาละๆ เจ้าก็อย่าเจ้าสำบัดสำนวนอีกเลย จะดีหรือไม่ดี ข้าจะคอยดูก็แล้วกัน!”

หยางมามาผู้นั้นเอ่ยคำสาบานอีกคำรบหนึ่ง เป็นเหตุให้ฝานหลิวซื่อหัวเราะอย่างขบขันไปด้วย

โจวเสาจิ่นครุ่นคิด ตัดสินใจจะไปดูหลี่ซื่อสักหน่อย

โจวชูจิ่นไม่เข้าใจ

โจวเสาจิ่นกล่าวยิ้มๆ ว่า “ไม่ว่าจะกล่าวอย่างไร พวกเราก็เป็นบุตรสาว สุภาพต่อกันไว้ การใช้ชีวิตในช่วงนี้ก็จะได้ราบรื่นขึ้นอีกสักหน่อยเจ้าค่ะ”

โจวชูจิ่นไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ ทว่าก็ไม่ได้ห้ามโจวเสาจิ่น

โจวเสาจิ่นยิ้ม ดึงตัวโจวชูจิ่นเดินไปที่ลานหลักด้วยกัน

โจวโย่วจิ่นกำลังซุกตัวนอนหลับอยู่บนตั่งอิฐโดยมีแม่นมอยู่เป็นเพื่อน ใบหน้าน้อยนั้นแดงเรื่อ น่ารักน่าชังยิ่งนัก ส่วนหลี่ซื่อคอยกำกับพวกบ่าวไพร่จัดแต่งห้องหับอยู่ เมื่อมีบ่าวรับใช้ทำเสียงดังขึ้นมาเป็นครั้งคราว หลี่ซื่อก็จะขมวดคิ้วพร้อมกับเอ่ยว่า “เบาเสียงลงหน่อย ระวังอย่าทำให้คุณหนูสามตื่น”

โจวเสาจิ่นหันไปยิ้มกับโจวชูจิ่น

โจวชูจิ่นหยิกโจวเสาจิ่นไปครั้งหนึ่ง เดินเข้าไปพร้อมน้องสาวยิ้มๆ เอ่ยขึ้นว่า “ฮูหยินมีเรื่องอะไรก็ให้คนข้างกายไปทำให้ก็ได้แล้ว เดินทางมาไกลขนาดนี้ อีกทั้งยังต้องดูแลพวกข้าสามพี่น้องอีก คาดว่าคงจะเหนื่อยล้าไม่น้อยแล้ว ไปพักผ่อนสักครู่เถิด ระวังจะเหนื่อยจนร่างกายไม่ไหว!”

หลี่ซื่อประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง ขอบตาพลันแดงขึ้นมา กล่าวยิ้มๆ ว่า “ดูต้ากูไหน่ไนพูดเข้า ข้ามิใช่คนบอบบางเป็นกระดาษเช่นนั้น เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไม่ทำให้ข้าเหนื่อยได้ เป็นต้ากูไหน่ไนที่ต้องระวังเอาไว้สักหน่อยถึงจะถูก ข้าดูแล้วคุณชายน้อยผู้นี้เมื่อคลอดออกมาแล้วต้องเป็นเด็กอารมณ์ดีผู้หนึ่งอย่างแน่นอน ออกเดินทางมาพร้อมต้ากูไหน่ไนและบุตรเขยไกลถึงเพียงนี้ ทว่ากลับไม่เคยร้องไม่มีอาการอะไรเลย ช่างเป็นเด็กดียิ่งนัก”

โจวชูจิ่นได้ยินแล้วก็อดลูบท้องของตัวเองไม่ได้ ใบหน้าเผยแววอบอุ่นออกมาให้เห็น น้ำเสียงก็อ่อนลงหลายส่วน เอ่ยขึ้นว่า “ขอให้สมดังคำอวยพรของฮูหยินเจ้าค่ะ”

โจวเสาจิ่นยิ้มตาหยี

เช่นนี้ช่างดียิ่ง!

ตอนที่ 372 จัดแจงที่พัก 1

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน