เข้าสู่ระบบผ่าน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน นิยาย บท 427

เฉิงเว่ย​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​

คน​เป็น​ปู่​ให้ความสำคัญ​กับ​หลานชาย​คนโต​ แต่​บิดา​มารดา​รักใคร่​เอ็นดู​บุตรชาย​คน​เล็ก​

เขา​เป็น​บุตรชาย​คนกลาง​ที่​มีอุปนิสัย​อ่อนโยน​ผู้​นั้น​ บุตรชาย​ที่​ไม่ง่าย​เลย​กว่า​จะได้รับ​มาทั้ง​มิได้​เป็น​บุตร​ที่​โดดเด่น​เหนือ​ผู้อื่น​ หนำซ้ำ​หยวน​ซื่อ​ยัง​เป็น​คน​ที่​ชอบ​เอาชนะ​คนอื่น​ผู้​หนึ่ง​ เขา​จึงมิได้​เรียกร้อง​อะไร​มาก​จาก​บุตรชาย​

ทว่า​ผู้​เป็น​พ่อ​เป็น​แม่ย่อม​เป็นห่วง​บุตร​ไป​ตลอดชีวิต​ อย่างไร​ก็​หวัง​ว่า​ตอนที่​ไม่มีตน​คอย​ดูแล​ลูก​ๆ จะมีชีวิต​ที่​ดี​ได้​

หาก​ได้รับ​การ​ชี้แนะ​จาก​มารดา​ การ​ปฏิบัติตัว​กับ​ผู้อื่น​และ​จัดการ​ธุระ​ต่างๆ​ ของ​บุตรชาย​ย่อม​ต้อง​ก้าวหน้า​มากขึ้น​อย่าง​แน่นอน​

เฉิงเว่ย​รีบ​ตอบ​ตกลง​ในทันที​

เฉิงฉือ​มิได้​กล่าว​อะไร​อีก​

เฉิงจิงคิด​อยู่​เสมอ​ว่า​หาก​ตระกูล​อยาก​จะเจริญรุ่งเรือง​ คนรุ่นก่อน​ต้อง​อุ้มชู​คนรุ่นหลัง​

หาก​เฉิงรั่ง​มีวาสนา​นี้​ สอง​พี่น้อง​ร่วมมือร่วมใจ​กัน​ได้​ คน​ข้างนอก​ก็​ต้อง​มอง​ตระกูล​เฉิงเพิ่มมากขึ้น​เป็นแน่​

เขา​จึงเห็นด้วย​กับ​ข้อเสนอ​ของ​เฉิงฉือ​เป็นอย่างมาก​

สามพี่น้อง​ก็​ไป​ดื่ม​ชาเป็นเพื่อน​เฉิงเซ่าที่​ห้อง​หนังสือ​เรือน​ชั้นนอก​

ภายใน​ห้อง​ เฉิงเจิงไถ่ถามเรื่อง​การ​แยก​ตระกูล​

สุดท้าย​หญิงสาว​ที่​ออกเรือน​ไป​แล้ว​ ด้าน​หนึ่ง​คือ​บ้าน​สามี อีก​ด้าน​หนึ่ง​คือ​บ้านเดิม​ ไม่ว่า​จะเป็น​หน้า​มือ​หรือ​หลัง​มือ​ล้วน​เป็น​เลือดเนื้อเชื้อไข​ทั้งสิ้น​

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​กล่าว​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “เรื่อง​นี้​เจ้าไม่ต้อง​ไป​ยุ่ง​ หาก​คน​ของ​ตระกูล​กู้​ซักถาม​ เพียง​บอ​กว่า​ไม่รู้​ก็แล้วกัน​”

ใน​ใจของ​เฉิงเจิงเต็มไปด้วย​ความขมขื่น​

ไม่ว่า​ตระกูล​นี้​จะแยก​ตระกูล​สำเร็จ​หรือไม่​ กลัว​ว่า​ข้อกล่าวหา​ของ​ต้นเหตุ​การ​แยก​ตระกูล​นี้​คงจะ​ตก​กับ​ฮูหยิน​หยวน​มารดา​ของ​นาง​เป็นแน่​

แต่​นาง​ก็​รู้ดี​ว่า​ ถึงพูด​ตอนนี้​ก็​สาย​ไป​เสียแล้ว​

เฉิงเจิงจับมือ​ของ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​แล้ว​สะอื้น​ไห้​ขึ้น​มาว่า​ “อุปนิสัย​ของ​มารดา​ข้า​ก็​รู้ดี​ ไม่ต้อง​พูดถึง​ข้า​ แม้แต่​ท่าน​ก็​ยาก​จะเกลี้ยกล่อม​นาง​ได้​… แต่​ไม่ว่า​อย่างไร​นาง​ก็​เป็น​มารดา​ของ​ข้า​ ข้า​จะมอง​นาง​โดย​ไม่ไยดี​เลย​ไม่ได้​ อย่าง​อื่น​ข้า​ก็​มิกล้า​คาดหวัง​นัก​ ขอ​เพียง​ท่าน​ย่า​เห็นแก่​เจีย​ซ่าน​ว่า​มีฐานะ​เป็น​หลานชาย​คนโต​ของ​ท่าน​ ก็​โปรด​ช่วย​เขา​ด้วย​เถิด​เจ้าค่ะ​!”

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​มิได้​เอ่ย​คำ​ใด​กว่า​ครู่ใหญ่​

หลังจาก​หยวน​ซื่อ​แต่ง​เข้ามา​แล้ว​ให้กำเนิด​เฉิงเจิงบุตรสาว​คนโต​ใน​ปี​นั้น​ หลาย​ปี​ต่อมา​ก็​มิได้​ตั้งครรภ์​อีก​เลย​ นาง​จึงไป​ไหว้พระ​บนบาน​กับ​เทพ​ ปรากฏ​ว่า​กลับ​ให้กำเนิด​บุตรสาว​อีก​คน​หนึ่ง​ ใน​ใจของ​นาง​ย่อม​ร้อนรน​เหลือหลาย​ นอกจาก​จะไปหา​หมอ​ขอ​ยาบำรุง​แล้ว​ ก็​ยัง​ไป​ทำบุญ​ตาม​วัด​แต่ละ​แห่ง​อีกด้วย​ ไหน​เลย​จะมีใจหรือ​เวลา​มาดูแล​บุตรสาว​ทั้งสอง​ ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​เห็น​แล้วก็​รับ​เฉิงเซิงกับ​เฉิงเซียว​ทั้งสอง​คน​มาเลี้ยงดู​ใน​เรือน​ จวบจน​หยวน​ซื่อ​ให้กำเนิด​เฉิงสวี่​ เฉิงเจิงก็​กลายเป็น​เด็ก​สาวน้อย​วัย​สิบสอง​ขวบ​แล้ว​ แม้แต่​เฉิงเซียว​ผู้​นั้น​ก็​รู้ความ​แล้ว​เหมือนกัน​ ย่อม​ต้อง​ใกล้ชิด​กับ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​มากกว่า​หยวน​ซื่อ​เป็นธรรมดา​ หลาย​ปี​แรก​หยวน​ซื่อ​ยุ่ง​อยู่​กับ​การ​เลี้ยงดู​เฉิงสวี่​ผู้​เป็น​ทายาท​สืบสกุล​เพียง​คนเดียว​ผู้​นี้​ จึงมิได้​สนใจ​บุตรสาว​ ครั้น​มีเวลา​มาสนใจ​ เฉิงเจิงก็​ออกเรือน​ไป​เสียแล้ว​ ส่วน​เฉิงเซียว​ก็​ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​แต่งงาน​แล้ว​เช่นกัน​

นี่​ก็​เป็น​เหตุผล​ว่า​เหตุใด​เฉิงเซียว​ถึงได้​แต่งงาน​กับ​หยวน​หมิง​ญาติ​ผู้​พี่​ของ​ตนเอง​

ด้วยเหตุนี้​เมื่อ​ถึงคราว​ของ​เฉิงสวี่​ นาง​จึงกีดกัน​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ราวกับ​ป้องกัน​ขโมย​อยู่​ก็​ไม่ปาน​ ไม่เพียง​มิให้​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​สอด​มือ​ยุ่ง​กับ​เรื่อง​อาหารการกิน​และ​เสื้อผ้า​เครื่องนุ่งห่ม​ต่างๆ​ ของ​บุตรชาย​แล้ว​ แม้แต่​เรื่อง​การศึกษา​เล่าเรียน​ ก็​มิได้​หยิบ​ยืมมือ​ของ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​เลย​สักนิด​

แต่ก่อน​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ยัง​พูด​แนะนำ​อยู่​บ้าง​ ให้​นาง​อย่า​มุ่งเน้น​แต่​การศึกษา​ของ​บุตร​ แต่​ต้อง​ให้​บุตร​ได้​เดิน​ออก​ไป​บ้าง​จะได้​มีจิตใจ​เด็ดเดี่ยว​แน่วแน่​และ​มีความรับผิดชอบ​

หยวน​ซื่อ​รับปาก​สัญญา ทว่า​พอ​หมุน​กาย​ออก​ไป​ก็​ยังคง​ทำตาม​ความคิดเห็น​ของ​ตน​อยู่​เช่น​เดิม​

ทว่า​การเล่าเรียน​ของ​เฉิงสวี่​กลับ​ยอดเยี่ยม​ยิ่ง​ เมื่อ​ผู้อื่น​เอ่ยถึง​ก็​ต้อง​ยก​นิ้วโป้ง​ชมว่า​ดี​ แม้แต่​จิงเฉิงที่อยู่​คั่น​กลาง​ระหว่าง​ทั้งสอง​คน​ก็​รู้สึก​ลำบากใจ​เหลือล้น​

ยัง​เป็น​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กวน​จาก​จวน​สี่ที่​ปลอบ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​เป็นการ​ส่วนตัว​ประโยค​หนึ่ง​ว่า​ บุตรหลาน​ล้วน​มีความสุข​เป็น​ของ​ตนเอง​ สอด​มือ​ยุ่ง​มาก​จน​เกินไป​จะกลายเป็น​ศัตรู​ไป​เสีย​ ใน​ตอนนั้น​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​กำลัง​ทุกข์​ร้อนใจ​ด้วย​เรื่อง​ของ​เฉิงฉือ​พอดี​ จึงได้​วางมือ​ลง​อย่าง​ช่วยไม่ได้​ แล้ว​ไปมาหาสู่​กับ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กวน​

ตอนนี้​เฉิงเจิงมาขอร้อง​ให้​นาง​ดูแล​เฉิงสวี่​ เป็นไปได้​ว่า​คง​ขบคิด​มาแล้ว​ว่า​หยวน​ซื่อ​ออกมา​ก่อเรื่อง​วุ่นวาย​ขนาด​นี้​ สุดท้าย​เป็น​เพราะ​ขาด​คุณธรรม​ที่​สตรี​พึงมี​ หาก​นาง​เอ่ยปาก​อีกครั้ง​ว่า​จะเลี้ยงดู​สั่งสอน​เฉิงสวี่​แทน​ ใน​ตอนนี้​ไม่ว่า​หยวน​ซื่อ​หรือ​เฉิงจิงย่อม​มิกล้า​เอ่ย​คำ​ว่า​ ‘ไม่’ ออกมา​

แต่​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​เสียใจ​จาก​ความผิดหวัง​ไป​แล้ว​ ไม่อยาก​ดูแล​ใคร​แทน​อีกแล้ว​

ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​อื่น​ เพียง​พูดถึง​ว่า​นาง​เลี้ยงดู​ฟูมฟัก​เฉิงเจิงกับ​เฉิงเซียว​จน​เติบใหญ่​ ก็​พอ​จะกล่าว​ได้​ว่า​พวก​นาง​กตัญญู​กตเวที​ต่อ​นาง​ แต่​หากว่า​นาง​เกิด​ความ​หมางใจ​กับ​หยวน​ซื่อ​ขึ้น​มาจริงๆ​ เกรง​ว่า​พวก​นาง​คงจะ​เอนเอียง​ไป​ทาง​หยวน​ซื่อ​มากกว่า​เล็กน้อย​ แต่​ก็​มิใช่จะบอ​กว่า​เด็ก​เหล่านี้​ผิด​แต่อย่างใด​ ทว่า​นี่​เป็นธรรมชาติ​ของ​มนุษย์​ ผู้ใด​ก็​หลีกเลี่ยง​มิได้​

อีก​ทั้ง​นาง​มิได้​ไม่มีบุตรชาย​เสียหน่อย​

เจ้าใหญ่​ให้​นาง​อยู่​ที่นี่​ เจ้ารอง​กับ​เจ้าสี่ล้วน​ไม่ได้​ว่า​อะไร​!

เห็น​ได้​ว่า​ผู้ใด​เป็น​ผู้ให้กำเนิด​ก็​สนิท​ชิด​เชื้อ​กับ​ผู้​นั้น​ หาไม่​แล้ว​เหตุใด​ตั้งแต่​โบราณ​จนถึง​ปัจจุบันนี้​ถึงต้อง​โต้เถียง​กัน​ด้วย​เรื่อง​ ‘บุญคุณ​ผู้ให้กำเนิด​’ กับ​ ‘บุญคุณ​ผู้เลี้ยงดู​’ เล่า​

ด้วย​ความ​ฉลาด​ปราดเปรื่อง​และ​ความเข้าใจ​ที่​มีต่อ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ของ​เฉิงเจิง ย่อม​คาดเดา​ความคิด​ของ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ได้​สี่ถึงห้า​ส่วน​

นาง​ไม่รอ​ให้​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ได้​เอ่ยปาก​ก็​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ “ท่าน​ย่า​ ข้า​รู้​ว่า​เรื่อง​นี้​ทำให้​ท่าน​ลำบากใจ​มาก​เช่นกัน​ ข้า​ไม่กล้า​ขอให้​เจีย​ซ่าน​เป็น​ผู้​ที่​โดดเด่น​เหมือน​บิดา​ ท่าน​อา​รอง​ หรือ​ท่าน​อา​สี่เช่นนั้น​ได้​ เพียง​หวัง​ว่า​เขา​จะเป็น​คน​เอาการเอางาน​ ท่าน​เห็น​ว่า​เขา​ยังมี​ผู้ช่วย​คน​หนึ่ง​ ท่าน​ช่วย​ย้ำ​เตือน​ชี้แนะ​เขา​สัก​เรื่อง​สอง​เรื่อง​นะ​เจ้าคะ​”

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​นึกถึง​ดวง​หน้าที่​แต่ก่อน​เปล่งประกาย​สดใส​ดุจดั่ง​กลาง​ฤดู​คิมหันต์​ทว่า​ตอนนี้​กลับ​เหงาหงอย​ราว​หิมะ​ สุดท้าย​ใจของ​นาง​ก็​ทน​ไม่ได้​ ถอนหายใจ​ยาว​อย่าง​ห้าม​ไม่อยู่​พร้อมกับ​เอ่ย​ว่า​ “ประเดี๋ยว​เจีย​ซ่าน​มาจิงเฉิงแล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​อีกที​เถอะ​!”

เฉิงเจิงเห็น​ว่า​น้ำเสียง​ของ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ผ่อนคลาย​ลง​บ้าง​ ก็​รู้สึก​ดีใจ​เหลือแสน​ จับมือ​ของ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ขณะ​กล่าว​ขอบคุณ​ไม่หยุด​

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​เห็น​แล้วก็​คลี่​ยิ้ม​ขึ้น​มาตาม​ไป​ด้วย​ กล่าว​อย่าง​ทอดถอนใจ​ว่า​ “เจ้าเด็ก​โง่ ทำให้​เจ้าลำบากใจ​แล้ว​!”

“ขอ​เพียง​ทั้ง​ครอบครัว​ใช้ชีวิต​อย่าง​สงบสุข​และ​ปรองดอง​กัน​ได้​ จะบอ​กว่า​ได้รับ​ความ​ลำบากใจ​ได้​อย่างไร​กัน​เจ้าคะ​” เฉิงเจิงกล่าว​ยิ้ม​ๆ “อีก​อย่าง​ท่าน​ย่า​เป็น​อิสตรี​ที่​โดดเด่น​ไม่เป็นรอง​บุรุษ​ผู้​หนึ่ง​ หาก​ได้รับ​การ​สั่งสอน​จาก​ท่าน​ จะต้อง​ดีกว่า​ท่าน​พ่อ​เป็นแน่​เจ้าค่ะ​…”

นาง​หลอกล่อ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ แม้แต่​ฮูหยิน​รอง​เว่ย​ที่​ผลัดเปลี่ยน​เสื้อผ้า​เข้ามา​พอ​ได้ยิน​แล้วก็​ระบาย​ยิ้ม​ออกมา​

ทั้ง​สามคน​พูดคุย​เรื่อง​การ​เลี้ยงดู​บุตร​อีก​ จนกระทั่ง​มีสาวใช้​เด็ก​มาแจ้งว่า​กู้​ซวี่​มาถึงแล้ว​ บทสนทนา​ถึงได้​หยุด​ลง​ แล้ว​บอก​ให้​สาวใช้​เด็ก​นำ​กู้​ซวี่​กับ​บุตรชาย​ทั้งสอง​คน​เข้ามา​ทำความเคารพ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​

***

ทว่า​โจว​เสาจิ่น​ที่อยู่​ซอ​ยอ​วี๋เฉียน​กลับ​นั่ง​ไม่ติดกับ​ที่​เล็กน้อย​

วันนี้​เฉิงฉือ​ติดธุระ​มาอยู่​เป็นเพื่อน​นาง​ไม่ได้​ อีก​ทั้ง​ห​ลี่​ซื่อ​กำหนด​วัน​ที่หนึ่ง​เดือน​หก​เป็น​วัน​ออกเดินทาง​กลับ​เป่า​ติ้ง​ บอ​กว่า​มิอาจ​พลาด​งาน​วัน​คล้าย​วันเกิด​ของ​โจว​เจิ้น​ได้​

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน