หยวนซื่อฟังแล้วรู้สึกไม่พอใจในน้ำเสียงของบุตรสาวเป็นอย่างยิ่ง
ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นคนที่ตนอุ้มท้องมาสิบเดือนกว่าจะคลอดออกมา เหตุใดนางต้องพูดเข้าข้างฮูหยินผู้เฒ่าด้วย
หรือว่านี่จะเป็นผลร้ายที่ทิ้งนางไว้ให้ฮูหยินผู้เฒ่าเลี้ยงดูจนเติบใหญ่มาตั้งแต่เล็กอย่างนั้นหรือ
หยวนซื่อกล่าวอย่างเคืองโกรธว่า “เจ้าเป็นบุตรสาวที่แต่งงานออกไปแล้วจะไปรู้อะไร ข้าตกลงกับฮูหยินรองตระกูลฟางแล้วว่าจะส่งเสริมให้อาเซวียนแต่งกับท่านอาสี่ของเจ้า ตอนนี้ท่านย่าของเจ้ากลับคำพูดของตัวเอง เจ้าจะให้ข้าไปอธิบายกับพวกญาติๆ เหล่านี้ว่าอย่างไร เจ้าไม่รู้หรืออย่างไรว่าเรื่องนี้จะทำร้ายอาเซวียนและตระกูลฟางมากมายขนาดไหน”
คำกล่าวหานี้ร้ายแรงเกินไปแล้ว
นอกจากนี้นางไม่เชื่อว่าท่านย่าจะทำเรื่องกลับกลอกกลับคำพูดของตัวเองได้!
เฉิงเจิงไม่พูดไม่ได้ “ท่านย่าได้ตอบตกลงเมื่อไรว่าจะให้ท่านอาสี่แต่งกับอาเซวียนกันเจ้าคะ”
คำถามของบุตรสาวทำให้หยวนซื่อโมโหมากยิ่งขึ้น เอ่ยขึ้นว่า “วันนั้นเจ้าไม่ได้อยู่ด้วยหรืออย่างไร ข้ากับฮูหยินใหญ่เลี่ยวผลักดันอาเซวียนอยู่ตลอด ฮูหยินรองฟางก็เอ่ยปากอนุญาตเองว่าให้อาเซวียนอยู่ชมการแสดงงิ้วเป็นเพื่อนท่านย่าของเจ้า…”
เฉิงเจิงแสยะยิ้มเย็นอยู่ในใจอย่างอดไม่อยู่
ยังมีฮูหยินใหญ่เลี่ยวอีกผู้หนึ่งด้วย!
ทั้งหมดล้วนเป็นหญิงสาวจากตระกูลฟางทั้งสิ้น
เหตุใดมารดามักจะไม่รู้ว่าสิ่งไหนคือเรื่องหลักสิ่งไหนคือเรื่องรองอยู่ตลอดด้วยเล่า
“ถูกต้องแล้วเจ้าค่ะ!” เฉิงเจิงกล่าว “ข้าเองก็อยู่ด้วย! ข้าเห็นท่าทางของฮูหยินรองฟางมุ่งมาดปรารถนาจะเกี่ยวดองกับตระกูลเฉิงให้ได้ในบัดดล ผู้ใดคิดอยากจะเกี่ยวดองกับตระกูลเฉิงก็เกี่ยวดองกันได้ง่ายๆ เลยอย่างนั้นหรือ เช่นนั้นตระกูลเฉิงของพวกเราจะกลายเป็นอะไรไปแล้ว เป็นสวนดอกไม้หลังบ้านที่ใครคิดอยากเข้าก็เข้า คิดอยากออกก็ออกได้ง่ายๆ อย่างนั้นหรือ ตอนนั้นท่านเองก็อยู่ด้วยมิใช่หรือ ท่านย่าได้พูดอะไรบ้างหรือไม่ ได้กล่าวคำมั่นหรือรับปากอะไรตระกูลฟางหรือไม่ แล้วท่านมาพูดว่าท่านย่ากลับคำพูดของตัวเองได้อย่างไร นอกจากนี้ท่านปู่จากไปแล้ว เรื่องแต่งงานของท่านอาสี่จึงควรให้ท่านย่าเป็นผู้ตัดสินใจ ท่านอาจคิดว่าเป็นเรื่องสมควรที่จะแนะนำคนให้ท่านย่า แต่ท่านย่าและท่านอาสี่จะตอบรับหรือไม่นั้น นั่นก็เป็นเรื่องของพวกเขาแล้ว ท่านเข้าไปแทรกแซงเหนือหน้าที่ของตัวเองได้อย่างไร งานแต่งของเจียซ่านท่านย่าสอดมือเข้ามายุ่งหรือไม่ งานแต่งของเซียวเจี่ยเอ๋อร์ท่านย่าได้สอดมือเข้ามายุ่งหรือไม่…
…ท่านย่าไม่เพียงไม่สอดมือเข้ามายุ่ง แต่ยังบอกท่านหลายครั้งด้วยว่าตระกูลเฉิงไม่จำเป็นต้องดองกับตระกูลหมิ่นเท่านั้น แล้วท่านฟังหรือไม่ แต่ท่านย่าเคยเรียกท่านพ่อไปเพื่อยืนกรานให้พวกท่านหาคู่แต่งงานที่เหมาะสมกว่าให้เจียซ่านหรือไม่ ก็เพราะท่านย่ากลัวว่าเมื่อสะใภ้แต่งเข้ามาแล้วท่านจะไม่โปรดปราน ทำให้บุตรสาวของผู้อื่นต้องอยู่อย่างลำบาก และทำให้เจียซ่านต้องลำบากใจทั้งสองฝั่ง…
…อะไรที่ตัวเองไม่ชอบก็อย่าทำกับผู้อื่น!…
…ท่านแม่ ต่อไปท่านยุ่งเรื่องของประตูเฉาหยางให้น้อยลงจะดีกว่า!”
เฉิงเจิงกล่าวประโยคสุดท้ายด้วยความเคร่งเครียดและจริงจังยิ่ง
หยวนซื่อโกรธจนเกือบจะหลั่งโลหิตออกมาแล้ว
นี่นางช่างเลี้ยงบุตรสาวมาได้ดีจริงๆ!
แม้แต่ความกตัญญูขั้นพื้นฐานยังไม่รู้จัก
ต้องการทำให้นางโมโหตายทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ให้ได้ถึงจะพอใจ!
นางชี้ไปที่ประตูพร้อมกับตะโกนเสียงดังว่า “ออกไป เจ้าไสหัวไปให้ไกลเดี๋ยวนี้ เจ้าไม่ให้ค่าตระกูลฝั่งมารดาคนนี้ ข้าเองก็ไม่ให้ค่าบุตรสาวอย่างเจ้าเช่นกัน!” จากนั้นกล่าวเสียงดังอย่างเดือดดาลว่า “งานแต่งของเจ้ามิใช่ว่าย่าของเจ้าเป็นคนเลือกมาหรอกหรือ หากรู้เช่นนี้แต่เนิ่นๆ ข้าคงให้เจ้าแต่งไปที่ตระกูลฟางแล้ว!”
เฉิงเจิงถูกคำพูดของมารดาทิ่มแทงจนเป็นแผลลึก
นางน้ำตาคลอเบ้า กล่าวเสียงขรึมว่า “ท่านแม่ งานแต่งของข้าท่านย่าเป็นคนตัดสินใจให้ ตอนนั้นก็เคยถามท่านแล้ว ท่านบอกว่าต้องการให้ข้าแต่งไปที่ตระกูลฟาง แต่ท่านย่าให้คนไปสืบมาแล้วพบว่าคุณชายของตระกูลฟางผู้นั้นเป็นโรคที่ไม่สมควรเอ่ยถึง ตอนนี้เสียชีวิตไปเกือบสิบปีแล้ว ถ้าหากให้ข้าแต่งออกไปตามความเห็นของท่านล่ะก็ ตอนนี้ข้าคงจะกลายเป็นหม้ายไปแล้วกระมัง”
ดวงหน้าของหยวนซื่อเต็มไปด้วยความตกใจ
บุตรสาวรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร
นางอ้าปากค้าง กว่าครู่ใหญ่ก็ไม่อาจเปล่งเสียงใดออกมาได้สักคำ
เฉิงเจิงสะบัดแขนเสื้อจากไปด้วยความเสียใจ
เฉิงสวี่ค่อยๆ เดินออกมาจากตรงหัวมุมของเฉลียงทางเดิน
เขานึกถึงภาพเหตุการณ์ที่ตนเห็นนางในงานวันคล้ายวันเกิดของท่านย่าขึ้นมา
คล้ายกับว่าเรื่องที่สวนดอกไม้นั่นไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับนางเลยแม้แต่นิดเดียว
นางดูงดงามมากกว่าเดิม
นอกจากนี้ยังดูเปล่งปลั่งมีสง่าราศี
ราวกับหยกสลักชิ้นหนึ่ง ที่สุดท้ายก็เปล่งประกายงดงามออกมา
ทว่าตอนนี้นางกำลังจะแต่งกับท่านอาสี่แล้ว
ท่านอาสี่คนที่เขาแหงนหน้ามองด้วยความชื่นชมมาตั้งแต่เด็กผู้นั้น
เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร
ตกลงว่าระหว่างเรื่องนี้เกิดข้อผิดพลาดอะไรขึ้นกันแน่
เฉิงสวี่ค่อยๆ เดินเข้าไปในเรือนหลัก
ไม่รู้ว่าบ่าวรับใช้ภายในห้องไปหลบอยู่ที่ไหนกันหมด หยวนซื่อเอนตัวนอนสะอื้นไห้เบาๆ อยู่บนหมอนของตั่งตัวใหญ่ข้างหน้าต่างเพียงลำพัง
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน