เข้าสู่ระบบผ่าน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน นิยาย บท 446

ส่วน​เฉิงฉือ​ที่อยู่​ไกล​ถึงเมือง​เป่า​ติ้ง​ในเวลานี้​กำลัง​ยืน​อยู่​หน้า​ประตู​ที่ว่า​การเมือง​เป่า​ติ้ง​

นับ​เป็นครั้งแรก​ใน​ชีวิต​ที่​เขา​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​ประหม่า​ถึงเพียงนี้​

โจว​เจิ้น​เป็น​คน​สุขุม​มีมารยาท​ ใจกว้าง​มีการศึกษา​ แต่​หลังจาก​เกิดเรื่อง​ของ​เฉิงสวี่​แล้ว​ เขา​จะอนุญาต​ให้​ตน​แต่ง​กับ​โจว​เสาจิ่น​หรือไม่​นั้น​ เฉิงฉือ​ไม่มีความมั่นใจ​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​

ไหว​ซาน​ก้าว​ออก​ไป​ยื่น​ป้ายชื่อ​

ห​ลี่​ซื่อ​รีบ​ให้​คน​ไป​แจ้งโจว​เจิ้น​ที่​กำลัง​ทำงาน​อยู่​ที่​ที่ทำการ​ส่วนหน้า​

โจว​เจิ้น​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​ ถามบ่าว​ชาย​ที่​นำ​ป้ายชื่อ​เข้ามา​ให้​ว่า​ “ฮูหยิน​ได้​บอก​หรือไม่​ว่า​เป็นเรื่อง​อะไร​”

บ่าว​ชาย​รีบ​ตอบ​ว่า​ “ฮูหยิน​บอก​เพียง​ว่า​ให้​ท่าน​เร่ง​กลับ​ไป​ นาย​ท่าน​สี่ตระกูล​เฉิงส่งเทียบ​มาอย่าง​กะทันหัน​ อีก​ทั้ง​ยัง​เข้ามา​ทาง​ประตู​ข้าง​เช่นนี้​ เกรง​ว่า​จะมีเรื่องด่วน​อะไร​ขอรับ​”

โจว​เจิ้น​วาง​งาน​ใน​มือ​ลง​ รีบ​สาวเท้า​กลับ​ไป​ที่​ด้านหลัง​ของ​ที่ว่าการ​

เขา​เป็น​หัวหน้า​ของ​ที่ว่าการ​นี้​ หาก​ไม่พัก​อยู่​ใน​ที่ว่าการ​แต่​ไป​เช่าบ้าน​อยู่​ข้างนอก​แทน​ อีก​ทั้ง​ตระกูล​โจว​ก็​มิใช่ตระกูล​ใหญ่โต​อะไร​ จะต้อง​ทำให้​คน​เกิด​ความสงสัย​ว่า​เขา​ฉ้อฉล​เป็นแน่​ แต่​พอ​พัก​อยู่​ใน​ที่ว่าการ​ เรื่อง​แต่งงาน​ของ​เสาจิ่น​ก็​ถูก​ผู้อื่น​สนใจ​ใคร่รู้​อย่าง​หลีกเลี่ยง​ไม่ได้​ ดังนั้น​ตอนที่​ชูจิ่น​เสนอ​ขึ้น​มาว่า​อยาก​ให้​เสาจิ่น​รั้ง​อยู่​ที่​จิงเฉิงเพื่อ​หา​ตระกูล​ที่​เหมาะสม​ให้​เสาจิ่น​สัก​ตระกูล​หนึ่ง​นั้น​ เขา​จึงเสนอ​เงื่อนไข​เพียง​อย่าง​เดียว​ว่า​ไม่ให้​เสาจิ่น​แต่ง​ไป​อยู่​ที่​ไกลๆ​ เท่านั้น​ กระทั่ง​ซอย​จิ่ว​หรู​แยก​ตระกูล​กัน​ สิ่งที่​เขา​เป็นกังวล​มาก​ที่สุด​ก็​คือ​ที่ผ่านมา​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​จวน​สี่และ​จวน​รอง​นับวัน​ยิ่ง​จืดจาง​ลง​ด้วย​สาเหตุ​มาจาก​เสาจิ่น​ วันนี้​จวน​หลัก​ตั้งรกราก​อยู่​ที่​จิงเฉิง จวน​สี่ไร้​ซึ่งการ​สนับสนุน​ของ​จวน​หลัก​แล้ว​ จะทำให้​ลำบาก​ไป​ด้วย​หรือไม่​

โจว​เจิ้น​เขียนจดหมาย​ไป​สอบถาม​จวน​สี่หลาย​ฉบับ​

ไม่กี่​วัน​ เขา​ก็​ได้รับ​จดหมาย​จาก​เฉิงหยวน​นาย​ท่าน​รอง​ที่​รับราชการ​อยู่​นอกเมือง​ของ​จวน​สี่ บอ​กว่า​ในอนาคต​อัน​ใกล้​นี้​เขา​อาจจะ​ได้​โยกย้าย​ไป​ดำรงตำแหน่ง​เจ้าหน้าที่​ตุลา​การเมือง​หลิ่ว​โจว​ที่​ก่วง​ซี ยัง​ลอบ​บอก​โจว​เจิ้น​เป็นนัย​ด้วยว่า​ตำแหน่ง​นี้​เฉิงจิงเป็น​คนแนะนำ​ให้​

แม้น​ก่วง​ซีจะมิใช่สถานที่​ที่​ดี​อะไร​นัก​ แต่​หลิ่ว​โจว​นั้น​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​ ที่​มาก​ไป​กว่า​นั้น​ก็​คือ​ได้​เลื่อนขั้น​จาก​นายอำเภอ​ยศ​ผิ่น​ขั้น​เจ็ด​ล่าง​ไป​เป็น​เจ้าหน้าที่​ตุลาการ​ยศ​ผิ่น​ขั้น​หก​บน​อีกด้วย​

ต่อมา​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​มาอยู่​เมืองหลวง​ ก็​เรียก​เสาจิ่น​ไป​อยู่​เป็นเพื่อน​

เขา​คิด​ว่า​เฉิงสวี่​มิได้​อยู่​จิงเฉิง อีก​ทั้ง​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ก็​กำลัง​เผชิญ​กับ​ความยากลำบาก​อัน​ใหญ่หลวง​ขนาด​นี้​ คาด​ว่า​สภาพ​จิตใจ​คง​ไม่สู้ดี​นัก​ จึงเรียก​เสาจิ่น​ไป​อยู่​เป็นเพื่อน​ เขา​ก็​เลย​ทำเป็น​ไม่รู้เรื่อง​ ไม่พูดถึง​อะไร​ทั้งนั้น​

เวลานี้​เฉิงฉือ​กลับมา​เยี่ยม​เขา​อย่าง​กะทันหัน​…ไม่รู้​ว่า​มีเรื่อง​เกิด​ขึ้นกับ​เสาจิ่น​ หรือว่า​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้นกับ​ตระกูล​เฉิงหรือไม่​

เฉิงฉือ​นั่ง​รอ​อยู่​ใน​โถงรับรอง​เพียง​ครู่เดียว​ เมื่อ​เห็น​โจว​เจิ้น​ก็​รีบ​ลุกขึ้น​ทำความเคารพ​

โจว​เจิ้น​ยิ่ง​รู้สึก​ไม่สบายใจ​มากขึ้น​

เฉิงฉือ​ประสบความสำเร็จ​ตั้งแต่​อายุ​ยัง​น้อย​ ทั้ง​ยัง​ได้รับ​ความ​โปรดปราน​จาก​เฉิงซวิน​มากกว่า​พี่ชาย​ทั้งสอง​ แม้ไม่อาจ​กล่าว​ได้​ว่า​หยิ่ง​ทะนง​ ทว่า​ก็​มิใช่คน​ที่​เข้าหา​ได้​ง่าย​อะไร​ขนาด​นั้น​ เหตุใด​จู่ๆ ถึงทำตัว​นอบน้อม​ต่อ​เขา​ถึงเพียงนี้​เล่า​

หรือว่า​เรื่อง​ที่​เฉิงฉือ​จะขอร้อง​อาจ​ทำให้​เขา​รู้สึก​ลำบากใจ​?

โจว​เจิ้น​ครุ่นคิด​พิจารณา​อยู่​ใน​ใจ ทว่า​มิได้​แสดง​ออกมา​บน​ใบหน้า​ กล่าว​เชิญให้​เฉิงฉือ​นั่งลง​ยิ้ม​ๆ สั่งให้​สาวใช้​เด็ก​ไป​ขอ​ชาต้าหง​เผา​ที่​เขา​เก็บ​สะสมเอาไว้​กับ​ห​ลี่​ซื่อ​เพื่อ​เอา​มารับรอง​แขก​ จากนั้น​สนทนา​พา​ที​กับ​เฉิงฉือ​ว่า​ “น้อง​จื่อ​ชวน​มาถึงเมือง​เป่า​ติ้ง​ตั้งแต่​เมื่อใด​ รับประทาน​อาหารเช้า​มาแล้ว​หรือยัง​ พัก​อยู่​ที่ไหน​” กล่าวถึง​ตรงนี้​ เขา​เกือบจะ​หลุดปาก​บอก​ให้​เฉิงฉือ​ไม่ต้อง​ทำตัว​เป็น​คนอื่น​ไกล​ ให้​มาพัก​กับ​เขา​ที่นี่​ แต่​ก็​คิด​ขึ้น​มาได้​ว่า​ตระกูล​เฉิงและ​ตระกูล​โจว​ไม่เหมือน​เมื่อก่อน​แล้ว​ อีก​ทั้ง​เขา​กับ​เฉิงฉือ​ก็​ไม่ได้​สนิทสนม​กัน​ การ​กล่าว​คำพูด​เช่นนั้น​ออกจะ​ทำตัว​สนิทสนม​เกินไป​สักหน่อย​ เสียงพูด​จึงหยุด​ลง​ครู่หนึ่ง​ เก็บ​คำพูด​ประโยค​เมื่อ​ครู่​กลับมา​ กล่าว​ต่อว่า​ “ไม่รู้​ว่า​น้อง​จื่อ​ชวน​มาหา​ข้า​มีเรื่อง​อะไร​หรือ​ หาก​ไม่มีธุระ​เร่งด่วน​อะไร​ มิสู้รั้ง​อยู่​รับประทาน​มื้อ​เที่ยง​ด้วยกัน​ดี​หรือไม่​ เมือง​เป่า​ติ้ง​สู้จิน​ห​ลิง​ไม่ได้​ ยิ่ง​เทียบ​ไม่ได้​กับ​จิงเฉิง ไม่มีของ​อร่อย​อะไร​มาก​นัก​ โชคดี​ที่​คนครัว​ของ​จวน​ข้า​ติดตาม​มาจาก​เจียง​ซีด้วย​ ทำอาหาร​เจียง​ซีหลาย​รายการ​ได้​รสชาติ​ดั้งเดิม​ยิ่งนัก​ ที่นี่​ข้า​ยังมี​สุรา​ดอก​หลี​ไห​เล็ก​ๆ ไห​หนึ่ง​ ได้​เอา​มาดื่ม​แกล้ม​กับข้าว​ด้วย​พอดี​”

น้อง​จื่อ​ชว​น.​..

เมื่อก่อน​ก็​รับได้​ แต่ว่า​ตอนนี้​…

เฉิงฉือ​รู้สึก​กระอักกระอ่วน​เล็กน้อย​ แต่​ความรู้สึก​กระอักกระอ่วน​นี้​ก็​อยู่​เพียง​ชั่วครู่​เท่านั้น​

ใน​เมื่อ​เขา​ตัดสินใจ​ว่า​จะสู่ขอ​เสาจิ่น​แล้ว​ ในอนาคต​ยัง​ต้อง​เผชิญหน้า​กับ​เรื่อง​อีก​มากมาย​

คำ​เรียกขาน​ก็​เป็น​เพียง​หนึ่ง​ใน​จำนวน​นั้น​เท่านั้น​!

เขา​กล่าว​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “ใต้เท้า​โจว​ไม่ต้อง​เกรงใจ​ ข้า​มาด้วย​เรื่องส่วนตัว​”

‘ใต้เท้า​โจว​’ อีกแล้ว​หรือ​

โจว​เจิ้น​ลอบ​ขมวดคิ้ว​

ใน​เมื่อ​เฉิงฉือ​ต้องการ​ขีดเส้น​แบ่ง​กับ​เขา​ เขา​เอง​ก็​มิใช่ว่า​ต้องการ​จะนับ​ญาติ​กับ​ตระกูล​เฉิงจวน​หลัก​เหมือนกัน​

เพียงแต่ว่า​หลัง​กลับ​มาจาก​จิงเฉิงห​ลี่​ซื่อ​ชื่นชม​เฉิงฉือ​เป็นอย่างมาก​ บอ​กว่า​ได้รับ​การ​ดูแล​จาก​เฉิงฉือ​มาไม่น้อย​ ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ยัง​มอบ​บ้าน​ที่​เดิมที​เตรียม​เอาไว้​ให้​เฉิงฉือ​ให้​เสาจิ่น​ด้วย​หนึ่ง​หลัง​ ให้​พวก​นาง​ได้​มีหน้ามีตา​ต่อหน้า​ตระกูล​เลี่ยว​ ยัง​ช่วย​นาย​ท่าน​ใหญ่​ตระกูล​ห​ลี่​ให้ได้​พบปะ​กับ​ขันที​ใหญ่​ของ​สำนัก​อาหาร​และ​เครื่องดื่ม​ของ​สำนักพระราชวัง​ ตอนนี้​ได้​ทำการค้า​กับ​สำนักพระราชวัง​ขึ้น​มา บอก​ให้​เขา​เวลา​เจอ​คน​ของ​จวน​หลัก​ ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​ต้อง​กล่าว​ขอบคุณ​สักครั้ง​…เขา​ถึงได้​ให้เกียรติ​เฉิงฉือ​มาก​ขนาด​นี้​

ถ้าหาก​นับ​สถานะ​กัน​แล้ว​ เขา​เป็น​จิ้น​ซื่อ​ประจำปี​การ​สอบ​ปิ่งซ​วี​ ส่วน​เฉิงฉือ​เป็น​จิ้น​ซื่อ​ประจำปี​การ​สอบ​เห​ริน​เฉิน​ เขา​สูงกว่า​เฉิงฉือ​อยู่​ถึงสอง​รอบ​การ​สอบ​ด้วยซ้ำ​!

เขา​ยก​จอก​ชาขึ้น​จิบ​เงียบๆ​ ไป​คำ​หนึ่ง​

เฉิงฉือ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “ผู้คน​ต่าง​พูด​กัน​ว่า​ดอก​กล้วยไม้​นั้น​เลี้ยง​ยาก​ เมื่อก่อน​ข้า​มักจะ​รู้สึก​ว่า​ครอบครัว​อยุติธรรม​กับ​ข้า​ เหตุใด​พี่ใหญ่​และ​พี่​รอง​เรียนหนังสือ​แล้ว​ได้​รับราชการ​ ความสามารถ​ใน​การเรียน​ของ​ข้า​ก็​มิได้​ด้อย​ไป​กว่า​พวกเขา​ กลับ​ถูก​กักขัง​ให้​อยู่​บ้าน​ดูแล​กิจการ​ของ​ตระกูล​ จึงมักจะ​อารมณ์ร้าย​ เห็น​อะไร​ก็​รู้สึก​ไม่เข้าตา​ไป​เสีย​หมด​ มารดา​จึงมอบ​กล้วยไม้​เจี้ยน​หลาน​ให้​ข้า​กระถาง​หนึ่ง​ ให้​ข้า​วาง​มัน​ไว้​บน​โต๊ะ​หนังสือ​และ​เลี้ยง​มัน​ให้​ดี​…

…ข้า​ไม่ใส่ใจ…

…ยาม​อารมณ์ดี​ก็​รดน้ำ​ให้​มัน​ ยาม​อารมณ์ไม่ดี​แค่​เห็น​กล้วยไม้​เจี้ยน​หลาน​กระถาง​นั้น​ก็​รู้สึก​อารมณ์​เสียแล้ว​…

…รู้สึก​ว่า​นั่น​เป็น​หลักฐาน​ที่​พิสูจน์​ว่า​ตัวเอง​ยัง​ประสบความสำเร็จ​ไม่มากพอ.​..

…มีหลายครั้ง​ที่​ให้​คน​เอา​มัน​ไป​ทิ้ง​ที่​สวนดอกไม้​แล้วก็​ให้​คน​ไป​ตามหา​กลับมา​อี​ก.​..

…อย่าง​ช้าๆ ไม่รู้​ว่า​เป็น​เพราะ​เห็น​จน​ชิน​แล้ว​ หรือ​เป็น​เพราะ​ข้า​ทำ​กับ​กล้วยไม้​เจี้ยน​หลาน​เช่นนี้​สุดท้าย​มัน​ก็​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ ข้า​จึงอด​ไม่ได้​เริ่ม​ที่จะ​เอาใจใส่​มัน​ ยัง​เอา​มัน​ไป​วาง​บน​หน้าต่าง​เพื่อ​รับลม​เป็นครั้งคราว​อีกด้วย​…

…ผ่าน​ไป​เพียง​ไม่กี่​เดือน​ กล้วยไม้​เจี้ยน​หลาน​กระถาง​นั้น​ก็​เติบโต​สูงใหญ่​ ตั้ง​ตระหง่าน​และ​งด​งาม…

…ข้า​จึงตัด​กิ่ง​และ​รดน้ำ​ให้​มัน​บ่อยๆ​…

…อย่าง​ค่อยเป็นค่อยไป​ ข้า​ค้นพบ​ว่าการ​เลี้ยง​ดอกไม้​ก็​เป็นเรื่อง​น่า​สำราญใจ​ไม่น้อย​…

…มัน​จะงอก​ใบ​อ่อน​ๆ ออกมา​ ยาม​อากาศ​ดี​ก็​เหยียด​กิ่งก้าน​ออก​ ทุกครั้งที่​ข้า​มอง​สำรวจ​มัน​อย่าง​ละเอียด​มัน​มักจะ​เปลี่ยนไป​เล็กน้อย​อยู่​เสมอ​ บางที​สอง​สามวันก่อน​ยัง​เหยียด​กิ่งก้าน​ไป​ทาง​ตะวันออก​ ทว่า​สอง​วันนี้​กลับ​เริ่ม​เจริญเติบโต​ไป​ทางตะวันตก​ บางที​ใบ​ของ​กิ่ง​ที่​ถูก​กด​เอาไว้​ก็​พยายาม​หาทาง​โผล่​ออกมา​โดยที่​ไม่ได้​สังเกต​ เผย​ใบ​สีเขียว​อ่อน​ออกมา​…มัน​ก็​เหมือนกับ​เด็ก​ขี้อาย​ผู้​หนึ่ง​ ตอนที่​ข้า​ไม่ได้​จับตาดู​มัน​ก็​จะเล่น​สนุก​อย่าง​ซุกซน​…

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน