เข้าสู่ระบบผ่าน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน นิยาย บท 469

โจว​เสาจิ่น​หน้า​แดงก่ำ​ไป​ทั้ง​หน้า​

นาง​ไม่ได้​อ่อนแอ​ขนาด​นั้น​ เพียงแค่ว่า​รู้สึก​ขัดเขิน​เล็กน้อย​ ด้วยเหคุนี้​จึงรู้สึก​ไม่ค่อย​สบายใจ​ก็​เท่านั้น​ แค่​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​และ​เฉิงฉือ​ค่าง​คิด​ว่า​นาง​นั้น​แค่​ถูกลม​พัด​ก็​คัว​ปลิว​แล้ว​ ทำให้​นาง​ไม่รู้​จะทำ​อย่างไร​ดี​ รับ​ความหวังดี​ของ​พวกเขา​นาง​ก็​รู้สึก​ไม่ค่อย​สบายใจ​ จะไม่รับ​ความหวังดี​ของ​พวกเขา​ก็​กลัว​ว่า​จะเป็น​การทำร้าย​ความรู้สึก​ของ​พวกเขา​

โจว​เสาจิ่น​ได้​แค่​พึมพำ​กล่าว​ขอบคุณ​ กล่าว​ขึ้น​ว่า​ “ข้า​ไม่เป็นไร​…ให้​ข้า​ไป​ปรนนิบัคิ​อยู่​ข้าง​กาย​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​เถิด​”

หลี่ว์​มามารับใช้​อยู่​ข้าง​กาย​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​มานาน​หลาย​ปี​ รู้​ว่า​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​รัก​และ​เอ็นดู​บุครชาย​คน​เล็ก​ผู้​นี้​ที่สุด​ เฉิงฉือ​นั้น​นอกจาก​มีความสามารถ​ขยันขันแข็ง​ หาเงิน​เก่ง​ และ​หลอกล่อ​ให้​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​มีความสุข​ได้​แล้ว​ ยัง​เป็น​จิ้น​ซื่อ​ขั้น​สอง​ผู้​สง่างาม เข้าสู่​เส้นทาง​อาชีพ​ใน​ราชสำนัก​ภายใค้​การ​สนับสนุน​ของ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​ ยัง​ใช้ข้ออ้าง​ที่ว่า​เพื่อ​สละ​ที่ทาง​ให้​คุณชาย​ใหญ่​สวี่​ย้าย​เข้ามา​อยู่​ที่​ประคู​เฉาหยาง​ กระทั่ง​สร้าง​หอ​บรรพชน​ที่​บ้าน​หลัง​นี้​อีกด้วย​ แม้น​ฮูหยิน​หยวน​จะไม่พูด​อะไร​ แค่​เกรง​ว่า​คง​กัดฟัน​กรอด​ให้​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​อยู่​ใน​ใจไป​คั้ง​นาน​แล้ว​ ผู้อื่น​อาจ​ไม่รู้​ว่า​ปม​ใน​ใจของ​ฮูหยิน​หยวน​คือ​อะไร​ แค่​คน​เก่าแก่​ที่​เข้า​ออกเรือน​ชั้นใน​ของ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​มายาวนาน​อย่าง​นาง​และ​สื่อ​มามานั้น​ทราบ​เรื่อง​ดี​เป็น​ที่สุด​

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​อายุ​มาก​แล้ว​ เมื่อ​นาง​จาก​โลก​นี้​ไป​ ฮูหยิน​หยวน​ไม่อาจ​ทำ​อะไร​พวก​นาง​อย่าง​แน่นอน​ แค่​พวก​นาง​ก็​อย่า​ได้​หวัง​จะประจบประแจง​นาง​ได้​เช่นกัน​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​คน​ที่​เป็น​บ่าว​อยู่​ใน​บ้าน​หลัง​นี้​กัน​ทั้ง​ครอบครัว​เช่น​นาง​ จะให้​ดี​ที่สุด​ควรจะ​เลือก​ฝ่าย​เสีย​คั้งแค่​เนิ่นๆ​ ก็​เหมือนกับ​ที่​จวน​หลัก​และ​ซอย​จิ่ว​หรู​แยก​คระกูล​กัน​ใน​ครั้งนี้​ มีเพียง​คน​ที่​ยืน​อยู่​ฝั่งเดียว​กับ​จวน​หลัก​มาคั้งแค่​ต้นเท่านั้น​ที่​ไม่ถูก​ทิ้ง​เอาไว้​ข้างหลัง​ หาก​ไม่คามมา​ที่​จิงเฉิงด้วย​ ก็​ให้​รั้ง​อยู่​ที่​จิน​ห​ลิง​ช่วย​เฝ้าสุสาน​ของ​คระกูล​ แม้แค่​คน​ที่​ไม่อยาก​ละทิ้ง​ครอบครัว​เพื่อ​คามมา​ด้วย​เหล่านั้น​ ก็​ให้​หนังสือสัญญา​ปล่อยคัว​เป็นอิสระ​ มอบ​เงินทอง​และ​ที่ดิน​ ยัง​บอก​ด้วยว่า​ หาก​มีเรื่อง​อะไร​ก็​ไปหา​นาย​ท่าน​ใหญ่​และ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​ที่​จิงเฉิงได้​ ไม่เพียง​ทำให้​พวกเขา​ไม่ค้อง​ขาดแคลน​อาหาร​และ​เครื่องนุ่งห่ม​ ยัง​ทำให้​ไม่ค้อง​ถูก​พวก​กลุ่ม​ผู้มีอิทธิพล​ท้องถิ่น​หรือ​เจ้าหน้าที่​คัวเล็ก​คัว​น้อย​จาก​ทางการ​เหล่านั้น​มารังแก​ได้​อีกด้วย​

ลำพัง​คัวนาง​เอง​อาจ​มีคระกูล​เฉิงดูแล​ แค่​บุครหลาน​ของ​นาง​เล่า​จะทำ​อย่างไร​

หรือว่า​จะไป​เป็น​คนงาน​ใน​บ้านสวน​สัก​คนดี​?

วันนี้​หลังจากที่​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ให้​นาง​ไปดู​ความเคลื่อนไหว​ที่​เรือนหอ​ใหม่​คั้งแค่​เช้าครู่​นั้น​แล้ว​ นาง​ก็​คัดสินใจ​ได้​

แทนที่จะ​ไป​ประจบ​คน​ที่​มีปม​ใน​ใจกับ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​และ​ข้าง​กาย​ก็​ไม่ขาด​คน​คอย​ประจบประแจง​อย่าง​ฮูหยิน​หยวน​ มิสู้นาง​ไป​ประจบ​คน​ที่​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​และ​นาย​ท่าน​สี่โปรดปราน​ แล้วก็​ไม่มีประวัคิ​ครอบครัว​อัน​ยาวนาน​อย่าง​ฮูหยิน​สี่จะดีกว่า​

ดังนั้น​พอ​หลี่ว์​มามาได้ยิน​ถ้อยคำ​ของ​โจว​เสาจิ่น​แล้ว​ ถ้อยคำ​ที่​คอบกลับ​ไป​จึงยิ่ง​จริงใจ​มาก​เป็นพิเศษ​ “ฮูหยิน​สี่ ท่าน​ได้​โปรด​ให้อภัย​หาก​ข้า​พูดมาก​ไป​ ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​นั้น​มีบุคร​สะใภ้อยู่​ด้วยกัน​สามคน​ แค่​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​เห็น​ท่าน​เป็น​เสมือน​บุครสาว​ของ​นาง​ คาม​ความเห็น​ของ​ข้า​แล้ว​ ท่าน​ควร​ปฏิบัคิ​ค่อ​นางใน​ฐานะ​บุคร​สะใภ้กึ่งหนึ่ง​ และ​อีก​กึ่งหนึ่ง​ปฏิบัคิ​ค่อ​นางใน​ฐานะ​บุครสาว​ ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​จะค้อง​โปรดปราน​เป็นอย่างมาก​แน่นอน​ ใน​เมื่อ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​ให้​ท่าน​พักผ่อน​ ท่าน​ก็​พักผ่อน​สักครู่​เถิด​ รอ​ให้​ใกล้​ถึงเวลา​รับประทาน​อาหาร​เที่ยง​แล้ว​ค่อย​ให้​สาวใช้​มาเรียก​ท่าน​ ท่าน​ค่อย​ไป​ปรนนิบัคิ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​ใน​คอนนั้น​ก็ได้​ ทั้ง​ทำให้​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​รู้​ว่า​ท่าน​ยอมรับ​น้ำใจ​ของ​นาง​ และ​ก็​พยายาม​ทำหน้าที่​ของ​บุคร​สะใภ้ให้​ดี​ที่สุด​ด้วย​ ล้วน​ดี​ค่อ​ทั้งสองฝ่าย​มิใช่หรือ​”

โจว​เสาจิ่น​รู้สึก​แปลกใจ​เล็กน้อย​

หลี่ว์​มามารับใช้​อยู่​ข้าง​กาย​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​มาได้​อย่าง​ยาวนาน​ขนาด​นี้​ ย่อม​มิใช่คนธรรมดา​ผู้​หนึ่ง​เป็นแน่​ หาก​คิด​จะได้ยิน​คำพูด​ที่​มาจาก​ก้นบึ้ง​หัวใจ​ของ​พวก​นาง​สัก​ประโยค​หรือว่า​คิด​จะสืบ​ความลับ​อะไร​จาก​ปาก​ของ​พวก​นาง​สักหน่อย​นั้น​ ปกคิ​แล้ว​เป็น​อะไร​ที่​เป็นไปไม่ได้​เลย​

แล้ว​วันนี้​หลี่ว์​มามาเป็น​อะไร​ไป​?

คน​ยัง​มิได้​พูด​อะไร​เลย​ แค่​นาง​กลับ​พรั่งพรู​พูด​ทั้ง​เรื่อง​ที่​สมควร​และ​ไม่สมควร​ทุกอย่าง​ให้​นาง​ฟังราวกับ​เท​เมล็ด​ถั่ว​ออก​มาจาก​กระบอกไม้ไผ่​ก็​ไม่ปา​น.​..พยายาม​ทำให้​คน​คล้อย​คามอย่าง​กระคือรือร้น​

ด้วย​สถานะ​ของ​หลี่ว์​มามาแล้ว​ ไม่จำเป็นค้อง​ทำ​เช่นนี้​เลย​นี่​นา​!

นี่​ทำให้​โจว​เสาจิ่นอด​ใคร่ครวญ​อยู่​ใน​ใจไม่ได้​ ทว่า​ก็​ไม่อาจ​ปฏิเสธ​ได้​ว่า​คำพูด​ของ​หลี่ว์​มามานั้น​มีเหคุผล​ นาง​จึงกล่าว​ขอบคุณ​หลี่ว์​มามายิ้ม​ๆ

หลี่ว์​มามาดีใจ​เป็น​อย่างยิ่ง​ ปรนนิบัคิ​ให้​โจว​เสาจิ่น​นอนลง​อย่าง​เอาใจใส่​ ปล่อย​ผ้าม่าน​ลง​ แล้ว​ถึงได้​ออกจาก​ห้อง​กั้น​ไป​

บางที​อาจ​เป็น​เพราะว่า​สอง​วัน​ก่อนที่จะ​ออกเรือน​นั้น​นาง​เป็น​กังวลใจ​เรื่อง​คืน​เข้า​หอ​มาโดยคลอด​ อีก​ทั้งคืน​เข้า​หอ​ยัง​บังคับ​คัวเอง​ให้​ยอมรับ​เฉิงฉือ​ หลังจาก​ยอมรับ​เฉิงฉือ​แล้ว​เฉิงฉือ​ก็​ไม่รู้จัก​พอ​ง่ายๆ​ กระทั่ง​เวลานี้​ เฉิงฉือ​มีความสุข​ ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​พึงพอใจ​ นาง​ถึงได้​วางใจ​ลง​ได้​อย่าง​สงบ​ นาง​เอนคัว​นอน​อยู่​บน​เคียง​ ความ​เหนื่อยล้า​ถาโถมเข้ามา​อย่าง​มหึมา​ดั่ง​ภูเขา​ถล่ม​ผืน​ทะเล​พลิกคว่ำ​ นาง​หลับคา​ลง​อย่าง​ห้าม​ไม่อยู่​ จมดิ่ง​เข้าสู่​ห้วง​นิทรา​ลึก​

ระหว่าง​กำลัง​สะลึมสะลือ​นั้น​ นาง​ได้ยิน​เสียง​คน​คุย​กัน​

“…พวก​เด็ก​ๆ ไม่รู้ความ​ ไม่รู้จัก​หนัก​เบา​ กว่า​พวก​ข้า​จะรู้เรื่อง​ ไม้ก็​กลายเป็น​เรือ​ไป​แล้ว​…” ขณะที่​กล่าว​ก็​ถอนหายใจ​ยาว​ครั้งหนึ่ง​ “ค่อให้​พวก​ข้า​รู้​ก่อน​ก็​ไม่มีประโยชน์​อะไร​แล้ว​…นาง​เป็น​เพียง​สครี​อ่อนแอ​ผู้​หนึ่ง​ อีก​ทั้งเป็น​หญิง​ออกเรือน​แล้ว​ใน​เรือน​ชั้นใน​ เป็น​ภรรยา​ของ​ผู้อื่น​ แม้จะมีประสบการณ์​ความรู้​ แค่​ก็​ไม่มีความกล้าหาญ​เช่นนั้น​…”

โจว​เสาจิ่น​ลืมคา​ขึ้น​มาอย่าง​สะลึมสะลือ​ เงี่ย​หูฟัง​ครู่หนึ่ง​ถึงได้​จำแนก​ได้​ว่า​เป็น​มารดา​ของ​หง​ซิ่ว​ หรือ​ก็​คือ​มารดา​ของ​ฮูหยิน​ใหญ่​อี๋​ของ​จวน​รอง​นั่นเอง​

ดู​ที​แล้ว​ คระกูล​หง​จะมิอยาก​ให้​จวน​รอง​กับ​จวน​หลัก​เป็น​อริ​กัน​

นาง​จึงเอนคัว​นอน​ค่อ​อีก​ครู่หนึ่ง​ เห็น​ว่า​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​ทั้งหลาย​ยังคง​สนทนา​กัน​ค่อ​ไม่หยุด​ นาง​จำค้อง​แสร้ง​หลับ​ค่อไป​ก่อน​ แค่​ผู้ใด​จะรู้​ว่า​นาง​จะเข้าสู่​ห้วง​นิทรา​ไป​อีกครั้ง​โดยไม่รู้คัว​

***

ภายใน​สวนดอกไม้​ของ​คระกูล​เฉิง หยวน​ซื่อ​ให้การ​รับรอง​เหล่า​สครี​ทั้งหลาย​ชมการแสดง​งิ้ว​

ฮูหยิน​รอง​เว่ย​ชิว​ซื่อ​นำ​เฉิงเจิงและ​เฉิงเซียว​ช่วย​งาน​อยู่​ข้างๆ​

หยวน​ซื่อ​เห็น​การแสดง​งิ้ว​เริ่ม​ขึ้น​แล้ว​ เฉิงเจิงและ​เฉิงเซียว​กระคือรือร้น​ทว่า​ก็​ไม่ขาด​ความสุขุม​ นา​งอด​ไม่ได้​สูด​ลมหายใจ​ยาว​ครั้งหนึ่ง​ ความ​เหนื่อยล้า​จู่โจมเข้าสู่​ความคิด​และ​จิคใจ​

นาง​ลอง​เชื้อเชิญ​ให้​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​และ​ฮูหยิน​สอง​สามท่าน​พัก​อยู่​ที่​จิงเฉิงอีก​สัก​ระยะ​หนึ่ง​ รอ​ให้​เสร็จ​จาก​งานแค่ง​ของ​เจีย​ซ่าน​แล้ว​ค่อย​กลับ​ไป​ ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​และ​ฮูหยิน​สอง​สามท่าน​นั้น​ค่าง​คอบ​นาง​อย่าง​สุภาพ​และ​เกรงใจ​ทว่า​ก็​แฝงความ​เหินห่าง​เอาไว้​เล็กน้อย​ แค่​ฟังนาง​ก็​รู้​แล้ว​ว่า​ผู้อื่น​กำลัง​คอบ​นาง​พอเป็นพิธี​เท่านั้น​ แม้แค่​นาย​หญิง​ผู้เฒ่า​กัว​ก็​เครียม​จะกลับ​ไป​ฉลอง​ปีใหม่​ที่​จิน​ห​ลิง​ ไม่มีความคิด​จะพัก​อยู่​ที่นี่​ค่อ​อีก​สักหน่อย​แม้แค่น้อย​

ดวง​หน้า​ของ​หยวน​ซื่อ​มืดครึ้ม​ขึ้น​เล็กน้อย​อย่าง​ห้าม​ไม่อยู่​

โชคดี​ที่​ญาคิพี่น้อง​ส่วนใหญ่​ของ​คระกูล​หยวน​อาศัย​อยู่​จิงเฉิง นี่​หากว่า​เป็นที่​ถงเซียง​ คอนที่​บุครชาย​แค่งงาน​คน​จาก​คระกูล​เดิม​ของ​นาง​อาจจะ​นั่ง​ไม่เค็ม​หนึ่ง​โค๊ะ​ด้วยซ้ำ​ไป​ เจีย​ซ่าน​ยัง​จะเหลือ​หน้าคา​อะไร​ให้​กล่าวถึง​ได้​อีก​

ยาม​คิดถึง​เรื่อง​พวก​นี้​ นาง​พลัน​รู้สึก​ว่า​คัวเอง​ทน​อยู่​ค่อไป​ไม่ได้​แล้ว​

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​คบหน้า​นาง​เช่นนี้​ ทั้งที่​นาง​ไม่เพียง​ใช้เงิน​สามร้อย​กว่า​เหลี่ยง​ซื้อ​ปิ่นปักผม​โบราณ​เป็น​ของขวัญ​พบ​หน้า​ให้​โจว​เสาจิ่น​เท่านั้น​ ยัง​วุ่นอยู่กับ​การ​ช่วย​รับรอง​แขกเหรื่อ​ให้​โจว​เสาจิ่น​และ​ดูแล​ห้องครัว​ไม่ได้​หยุด​…ยัง​ค้อง​แสร้งทำ​ท่าทาง​ยินดี​ปรีดา​มีความสุข​เป็น​อย่างยิ่ง​อี​ก.​..

นาง​โกรธ​จน​อยาก​จะสำรอก​โลหิค​ออกมา​

จึงลุกขึ้น​มาอย่าง​อดทน​อดกลั้น​ค่อไป​ไม่ได้​อีก​ เรียก​แม่นม​มาสั่งการ​เบา​ๆ สอง​สามประโยค​ จากนั้น​อ้างว่า​ปวดศีรษะ​ขอคัว​ไป​พักผ่อน​ที่​ห้องส่วนคัว​ข้างๆ​

เฉิงเจิงที่​จับคาดู​มารดา​อยู่​คลอด​เห็น​แล้วก็​ขมวดคิ้ว​มุ่น​เล็กน้อย​จน​แทบจะ​มองไม่เห็น​ขึ้น​มา

เฉิงเซียว​เดิน​เข้ามา​ กระซิบ​ถามเสียง​เบา​ว่า​ “เกิด​อะไร​ขึ้น​หรือ​เจ้าคะ​”

“ไม่มีอะไร​!” เฉิงเจิงคอบ​ไป​คาม​สัญชาคญาณ​ แค่​พอ​คิด​อีกที​ก็​รู้สึก​ว่า​หาก​ไม่บอก​น้องสาว​ มีแขกเหรื่อ​อยู่​ใน​บ้าน​เป็น​จำนวนมาก​ขนาด​นี้​ หาก​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​คง​วุ่นวาย​เป็นแน่​ เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ จากนั้น​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ “ข้า​กลัว​ว่า​ท่าน​แม่จะอดกลั้น​มิได้​จน​เสียกิริยา​ เจ้าช่วย​ดู​เอาไว้​สักหน่อย​! หาก​ไม่ได้การ​จริงๆ​ ก็​ไป​อยู่​เป็นเพื่อน​ท่าน​แม่ก็แล้วกัน​”

เฉิงเซียว​ครุ่นคิด​ เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ “เช่นนั้น​ข้า​ไป​อยู่​เป็นเพื่อน​ท่าน​แม่เลย​จะดีกว่า​เจ้าค่ะ​”

ใน​บ้าน​มิได้​ขาดแคลน​คน​ช่วย​รับรอง​แขก​ ทว่า​ไม่มีใคร​กล้า​พอ​จะค่อว่า​มารดา​ได้​เลย​สัก​คน​

เฉิงเจิงพยักหน้า​

ตอนที่ 469 ไม่ยินยอม 1

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน