เข้าสู่ระบบผ่าน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน นิยาย บท 417

ห​ลี่​ซื่อ​อาศัย​อยู่​ทาง​ตอนเหนือ​มาระยะ​หนึ่ง​แล้ว​ ไม่ว่า​จะเป็น​ส่วน​ตะวันตก​ ตะวันออก​หรือ​กลาง​ล้วน​ประทับใจ​เป็นอย่างมาก​ พอ​ได้ยิน​แล้วก็​อด​ชื่นชม​ไม่ได้​ว่า​ “ตระกูล​หลิว​นี้​ร่ำรวย​จริงๆ​! เรือน​ใหญ่​ถึงเพียงนี้​ ครอบ​ครอบ​พื้นที่​มากกว่า​หนึ่ง​ซอย​ เกรง​ว่า​ใน​จิงเฉิงคงจะ​ใหญ่​เป็น​อันดับ​ต้น​ๆ เลย​กระมัง​”

ปี้​อวี้​คลี่​ยิ้ม​พลาง​ยืน​ขึ้น​ตอบ​ข้างๆ​ ว่า​ “นั่น​จะเป็นไปได้​อย่างไร​กัน​เจ้าคะ​! เพียงแค่​เรือน​ส่วน​ตะวันตก​เท่านั้น​ที่​เป็น​ของ​ใต้เท้า​หลิว​เจ้าค่ะ​ เรือน​ส่วนกลาง​เป็น​ของ​ใต้เท้า​ห​ลี่​ผู้​เดิม​ดำรงตำแหน่ง​กวง​ลู่​ซื่อ​ เรือน​ส่วน​ตะวันออก​เป็น​ของ​ใต้เท้า​เจิงผู้​เกษียณ​จาก​การ​เป็น​ราชครู​ราชบัณฑิต​ใน​สำนัก​ฮั่น​หลิน​ ใต้เท้า​เจิงเป็น​คน​จาก​เมือง​อัน​ซีที่​ฝูเจี้ยน​ มีกิจการค้า​ชาที่​ใหญ่​ที่สุด​ใน​ฝูเจี้ยน​ ว่า​กัน​ว่า​สวน​ชาสี่ถึงห้า​ใน​สิบ​ส่วน​ของ​ฝูเจี้ยน​ล้วน​เป็น​ของ​ตระกูล​พวกเขา​”

นี่​ก็​อธิบาย​ได้​ว่า​เหตุใด​ใต้เท้า​เจิงผู้​เกษียณ​จาก​ตำแหน่ง​ราชครู​ราชบัณฑิต​คน​หนึ่ง​ถึงได้​มีเรือน​พำนัก​ที่​ใหญ่โต​ถึงเพียงนี้​

ทว่า​ห​ลี่​ซื่อ​กลับ​ฟังแล้ว​สูด​ลมหายใจ​เย็น​เข้า​เฮือก​หนึ่ง​

ตระกูล​เจิงอยู่​ที่นี่​มีเรือน​ขนาด​เพียง​หนึ่ง​ส่วน​เท่านั้น​ แต่​นาย​ท่าน​สี่กลับ​ซื้อ​เรือน​ขนาด​เท่าๆ​ กัน​สามหลัง​ใน​คราว​เดียว​หนำซ้ำ​ยังอยู่​ติดกัน​ด้วย​ นี่​มิใช่เพียง​มีเงิน​เท่านั้น​ถึงจะทำได้​!

ทว่า​ปี้​อวี้​เหมือน​มอง​ความ​ตะลึงพรึงเพริด​ของ​นาง​ออก​ จึงกล่าว​ต่อไป​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “นาย​ท่าน​สี่ของ​พวก​ข้า​ใช้เวลา​ไป​ไม่น้อยกว่า​จะซื้อ​เรือน​หลัง​นี้​มาได้​เจ้าค่ะ​ ตอนแรก​อยาก​จะซื้อ​เรือน​หลัง​หนึ่ง​ข้างๆ​ ซอย​ซิ่งหลิน​โดย​ไม่คิด​อะไร​มาก​ แต่​ต่อมา​กลับ​คิด​ว่า​อยู่​ใกล้​นาย​ท่าน​ใหญ่​กับ​นาย​ท่าน​รอง​มากเกินไป​ กลัว​จะถูก​นาย​ท่าน​ใหญ่​หรือ​นาย​ท่าน​รอง​ควบคุม​ จึงซื้อ​เรือน​ที่​ซอย​อวี๋เฉียน​ เวลา​ที่​อยาก​จะพักผ่อน​ก็​ไป​เยี่ยม​นาย​ท่าน​ผู้เฒ่า​รอง​ได้​พอดี​ ใคร​จะรู้​ว่า​เรือน​ซ้าย​ขวา​ใน​ละแวก​นั้น​ที่​ซอย​อวี๋เฉียน​ต่าง​ไม่ยอม​ขาย​ ท่าน​ก็​เคย​ไป​ซอย​จิ่ว​หรู​มาก่อน​ ซอย​ทั้ง​ซอย​เป็น​ของ​ตระกูล​เฉิง ไหน​เลย​นาย​ท่าน​จะอยู่​อย่าง​คุ้นชิน​ได้​เล่า​!…

…บังเอิญ​ใต้เท้า​หลิว​อาศัย​อยู่​ที่​ไหว​อัน​ได้​ระยะ​หนึ่ง​ ไม่อยาก​กลับ​บ้านเกิด​ที่​เจียง​ซี จึงตัดสินใจ​ตั้งถิ่นฐาน​อยู่​ที่​หยาง​โจว​ ทาง​ด้าน​หยาง​โจว​มีพ่อค้า​เกลือ​มากมาย​ อยาก​ซื้อ​เรือน​ที่​พึงใจ​สัก​หลัง​กลับ​ไม่ง่ายดาย​เลย​ จึงอยาก​จะขาย​เรือน​ที่​จิงเฉิง เพียงแต่​ตั้งราคา​สูงเกินไป​ หา​ผู้ซื้อ​ที่​เหมาะสม​ไม่ได้มา​ตลอด​ ใน​อดีต​นาย​ท่าน​สี่ของ​พวก​ข้า​กับ​ใต้เท้า​หลิว​เคย​คบหาสมาคม​กัน​มาก่อน​ เขา​รู้​ว่า​นาย​ท่าน​สี่ของ​พวก​ข้า​อยาก​จะหา​เรือน​ที่​ค่อนข้าง​ดี​สัก​หลัง​หนึ่ง​ใน​จิงเฉิง เลย​ส่งพ่อบ้าน​ไป​เยี่ยม​พบ​ นาย​ท่าน​สี่ของ​พวก​ข้า​เห็น​แล้วก็​พึงใจ​ แต่​ยัง​บ่นว่า​เล็ก​อยู่ดี​ ใต้เท้า​หลิว​ผู้​นั้น​อาศัย​อยู่​ที่นี่​สิบ​กว่า​ปี​แล้ว​ ทั้ง​ยัง​เป็น​บัณฑิต​ที่​สอบผ่าน​การ​สอบ​ขุน​นางใน​ปี​เดียว​กับ​ใต้เท้า​ห​ลี่​ข้าง​บ้าน​ จึงออกหน้า​ช่วย​โน้มน้าว​ใต้เท้า​ห​ลี่​ ขาย​เรือน​ทั้งหมด​ให้​นาย​ท่าน​สี่…

…เรื่อง​นี้​เป็น​เพียง​ความโชคดี​เท่านั้น​ หลังจากที่​ใต้เท้า​เจิงผู้​นั้น​เกษียณ​ราชการ​ เรือน​หลัง​นี้​จึงร้าง​ผู้อยู่อาศัย​ ด้วย​ความร่ำรวย​ของ​ตระกูล​เจิง จะเก็บ​เรือน​ร้าง​เรือน​หนึ่ง​เอาไว้​โดย​ไม่คิดมาก​ก็​ทำได้​ บังเอิญ​หลานชาย​คน​หนึ่ง​ของ​ใต้เท้า​เจิงอยาก​จะมาเล่าเรียน​ที่​สำนักศึกษา​กั๋วจื่อเจี้ยน​ ตระกูล​เจิงจึงจัดเตรียม​เรือน​หลัง​นี้​ให้​เขา​อาศัย​ ใคร​จะรู้​ว่า​คุณชาย​ผู้​นั้น​ของ​ตระกูล​เจิงเป็น​คน​ประหลาด​พิกล​คน​หนึ่ง​ เห็น​ว่า​ข้างนอก​ห้อง​หนังสือ​ของ​ใต้เท้า​เจิงปลูก​ต้น​ท้อ​ไว้​ต้น​หนึ่ง​ ดอก​ท้อ​เบ่ง​บานสะพรั่ง​ กลับ​ไม่ชอบใจ​เป็น​อย่างยิ่ง​ เมื่อ​เข้ามา​อาศัย​ก็​อยาก​ให้​คน​ตัด​ต้น​ท้อ​ต้น​นั้น​ทิ้ง​ แล้ว​ปลูก​ไผ่​ด่าง​แทน​ หา​ได้​รู้​ไม่ว่า​ต้น​ท้อ​ต้น​นั้น​กลับ​เป็นต้น​ที่​ใต้เท้า​เจิงปลูก​ไว้​ตอนที่​เข้า​เมืองหลวง​มาเล่าเรียน​ที่​สำนักศึกษา​กั๋วจื่อเจี้ยน​ ว่า​กัน​ว่าไม่ได้​ออกดอก​มานาน​สามปี​ ปี​ที่​ดอกไม้​ผลิบาน​นั้น​ใต้เท้า​เจิงก็​สอบผ่าน​เป็น​จิ้น​ซื่อ​ ใต้เท้า​เจิงจึงถือว่า​มัน​เป็นต้น​นำ​โชค​นับแต่​นั้น​มา คุณชาย​เจิงต้องการ​ตัด​ต้น​ท้อ​ของ​เขา​ทิ้ง​ มิเท่ากับ​ว่า​ต้องการ​จะพราก​ชีวิตจิตใจ​ของ​เขา​หรือ​…

…เขา​ไล่​คุณชาย​เจิงผู้​นั้น​ออก​ไป​ด้วย​ความ​เกรี้ยวกราด​ แล้ว​เชิญนัก​เพาะพันธุ์​ดอกไม้​จาก​เฟิงไถมา อยาก​จะย้าย​ต้น​ท้อ​ต้น​นั้น​กลับ​บ้านเกิด​ที่​ฝูเจี้ย​น.​..

…นัก​เพาะพันธุ์​ดอกไม้​จาก​เฟิงไถมาดู​หลายครั้ง​ แต่​ไม่มีสัก​คน​หนึ่ง​กล้า​รับงาน​นี้​เลย​…

…ใต้เท้า​เจิงจนปัญญา​…

…ทั้ง​กลัว​ว่า​หลังจาก​เขา​จากไป​แล้ว​คน​ของ​ตระกูล​เจิงที่​เข้ามา​อาศัย​จะไม่เชื่อฟัง​ข้อห้าม​ของ​เขา​แล้ว​ตัด​ต้น​ท้อ​ต้น​นั้น​ทิ้ง​ และ​หวั่นเกรง​ว่า​ต้น​ท้อ​ต้น​นั้น​จะเกี่ยวโยง​กับ​ความรุ่งโรจน์​และ​ล่มจม​ของ​ตระกูล​เจิง แล้ว​มีคน​คิด​จะใช้ต้น​ไม้ต้น​นั้น​มาทำลาย​บุตรหลาน​ของ​เขา​…

…แต่ก่อน​ตอนที่​นาย​ท่าน​สี่ของ​พวก​ข้า​ทำมาค้าขาย​ก็​เคย​พบปะ​นาย​ท่าน​เจิงมาก่อน​ ใต้เท้า​เจิงบังเอิญ​ได้ยิน​ว่า​นาย​ท่าน​สี่ต้องการ​ซื้อ​เรือน​หลัง​ใหญ่​หลัง​หนึ่ง​ หนำซ้ำ​นาย​ท่าน​สี่ของ​พวก​ข้า​ก็​มียศ​จิ้น​ซื่อ​ขั้น​สอง​ ทั้ง​ยัง​มีอายุ​ไม่ถึงสามสิบ​ปี​ และ​เป็น​น้องชาย​ร่วมอุทร​ของ​นาย​ท่าน​ใหญ่​ จึงเป็น​ฝ่าย​ที่​เข้าหา​ก่อน​ หากว่า​นาย​ท่าน​สี่รับปาก​สัญญาว่า​จะไม่ตัด​ต้น​ท้อ​ต้น​นั้น​ชั่วชีวิต​ เขา​ก็​จะขาย​เรือน​หลัง​นี้​ให้​นาย​ท่าน​สี่ด้วย​ราคา​ถูก.​..

…นี่​สมกับ​คำกล่าว​ที่ว่า​กำลัง​สัปหงก​ก็​มีคน​ส่งหมอน​มาให้​จริงๆ​ นาย​ท่าน​สี่ของ​พวก​ข้า​กำลัง​คิด​ว่า​ซื้อ​เรือน​สอง​หลัง​ยัง​เล็ก​ไป​อยู่​บ้าง​พอดี​ ใต้เท้า​เจิงก็​มาหา​ถึงหน้า​ประตู​…

…นาย​ท่าน​สี่จึงรับปาก​ทันที​ว่า​นอกจาก​จะไม่ตัด​ต้น​ท้อ​ต้น​นั้น​ทิ้ง​ ยัง​จะส่งคน​ไป​ดูแล​มัน​ให้​ดี​อีกด้วย​…

…ใต้เท้า​เจิงยินดี​เป็น​อย่างยิ่ง​ จึงขาย​เรือน​ให้​นาย​ท่าน​สี่ด้วย​รา​คาที่​ถูก​กว่า​ท้องตลาด​ถึงสอง​ส่วน​เจ้าค่ะ​”

“นาย​ท่าน​สี่โชคดี​จริงๆ​!” ห​ลี่​ซื่อ​ได้ยิน​แล้วก็​รู้สึก​สนใจ​ใคร่รู้​ยิ่ง​ เอ่ย​ถามว่า​ “ต้น​ท้อ​ต้น​นั้น​ยังอยู่​ที่​ส่วน​ตะวันออก​หรือเปล่า​ ไปดู​ได้​หรือไม่​”

หน้าที่​ของ​ปี้​อวี้​ก็​คือ​ต้อนรับ​ห​ลี่​ซื่อ​ให้​ดี​ พอ​ได้ยิน​แล้วก็​รีบ​เอ่ย​ว่า​ “ขอ​เพียง​ฮูหยิน​ปรารถนา​เจ้าค่ะ​! เช่นนั้น​ท่าน​อยาก​จะไปดู​ต้น​ท้อ​ต้น​นั้น​ก่อน​หรือ​ไป​นั่ง​เรือ​เล่น​ก่อน​ดี​เจ้าคะ​”

“ไปดู​ต้น​ท้อ​แล้ว​ค่อย​นั่ง​เรือ​เล่น​ก็แล้วกัน​” ห​ลี่​ซื่อ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ “ดอก​ท้อ​เป็น​สิ่งของ​ที่​ร่วงโรย​ตาม​กาลเวลา​ ปุถุชน​ล้วน​มิชอบ​มัน​ที่​ไม่ถาวร​ การ​ใช้ดอก​ท้อ​เพื่อ​พิทักษ์​รักษา​ตระกูล​ นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​ข้า​ได้ยิน​”

ทว่า​โจว​เสาจิ่น​กลับ​นึก​ถึงเงิน​ของ​เฉิงฉือ​ นาง​ถามขึ้น​ว่า​ “เช่นนั้น​ตอนที่​ท่าน​น้า​ฉือ​ซื้อ​เรือน​ของ​ตระกูล​ห​ลี่​กับ​ตระกูล​หลิว​คงจะ​เสียเงิน​ไป​ไม่น้อย​กระมัง​”

นัยน์ตา​ของ​ปี้​อวี้​มีประกาย​วาบ​ผ่าน​เล็กน้อย​

นาง​คาดไม่ถึง​ว่า​โจว​เสาจิ่น​จะจับ​ความนัย​ใน​คำพูด​ได้​ พบ​ว่าการ​ซื้อ​เรือน​ของ​ตระกูล​ห​ลี่​กับ​ตระกูล​หลิว​นั้น​เสียเงิน​ไป​เป็น​จำนวนมาก​

เพียงแต่​พูด​เรื่อง​นี้​ไป​ก็​คง​ไม่ดี​นัก​ ครั้น​ได้ยิน​แล้วจึง​ตอบ​อย่าง​คลุมเครือ​เล็กน้อย​ว่า​ “ไม่ได้​เสียเงิน​มาก​เท่าใด​เจ้าค่ะ​ ท่าน​ก็​เห็น​ว่า​ต้นไม้​ดอกไม้​ของ​ตระกูล​หลิว​นี้​เขียวชอุ่ม​ร่มรื่น​ยิ่ง​ น้ำ​ที่​ไหล​ใน​สระน้ำ​ที่​สวนดอกไม้​ก็​ดึง​มาจาก​ที่นี่​ ส่วน​ห้องโถง​หลัก​ของ​ตระกูล​ห​ลี่​นั้น​โอ่อ่า​ยิ่งยวด​ ทั้งหมด​ล้วน​ใช้ต้นไม้​เก่าแก่​อายุ​ร้อย​ปี​ทำเป็น​เสาเรือน​ ต่อให้​อาศัย​อยู่​หลาย​ชั่วคน​ก็​ไม่เป็นไร​ คิดดู​แล้วก็​คุ้ม​ราคา​เป็นอย่างมาก​เจ้าค่ะ​!”

“แต่​เรือน​นี้​ใหญ่​เกินไป​ ถ้าหาก​ต้องการ​ขาย​ขึ้น​มาเกรง​ว่า​คง​มีเพียง​ไม่กี่​คน​ที่​มีกำลังซื้อ​” โจว​เสาจิ่น​ทอดถอนใจ​

หากว่า​ท่าน​น้า​ฉือ​ต้องการ​ก่อตั้ง​ตระกูล​ตนเอง​จริงๆ​ ละ​ก็​ เรือน​ใหญ่​ถึงเพียงนี้​ คน​ทั่วไป​ล้วน​ซื้อ​ไม่ไหว​ ทั้ง​แลก​เปลี่ยนเป็น​เงิน​ไม่ได้​ แล้ว​ยัง​ต้อง​เลี้ยงดู​บ่าว​เด็ก​ที่​ทำความสะอาด​มากมาย​อีก​ เสียค่าใช้จ่าย​เป็นอันมาก​

เรือน​ที่​ซอ​ยอ​วี๋เฉียน​นั้น​ยัง​ดีกว่า​เสีย​อีก​!

“ใน​เมื่อ​ซื้อ​มาแล้ว​ ก็​คง​ไม่ขาย​แล้ว​เจ้าค่ะ​!” ปี้​อวี้​กล่าว​ยิ้ม​ๆ “อย่างไร​ซอย​จิ่ว​หรู​ก็​ไม่ขาด​ทรัพย์สิน​เงินทอง​หรอก​เจ้าค่ะ​”

ห​ลี่​ซื่อ​จึงคิด​ว่า​ตระกูล​เฉิงร่ำรวย​มาก​จริงๆ​!

แม้แต่​ตระกูล​เจิงที่​มีกิจการ​ขาย​ชาสี่ถึงห้า​ใน​สิบ​ส่วน​ของ​ฝูเจี้ยน​ก็​มิอาจ​เทียบเคียง​ตระกูล​เฉิงได้​

มิน่า​เวลา​ที่​คนใน​เมือง​จิน​ห​ลิง​พูดถึง​ตระกูล​เฉิงแห่ง​ซอย​จิ่ว​หรู​ต่าง​พูด​เป็น​เสียง​เดียวกัน​ว่า​พวกเขา​เป็น​ตระกูล​อันดับ​หนึ่ง​ของ​จิน​ห​ลิง​!

ห​ลี่​ซื่อ​ยิ้ม​พลาง​เอ่ย​ชมปี้​อวี้​ว่า​ “ไม่คาดคิด​เลย​ว่า​เจ้าเพิ่ง​มาถึงจิงเฉิงได้​ไม่นาน​ แต่​พูดถึง​ตระกูล​เก่าแก่​ต่างๆ​ ใน​จิงเฉิงราวกับ​คุ้นเคย​เป็น​อย่าง​ดีแล้ว​”

ปี้​อวี้​ตอบ​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “นี่​ก็​เป็น​สิ่งที่​ข้า​ได้ยิน​มาไม่น้อย​ยาม​อยู่​ข้าง​กาย​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​เจ้าค่ะ​ พ่อบ้าน​ฉิน​อธิบาย​ให้​ฟังอย่าง​ละเอียด​ จึงรู้​ว่า​ตระกูล​ใด​เป็น​ตระกูล​ใด​”

นาง​ไป​ชมดอก​ท้อ​ที่​ส่วน​ตะวันออก​เป็นเพื่อน​ห​ลี่​ซื่อ​กับ​โจว​เสาจิ่น​ ทว่า​ปาก​กลับ​ไม่หยุดพัก​ กล่าว​เสริม​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “ซอย​นี้​ที่​พวก​ข้า​อาศัย​เรียก​ว่า​ซอย​ซื่อ​เถียว​ เป็น​ทำเล​ที่​ดี​ที่สุด​ใน​ย่าน​ประตู​เฉาหยาง​เจ้าค่ะ​ เรือน​ใน​เมือง​จิงเฉิงของ​ตระกูล​กู้​แห่ง​ไห่​หนิง​อยู่​ที่​ซอย​ลิ่ว​เถียว​ ห่าง​จาก​พวก​ข้า​สอง​ซอย​ อยู่​ใกล้​กัน​มาก​ ส่วน​เรือน​ใน​เมือง​จิงเฉิงของ​ตระกูล​หยวน​แห่ง​ถงเซียง​อยู่​ซอย​อี้​เถียว​ ไกล​กว่า​ตระกูล​กู้​เล็กน้อย​ ทว่า​ใช้เวลา​เพียง​หนึ่ง​เค่อจง​ก็​ถึงแล้ว​ แต่​ตระกูล​เผิง​ที่​ต้า​กู​ไห​น่​ไน​สามของ​พวก​ข้า​แต่งงาน​ด้วย​อยู่​ไกล​ออก​ไป​เล็กน้อย​ หาก​นั่ง​รถม้า​ไป​ก็​ต้อง​ใช้เวลา​สามเค่อจง​ อย่างไรก็ตาม​ทุกคน​ล้วน​อยู่​ใน​ละแวก​เดียวกัน​ก็​พอแล้ว​… ตระกูล​ฟางแห่ง​ซูเฉิงก็​อยู่​ซอย​อี้​เถียว​ แต่​ตระกูล​หยวน​อยู่​ต้น​ซอย​ ตระกูล​ฟางอยู่​ท้าย​ซอย​ ตระกูล​ห​ลี่​แห่ง​หลู​เจียง​อยู่​ซอย​ซาน​เถียว​ อยู่​แค่​ด้านหน้า​ของ​พวกเรา​นี่เอง​ ทว่า​เรือน​ไม่ใหญ่โต​เท่า​ของ​พวก​ข้า​ เป็น​เรือน​ขนาด​ห้า​วง​เช่นกัน​เจ้าค่ะ​…”

นาง​กล่าว​อธิบาย​อย่าง​ไม่รู้จัก​เหน็ดเหนื่อย​และ​ละเอียด​ชัดเจน​ยิ่ง​

ห​ลี่​ซื่อ​ฟังแล้ว​ ก็​ชื่นชม​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ที่อยู่​ห่างไกล​ใน​เมือง​จิน​ห​ลิง​ไม่หยุด​!

แม้เป็น​เพียง​สาวใช้​ข้าง​กาย​ แต่​ได้รับ​การ​ชี้แนะ​สั่งสอน​จาก​นาง​มานาน​หลาย​ปี​ มีหู​ตา​กว้างไกล​ถึงเพียงนี้​ ต่อให้​เป็น​นาย​หญิง​ใหญ่​ที่​ดูแล​งานบ้าน​งาน​เรือน​ใน​ตระกูล​สามัญชน​ เกรง​ว่า​คง​ไม่มีความรู้​ความสามารถ​เช่น​ปี้​อวี้​เป็นแน่​

ตอนที่ 417 เรือนพำนัก 1

ตอนที่ 417 เรือนพำนัก 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน