เข้าสู่ระบบผ่าน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน นิยาย บท 436

เฉิงฉือ​กลับ​มาถึงบ้าน​ที่​ประตู​เฉาหยาง​ ทาง​ด้าน​ของ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​กำลัง​มีแขก​มาเยี่ยม​พอดี​ หลี่ว์​มามาอธิบาย​ให้​ฟังด้วย​ใบหน้า​ยิ้มแย้ม​ว่า​ “เป็น​ฮูหยิน​ใหญ่​ตระกูล​ฟาง วัน​มะรืน​ก็​จะกลับ​ซูเฉิงแล้ว​ วันนี้​จึงตั้ง​ใจมากล่าว​อำลา​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​เป็นการ​เฉพาะ​เจ้าค่ะ​”

เช่นนั้น​ก็​คง​ต้อง​รอ​อีก​สักประเดี๋ยว​แล้ว​ค่อย​มาคารวะ​มารดา​แล้ว​

เฉิงฉือ​พยักหน้า​ กลับ​ไป​ยัง​ที่พัก​ของ​ตน​

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ได้ยิน​เสียง​ความเคลื่อนไหว​จึงถามขึ้น​ว่า​ “เป็น​ผู้ใด​มาหรือ​”

หลี่ว์​มามาขานตอบ​อย่าง​นอบน้อม​ว่า​ “นาย​ท่าน​สี่กลับมา​แล้ว​เจ้าค่ะ​ พอ​ได้ยิน​ว่า​ท่าน​มีแขก​ ก็​เลย​กลับ​ไป​ก่อน​เจ้าค่ะ​!”

คง​กลับ​มาจาก​ซอ​ยอ​วี๋เฉียน​กระมัง​

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ครุ่นคิด​อยู่​ใน​ใจ ฮูหยิน​ใหญ่​ฟางได้ยิน​แล้ว​กลับ​กล่าว​ขึ้น​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “น้อง​สี่ฉือ​หรือ​ ข้า​ไม่ได้​เจอ​เขา​มาหลาย​ปี​แล้ว​ ตอนนี้​เขา​สบายดี​หรือไม่​เจ้าคะ​!”

“สบายดี​ๆๆ!” เมื่อ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​นึกถึง​คน​ที่​กลับ​มาถึงผู้​นี้​ขึ้น​มารอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ก็​ยิ่ง​เด่นชัด​ยิ่งขึ้น​

ฮูหยิน​ใหญ่​ฟางกล่าว​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “ภรรยา​ของ​น้อง​สี่ฉือ​เป็น​สตรี​จาก​ตระกูล​ใด​หรือ​เจ้าคะ​ ตอน​เขา​แต่งงาน​เหตุใด​ท่าน​ถึงไม่ส่งเทียบเชิญ​มาให้​พวก​ข้า​บ้าง​เลย​”

แม้น​จะอยู่​ห่างไกล​กัน​ แต่​อย่างไร​ก็​ต้อง​ให้​ใคร​สัก​คน​นำ​ของขวัญ​ไป​มอบให้​

กล่าวถึง​เรื่อง​นี้​ขึ้น​มาแล้ว​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​รู้สึก​กระอักกระอ่วน​ขึ้น​มาเล็กน้อย​ กล่าว​ขึ้น​ว่า​ “เขา​ยัง​ไม่ได้​แต่ง​งาน.​..”

อายุ​อา​นาม​ขนาด​นี้​แล้ว​ อีก​ทั้ง​ยังมี​ยศ​ตำแหน่ง​แล้ว​แต่กลับ​ยัง​ไม่แต่งงาน​ เกรง​ว่า​ภายใน​เรื่อง​นี้​คงจะ​มีเหตุผล​อะไร​ที่​ไม่สมควร​เอ่ย​ออกมา​ ฮูหยิน​ใหญ่​ฟางจึงไม่กล้า​ถามให้​มากความ​อีก​ กล่าว​ขึ้น​ว่า​ “รักแท้​มักจะ​มีอุปสรรค​ขวางกั้น​ ท่าน​ก็​อย่า​ได้​เป็นกังวล​มากเกินไป​เลย​เจ้าค่ะ​” จากนั้น​ก็​เปลี่ยน​หัวข้อ​สนทนา​ “เช่นนั้น​ข้า​ขอตัว​กลับ​ก่อน​แล้ว​! หาก​ท่าน​มีเรื่อง​อะไร​ เพียง​เขียนจดหมาย​ไป​ให้​ที่​ซูเฉิงก็ได้​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​กล่าว​ขอบคุณ​ สั่งการ​ให้​ฮูหยิน​รอง​เว่ย​ช่วย​ไป​ส่งแขก​

ฮูหยิน​ใหญ่​ฟางเกรงใจ​อยู่​คำรบ​หนึ่ง​ ให้​ฮูหยิน​รอง​เว่ย​เดิน​นำ​ออก​มาจาก​เรือน​หลัก​

นาง​เอ่ย​ถามขึ้น​อย่า​งอด​ไม่ได้​ว่า​ “เหตุใด​น้อง​สี่ฉือ​ถึงยัง​ไม่แต่งงาน​หรือ​”

ฮูหยิน​รอง​เว่ย​จะแสดงความคิดเห็น​เกี่ยวกับ​เรื่อง​ภรรยา​ของ​น้องชาย​คน​เล็ก​ของ​สามีได้​อย่างไร​ ได้​แต่​กล่าว​อย่าง​คลุมเครือ​ไป​ว่า​ “น้อง​สี่นั้น​ไม่ว่า​จะเป็น​คุณสมบัติ​ ความรู้​หรือ​ความสามารถ​ล้วน​สูงส่ง เพียงแต่ว่า​เรื่องใหญ่​อย่าง​เรื่อง​แต่งงาน​นี้​กลับ​ดื้อดึง​ไม่ยอม​ลง​ให้​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​ กล่าวคือ​ ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​เห็น​ว่า​ดี​ น้อง​สี่ก็​รู้สึก​ว่า​ไม่ดี​ พอ​น้อง​สี่รู้สึก​ว่า​ดี​ ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​ก็​เห็น​ว่า​ไม่ดี​ ไปๆ มาๆ​ อยู่​เช่นนี้​ เรื่อง​แต่งงาน​จึงล่าช้า​มาเรื่อยๆ​”

ฮูหยิน​ใหญ่​ฟางฟังแล้วก็​จมอยู่กับ​ความคิด​ตัวเอง​

ผ่าน​ไป​ไม่กี่​วัน​ ฮูหยิน​ใหญ่​เลี่ยว​ก็​มาเยี่ยม​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ เอ่ยถึง​ฟางเซวียน​ขึ้น​มาอย่าง​มีนัย​แฝงว่า​ “…พ่อแม่​กลัว​ว่า​นาง​จะได้รับ​ความลำบาก​ อยาก​จะหา​คน​ที่​สุขุม​รอบคอบ​สัก​คน​ ถ้าหาก​เป็น​คน​ที่​อายุ​มากกว่า​ อีก​ทั้ง​ผู้ใหญ่​ใน​บ้าน​ยัง​เป็น​คน​ที่​มีเหตุผล​ได้​สัก​คน​ก็​คงจะ​ดี​ไม่น้อย​ มาฝากฝัง​กับ​ข้า​หลายครั้ง​แล้ว​ ท่าน​เอง​ก็​ทราบ​ดี​ ข้า​อาศัย​อยู่​ที่​เมือง​เล็ก​ๆ อย่าง​เจิ้น​เจียง​ ไหน​เลย​จะรู้จัก​ใคร​มาก​ หลาย​วันก่อน​พี่สะใภ้​ของ​ข้า​เดินทาง​กลับ​ซูเฉิง ก็​เอ่ยถึง​เรื่อง​นี้​กับ​ข้า​ขึ้น​มาอี​กว่า​ให้​ข้า​ช่วย​ดู​ให้​สักหน่อย​ ข้า​คิดไปคิดมา​แล้ว​ เมื่อก่อน​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​เคย​อาศัย​อยู่​ที่​จิงเฉิงหลาย​ปี​ คน​ที่​ท่าน​รู้จัก​มีมากกว่า​เกลือ​ที่​ข้า​เคย​กิน​เสีย​อีก​ ถือโอกาส​ที่​วันนี้​อากาศ​ดี​ยิ่งนัก​มาขอ​ความเมตตา​จาก​ท่าน​สัก​ครั้งหนึ่ง​ หาก​ท่าน​มีคน​ที่​เห็น​ว่า​เหมาะสม​ ขอให้​ท่าน​ช่วย​ดู​ให้​สักหน่อย​เจ้าค่ะ​”

ความนัย​ที่​ชัดเจน​ถึงเพียงนี้​ หาก​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ฟังไม่ออก​มิเท่ากับ​ว่า​ความเฉลียวฉลาด​และ​หลักแหลม​ที่​นาง​มีจะเป็นการ​เสียเปล่า​หรอก​หรือ​

นาง​เพียงแต่​คิดไม่ถึง​ว่า​ฮูหยิน​ใหญ่​ฟางจะสนใจ​เฉิงฉือ​เท่านั้น​

ฟางเซวียน​ผู้​นั้น​อายุ​น้อยกว่า​เฉิงฉือ​เป็น​สิบ​ปี​

แต่ว่า​โจว​เสาจิ่น​เอง​ก็​อายุ​น้อยกว่า​เฉิงฉือ​เป็น​สิบ​ปี​เหมือนกัน​…

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​จึงอด​ไม่ได้​ที่จะ​ลอบ​ถอนหายใจ​อยู่​ใน​ใจอย่าง​ไร้​ทางเลือก​เล็กน้อย​

วันนั้น​พอ​ส่งฮูหยิน​ใหญ่​ฟางออก​ไป​แล้ว​เฉิงฉือ​ก็​มาคารวะ​นาง​ พูดถึง​เรื่อง​ที่จะ​ให้​โจว​เสาจิ่น​มาอยู่​เป็นเพื่อน​นาง​ขึ้น​มา

นาง​ยัง​ไม่ทัน​ได้​เอ่ยปาก​ เจ้าเด็ก​โง่เฉิงเซิงผู้​นั้น​กลับ​ปรบมือ​เห็นด้วย​ ยัง​กล่าว​ด้วยว่า​ “…เสาจิ่น​เป็น​คน​อ่อนโยน​และ​ว่าง่าย​เป็น​ที่สุด​ ตอนนี้​พวกเรา​พี่สาว​น้องสาว​ทั้ง​สามคน​ต่าง​ก็​ออก​ออกเรือน​กัน​หมด​แล้ว​ ไม่อาจ​มาอยู่​เป็นเพื่อน​ท่าน​ย่า​เหมือน​เมื่อก่อน​ ได้​เสาจิ่น​มาอยู่​เป็นเพื่อน​ท่าน​ย่า​พอดี​” จากนั้น​ยัง​กล่าว​ยิ้ม​ๆ อย่าง​ยินดี​ว่า​ “ถ้าหาก​ปัก​ภาพ​เด็ก​เล่น​กัน​จำพวก​นั้น​ให้​ข้า​ได้​สัก​ผืน​หนึ่ง​ก็​คงจะ​ยิ่ง​ดี​เจ้าค่ะ​”

แล้ว​เด็ก​ผู้​นั้น​ก็​มีจิตใจ​ที่​ซื่อตรง​มากเกินไป​ ถึงกับ​เตรียม​จะปัก​ภาพ​เด็ก​เล่น​กัน​ให้​เฉิงเซิงสัก​ผืน​จริงๆ​ อีกด้วย​

คิดถึง​ตรงนี้​ ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ถามเจิน​จูที่​ปรนนิบัติ​อยู่​ข้าง​กาย​ว่า​ “คุณหนู​รอง​กำลัง​ทำ​อะไร​อยู่​ ยัง​คัด​พระธรรม​ไม่เสร็จ​อีก​หรือ​ ฮูหยิน​ใหญ่​เลี่ยว​มาหา​ ให้​นาง​มาคารวะ​ฮูหยิน​ใหญ่​เลี่ยว​สัก​ครั้งหนึ่ง​!”

ฮูหยิน​ใหญ่​เลี่ยว​รู้สึก​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​ เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ “คิดไม่ถึง​ว่า​วันนี้​คุณหนู​รอง​ของ​บ้าน​สะใภ้ใหญ่​จะอยู่​ที่นี่​ด้วย​!”

นาง​ได้ยิน​โจว​ชูจิ่น​บอ​กว่า​ช่วงนี้​โจว​เสาจิ่น​มักจะ​มาอยู่​เป็นเพื่อน​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ที่​ประตู​เฉาหยาง​บ่อยๆ​ นาง​คิด​ว่า​เป็น​เพียง​การ​มาอยู่​เป็นเพื่อน​พูดคุย​เท่านั้น​ คิดไม่ถึง​ว่า​ยัง​ต้อง​คัด​พระธรรม​ด้วย​

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​จึงกล่าวว่า​ “เมื่อก่อน​นาง​เคย​ติดตาม​ข้า​ไป​สักการะ​พระพุทธองค์​ที่​เขา​ผู่​ถัว​ เชี่ยวชาญ​ใน​พระธรรม​ ข้า​มักจะ​ให้​นาง​ช่วย​คัด​พระธรรม​ให้​ข้า​บ่อยๆ​”

ฮูหยิน​ใหญ่​เลี่ยว​กล่าว​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “คิดไม่ถึง​ว่า​คุณหนู​รอง​ของ​บ้าน​สะใภ้ใหญ่​จะเชี่ยวชาญ​การ​คัด​พระธรรม​ด้วย​”

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​กล่าว​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “อักษร​ของ​นาง​ก็​คัด​ได้ดี​ยิ่ง​ ตัวบรรจง​งดงาม​ ฝีแปรง​เบา​สบาย​เป็นธรรมชาติ​ ค่อนข้าง​มีพื้นฐาน​ที่​ดี​”

ฮูหยิน​ใหญ่​เลี่ยว​ฟังน้ำเสียง​ของ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​นั้น​แล้ว​คล้าย​กับ​ว่า​นาง​ชื่นชอบ​โจว​เสาจิ่น​เป็นอย่างมาก​ก็​ไม่ปาน​ จึงกล่าว​ยิ้ม​ๆ อย่าง​ประจบประแจง​ว่า​ “เนื่องจาก​เป็น​คน​ที่​ทำให้​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​ถูกใจ​ได้​ คาด​ว่า​คง​เป็น​คน​ที่​ยอดเยี่ยม​มาก​ผู้​หนึ่ง​” นาง​เอ่ยถึง​ฟางเซวียน​ขึ้น​มาอีก​ครั้งหนึ่ง​ “…อักษร​ของ​นาง​ก็​คัด​ได้​ดีมาก​เช่นกัน​ มิสู้ให้​นาง​มาอยู่​เป็นเพื่อน​เสาจิ่น​สัก​คน​”

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ปฏิเสธ​อย่าง​สุภาพ​ไป​ว่า​ “เกรง​ว่า​ฮูหยิน​รอง​ฟางจะสงสาร​นาง​ ทน​เห็น​นาง​รับ​ความยากลำบาก​เหล่านี้​มิได้​”

บิดา​ของ​ฟางเซวียน​เป็น​บุตรชาย​ลำดับ​ที่สอง​ของ​ตระกูล​ฟาง

ตอนที่ 436 รั้งอยู่ที่เมืองหลวง 1

ตอนที่ 436 รั้งอยู่ที่เมืองหลวง 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน