เข้าสู่ระบบผ่าน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน นิยาย บท 397

ชั่วขณะนั้นโจวเสาจิ่นแยกไม่ออกว่าเรื่องที่เฉิงฉือมาดูแลนางนั้นตกลงเป็นเรื่องที่นางจินตนาการขึ้นมาหรือเป็นเรื่องจริงกันแน่

นางกล่าวขึ้นด้วยความลังเลอย่างช่วยไม่ได้ว่า “ท่านน้าฉือ…”

ชุนหว่านรีบกล่าวว่า “นายท่านสี่เพิ่งออกไปเจ้าค่ะ…เขาเฝ้าท่านอยู่ที่นี่ทั้งคืน รั้งให้ท่านหมอหลวงเฉาค้างอยู่ที่นี่คืนหนึ่งด้วย เมื่อเช้าท่านหมอหลวงเฉามาตรวจชีพจรให้ท่าน บอกว่าท่านไม่เป็นอะไรแล้ว หลังจากที่นายท่านสี่ส่งท่านหมอหลวงเฉาออกไปแล้ว ถึงเพิ่งกลับไปที่ห้องหนังสือเมื่อครู่นี้เจ้าค่ะ!”

ที่แท้ทุกอย่างก็เป็นความจริง!

ท่านน้าฉือเฝ้าอยู่ข้างกายนางตลอดจริงๆ ด้วย

ฉับพลันนั้นโจวเสาจิ่นรู้สึกเบิกบานใจเป็นอย่างยิ่ง รู้สึกเพียงว่าท้องฟ้าก็ดี ผืนดินก็ดี แม้แต่ต้นเหวินจู๋[1]ที่วางอยู่บนโต๊ะน้ำชาตรงมุมห้องกระถางนั้นวันนี้ก็ดูมีชีวิตชีวามากเป็นพิเศษ

นางลุกขึ้นมานั่งในทันใด สั่งการชุนหว่านว่า “เจ้าไปดูที่ห้องหนังสือสักหน่อยว่าท่านน้าฉือหลับไปหรือยัง หากหลับไปแล้วก็แอบกลับมาเงียบๆ แต่ถ้ายังไม่หลับก็บอกให้ท่านน้าฉือรีบพักผ่อนเสีย บอกว่าทางด้านนี้ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว ไปรายงานให้ท่านน้าฉือวางใจสักครั้งหนึ่ง” กล่าวจบ ถึงได้นึกถึงท่าทางของชุนหว่านเมื่อครู่นี้ขึ้นมา รู้สึกละอายใจเล็กน้อยอย่างเลี่ยงไม่ได้ กล่าวขึ้นอีกว่า “เจ้าเองก็คงไม่ได้นอนทั้งคืนกระมัง! ให้ปี้เถาหรือไม่ก็เสี่ยวถานมาดูแลข้าก็พอ เจ้าเองก็ไปนอนพักดีๆ สักตื่นหนึ่ง เรื่องของวันนี้ไม่ต้องให้เจ้ามาดูแล้ว”

ชุนหว่านเองก็รู้สึกเหนื่อยมากจริงๆ นางขานรับคำยิ้มๆ ว่า “เจ้าค่ะ” กล่าวอีกว่า “เมื่อวานท่านไม่สบายหนักมาก ฮูหยินมาถามอาการของท่านทุกๆ ครึ่งชั่วยามเลยเจ้าค่ะ…”

โจวเสาจิ่นกล่าวยิ้มๆ ว่า “เช่นนั้นทางด้านฮูหยิน เจ้าก็ให้คนไปแจ้งให้ทราบด้วยสักคนหนึ่ง”

ชุนหว่านถึงได้ยิ้มพร้อมกับเรียกเสี่ยวถานเข้ามา แลกเปลี่ยนเวรยามกัน แล้วไปที่ห้องหนังสือ ณ เรือนชั้นนอก

อาจจะเป็นเพราะหลังจากที่หลับไปแล้วมีเหงื่อออกมาก โจวเสาจิ่นจึงรู้สึกตัวเหนียวเหนอะหนะไปหมด

นางตัดสินใจว่าจะอาบน้ำสักรอบหนึ่ง จะได้ออกไปเดินเล่นข้างนอกอย่างสดชื่น

เสี่ยวถานปรนนิบัติโจวเสาจิ่นอาบน้ำไปด้วย เจื้อยแจ้วเล่าเรื่องเมื่อคืนให้โจวเสาจิ่นฟังไปด้วยว่า “ท่านไม่ยอมรู้สึกตัวตื่นสักที นายท่านสี่สีหน้าเคร่งเครียด พวกข้าต่างตกใจจนตัวสั่นไปหมด หากมิใช่เพราะฝานมามาให้พวกข้ากลับไปพักผ่อน เกรงว่าพวกข้าคงต้องยืนอยู่ในห้องไปทั้งคืนแล้วเจ้าค่ะ…”

โจวเสาจิ่นพาดตัวอยู่ในถังไม้ ไอร้อนที่ลอยกรุ่นขึ้นมาทำให้ดวงหน้าของนางแดงปลั่งขึ้นเล็กน้อย กล่าวยิ้มๆ ว่า “เจ้ากล่าวเกินจริงให้มันน้อยๆ หน่อยเถิด!”

“จริงๆ นะเจ้าคะ!” เสี่ยวถานเติมน้ำร้อนลงในถังไม้อีกหลายกระบวย พลางกล่าวว่า “หากท่านไม่เชื่อ ก็ไปถามปี้เถาหรือไม่ก็จี๋เสียงก็ได้ จี๋เสียงตกใจกลัวจนพูดไม่ได้แล้ว หลังจากกลับไปแล้วยังให้ปี้เถานวดขาให้นางด้วย บอกว่ายืนเกร็งจนขาแข็งและชาไปหมดแล้วเจ้าค่ะ!”

โจวเสาจิ่นหัวเราะคิก

ท่านน้าฉือมิใช่คนประเภทที่พวกนางว่ากันเสียหน่อย!

แต่ท่านน้าฉือเป็นเจ้านาย ให้เสี่ยวถานและคนอื่นๆ บังเกิดความเคารพยำเกรงก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ต่อหน้าบ่าวไพร่เหล่านี้นางต้องช่วยรักษาเกียรติให้ท่านน้าฉือเอาไว้ บางเรื่องจึงไม่อาจกล่าวออกมาได้

ฝานหลิวซื่อยกน้ำชาเข้ามา กล่าวยิ้มๆ ว่า “ข้ายังคิดอยู่เลยว่าควรจะเข้ามาดูท่านสักหน่อยหรือไม่ หรูอี้ก็มาบอกข้าว่าท่านตื่นแล้ว ดูท่าทางของท่านแล้ว น่าจะดีขึ้นมากแล้วกระมัง”

โจวเสาจิ่นพยักหน้าอย่างยิ้มแย้ม เอ่ยขึ้นว่า “ลำบากพวกเจ้าแล้ว ประเดี๋ยวข้าจะให้ชุนหว่านไปหยิบเงินออกมาห้าเหลี่ยง พวกเจ้าและคนข้างกายที่พอจะมีหน้ามีตาของฮูหยินอีกสองสามคนก็ไปกินดื่มให้สนุกกันสักครั้งหนึ่งเถิด”

ฝานหลิวซื่อกล่าวยิ้มๆ ว่า “เรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่พวกบ่าวสมควรทำอยู่แล้ว จะรับรางวัลจากคุณหนูรองได้อย่างไรเจ้าคะ”

นางกล่าวไปด้วย นำถาดน้ำชาไปวางลงบนตั่งตัวใหญ่ข้างหน้าต่าง นั่งลงข้างๆ ถังไม้ ทดสอบอุณหภูมิของน้ำ หมายจะช่วยถูหลังให้โจวเสาจิ่น

นับตั้งแต่เกิดเรื่องที่สวนดอกไม้นั่นแล้ว โจวเสาจิ่นก็ไม่ให้ฝานมามาช่วยถูหลังให้นางอีกเลยเป็นเวลาหลายปีมาแล้ว

วันนี้นางอารมณ์ดียิ่ง ก็เลยพาดตัวอยู่ตรงนั้นปล่อยให้นางทำตามใจชอบ

ฝานหลิวซื่อดูลังเลเล็กน้อย

โจวเสาจิ่นถามยิ้มๆ ว่า “มีอะไรหรือ”

จากในความทรงจำของนางแล้ว นางไม่เคยมีรอยอะไรเลยตลอดทั้งร่าง หรือว่าที่หลังของนางจะรอยหรือตุ่มอะไรอย่างนั้นหรือ

“ปละ…เปล่าเจ้าค่ะ!” ฝานหลิวซื่อยิ้ม ช่วยถูหลังให้นางอย่างนุ่มนวลแต่ก็ไม่ขาดความคล่องแคล่วว่องไว พลางกล่าว “คุณหนูรองของพวกข้าโตเป็นสาวแล้วเจ้าค่ะ!”

น้ำเสียงดูหดหู่ เจือความรู้สึกแสนเสียดายที่ต้องลาจากเอาไว้เล็กน้อย

โจวเสาจิ่นเม้มปากหัวเราะ กล่าวขึ้นว่า “ข้าก็เป็นสาวมาตั้งนานแล้ว!”

เด็กสาวที่มีระดูแล้ว ก็ถือว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว

ฝานหลิวซื่อกล่าวยิ้มๆ ว่า “จริงด้วยเจ้าค่ะ!”

ช่วยขัดถูตัวให้โจวเสาจิ่นทั้งร่างแล้ว ก็ปรนนิบัตินางสวมชุดชั้นใน

เสี่ยวถานคอยกำกับให้ป้ารับใช้มีเรี่ยวแรงมากเข้ามายกถังไม้ออกไป ส่วนฝานหลิวซื่อคลุมผ้าลงบนไหล่ให้โจวเสาจิ่นผืนหนึ่ง นั่งลงบนตั่งใช้ผ้าช่วยเช็ดผมที่เปียกชื้นให้นาง พลางกล่าว “ฤดูหนาวของทางเหนือนี้ทุกบ้านต่างก็ใช้ท่อทำความร้อนที่พื้นหรือไม่ก็ผนังทำความร้อนกันทั้งนั้น พอเข้าเดือนสี่ท่อทำความร้อนและผนังทำความร้อนต่างหยุดทำงานแล้วทำให้รู้สึกเย็นไปหมดทุกที่ พิธีครบรอบร้อยวันของกวนเกอกำหนดให้เป็นวันที่ยี่สิบสองเดือนห้า ท่านว่าพวกเราควรจะหาซื้อของฝากให้นายท่านเอาไว้เสียแต่เนิ่นๆ ดีหรือไม่ หรือว่าควรจะรอให้ผ่านพ้นเทศกาลวันไหว้บ๊ะจ่างไปก่อนดีเจ้าคะ กลัวแต่ว่าถึงเวลานั้นเมื่อฮูหยินใหญ่เลี่ยวมาถึงแล้ว ต้ากูไหน่ไนจะดึงตัวท่านไปพบปะกับคนของตระกูลฟางและตระกูลเลี่ยวด้วย แล้วจะไม่มีเวลาว่างไปหาซื้อเจ้าค่ะ”

โจวเสาจิ่นพยักหน้าพร้อมกับกล่าวยิ้มๆ ว่า “ข้าจะบอกพ่อบ้านเซี่ยงไว้ ถึงเวลาเมื่อดูรายการของฝากแล้วพวกเราค่อยเพิ่มเติมหรือตัดบางอย่างออกก็ได้แล้ว แต่ท่านก็ได้ย้ำเตือนข้าให้นึกขึ้นได้เช่นกัน ท่านพ่อชอบสะสมที่ฝนหมึก ประเดี๋ยวข้าจะไปถามท่านน้าฉือสักหน่อย ดูว่ามีที่ไหนที่หาซื้อที่ฝนหมึกดีๆ ได้บ้าง ถึงเวลาจะให้ฮูหยินนำกลับไปให้ท่านพ่อด้วย แม้นของที่เหวินเต๋อเก๋อจะดี แต่ก็ไม่มีอะไรที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ที่ฝนหมึกที่จะมอบให้ท่านพ่อนั้น ควรจะหาทางไปหาซื้อจากที่อื่นดีกว่า” ขณะที่นางกล่าว ก็ถามฝานหลิวซื่อว่า “ข้ารู้สึกว่าพ่อบ้านเซียงผู้นี้เป็นคนละเอียดยิ่ง กระทำการใดๆ ก็เอาใจใส่เป็นอย่างมาก ข้าอยากให้ฝานฉีไปติดตามเป็นบ่าวข้างกายเขา เจ้าเห็นว่าเป็นอย่างไรบ้าง”

มือของฝานหลิวซื่อที่เช็ดผมให้โจวเสาจิ่นอยู่นั้นกลับหยุดชะงักลง เอ่ยถามขึ้นแทนที่จะตอบคำถามว่า “คุณหนูรองจะไม่กลับเมืองเป่าติ้งพร้อมกับฮูหยินหรือเจ้าคะ”

นางอยากรั้งอยู่ที่ซอยอวี๋เฉียน

โจวเสาจิ่นยิ้มหวาน

นางยังอยากช่วยเฝ้าทองคำแท่งที่อยู่ใต้ฝ่าเท้านี้ให้ท่านน้าฉือด้วย!

“ข้าอยากรั้งอยู่ที่จิงเฉิงให้นานอีกสักหน่อย จะได้อยู่เป็นเพื่อนท่านพี่” โจวเสาจิ่นกล่าว “กลับเมืองเป่าติ้งไป ก็ต้องไปคลุกคลีกับพวกฮูหยินหวงอีก ช่างน่ารำคาญใจยิ่งนัก มิสู้อยู่ในเมืองหลวงจะสบายใจกว่า”

ฝานหลิวซื่อกล่าว “แต่อยู่ในเมืองหลวงนั้น…เนื่องจากบ้านที่ซอยอวี๋เฉียนนี้เป็นทรัพย์สินของนายท่านสี่…ใครจะมอบบ้านให้ผู้อื่นโดยไม่มีเหตุผลกัน บ้านหลังนี้ก็มิใช่ถูกๆ! หากจะมอบให้ก็ควรเป็นฮูหยินผู้เฒ่ากัวมอบให้ถึงจะถูก…”

มองจากมุมของโจวเสาจิ่นแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่ากัวก็ไม่ปลอดภัยเช่นกัน

ตอนที่ 397 ห้ามปราม 1

ตอนที่ 397 ห้ามปราม 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน