แต่ต่อให้หยวนซื่อไม่ยินยอมแล้วจะทําอะไรได้
คําพูดของเฉิงจิงก็ได้บอกอย่างชัดเจนแล้วว่า ที่แม่สามีไม่ยอมแบ่งให้นางมากกว่า มิใช่ เพราะแม่สามีลําเอียง แต่เพราะนางไม่มีความสามารถ ไม่อาจทําให้แม่สามีโปรดปรานได้
นางโกรธจนหน้าอกกระเพื่อม
เงินส่วนตัวของแม่สามี อยากแบ่งให้ผู้ใดก็แบ่งให้ผู้นั้น อยากแบ่งให้ผู้ใดเท่าไรก็แบ่งให้ เท่านั้น แม้นนางจะรู้สึกอิจฉาบ้างเล็กน้อย ทว่าก็มิได้รู้สึกว่าที่แม่สามีทําเช่นนั้นมีอะไรที่ไม่ถูกต้อง แต่สิ่งที่นางสนใจคือวิธีการของแม่สามีต่างหาก บุตรสะใภ้ทั้งสามคน ทั้งที่นางเป็นสะใภ้ใหญ่ อีก ทั้งเป็นสะใภ้เอกของตระกูล จะแยกบ้านแต่ไม่เรียกนางไปปรึกษาหารือ กลับเรียกชิวซื่อน้องสะใภ้ รองไปหารือก่อน แม้แต่คนที่มิได้มีสถานะสูงส่งอย่างโจวเสาจิ่น ก็ถูกเรียกตัวไปถามไถ่ด้วยเช่นกัน รอให้ถึงตอนที่แม่สามีเอ่ยถึงเรื่องแยกบ้านอย่างเป็นทางการขึ้นมา ชิวซื่อและโจวเสาจิ่นต่างได้รับ ในสิ่งที่พวกนางอยากได้กันไปหมดแล้ว แน่นอนว่าพวกนางย่อมไม่พูดอะไรแม้แต่ประโยคเดียวอยู่ แล้ว สองต่อหนึ่ง ถึงเวลาจะแยกบ้านกันอย่างไรนั้น ก็ต้องแล้วแต่ความเห็นของแม่สามีแล้ว
สามีอุตส่าห์กล่าวอย่างมั่นใจว่าแม่สามีมีนิสัยยุติธรรม มิใช่คนที่ชอบคิดบัญชีผู้อื่นลับ หลังประเภทนั้น นี่มิใช่การคิดบัญชีอีกหรือ
หากจะกล่าวโทษ คงต้องโทษที่แม่สามีเสแสร้งเก่งเกินไป ภาพลักษณ์ที่เรียกว่ายุติธรรม และตรงไปตรงมาช่างฝังแน่นอยู่ในใจผู้คนยิ่งนัก แม้แต่บุตรชายของนางเองก็เชื่อสนิทใจ
หยวนซื่อไม่กล่าวอะไรไปกว่าครู่ใหญ่
เฉิงจิงเองก็มิได้พูดเรื่องนี้ต่อ หากพูดเรื่องนี้ต่อไป พวกเขามีแต่จะทะเลาะกันเท่านั้น
4425
เขาลอบถอนหายใจเบาๆ อยู่ในใจครั้งหนึ่ง กล่าวขึ้นว่า “วันนี้เจ้าสี่เขากลับไปเยี่ยมบ้าน เดิม เจ้าได้ไปส่งพวกเขาหรือไม่”
หยวนซื่อลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท
ในใจของนางนั้น โจวเสาจิ่นก็เป็นเพียงเด็กน่าสงสารที่จากบ้านมาอยู่ที่ตระกูลเฉิงของ พวกเขา เด็กสาวไร้เดียงสาที่ยามไม่มีอะไรทําก็จมจ่อมอยู่กับความเสียใจกับการจากไปของฤดู ใบไม้ผลิและการมาถึงของฤดูใบไม้ร่วง ฝันกลางวันโดยไม่รู้จักขอบเขตผู้หนึ่งเท่านั้น ต่อให้นางจะ โชคดีบังเอิญได้แต่งงานกับเฉิงฉือ ก็ยังไม่ได้ดีพอจะเอามาอวดอ้างเป็นหน้าเป็นตาได้ นางจะเอา โจวเสาจิ่นมาอยู่ในสายตาได้อย่างไร และจะเก็บเอาเรื่องของนางมาใส่ใจได้อย่างไร
แค่มองเฉิงจิงก็รู้ว่านางลืมเรื่องนี้ไปแล้ว
สีหน้าของเขาพลันดูไม่ดีขึ้นมาเล็กน้อย กล่าวขึ้นว่า “ไม่ง่ายเลยกว่าต้นไม้จะกลายเป็น ผืนป่าได้ เมื่อก่อนเจ้าจะโวยวายอย่างไร นั่นก็ทําเพื่อจวนหลัก เพื่อเจียซ่าน ข้าซาบซึ้งใจเป็นอย่าง ยิ่ง แต่ตอนนี้พวกเรากับจวนรองแยกตระกูลกันแล้ว ตระกูลเฉิงที่จิงเฉิงก็คือครอบครัวเดียวกัน บางเรื่องเจ้าก็ต้องคิดให้ถี่ถ้วน หากไม่มีตระกูลเฉิง ตระกูลหยวนก็ดีหรือตระกูลฟางก็ดี เกรงว่าก็ คงจะไม่เกรงใจพวกเราขนาดนั้น ผู้ใดคือญาติสนิทผู้ใดคือคนเหินห่าง ผู้ใดใกล้ผู้ใดไกล ในใจเจ้า ควรจะมีตาชั่งอยู่แล้วถึงจะถูก”
หยวนซื่อสีหน้าเปลี่ยน เอ่ยขึ้นว่า “นี่ท่านหมายความอย่างไร” ด้วยนํ้าเสียงแหลมสูง
เฉิงจิงขมวดคิ้วมุ่น พลางกล่าว “เจ้าฉลาดเพียงนั้น ไม่น่าจะไม่รู้ว่าข้ากําลังพูดอะไรอยู่”
บิดาสอนเขามาตั้งแต่เป็นเด็กเล็กๆ แล้วว่า ไม่ควรใส่ไข่ไก่ไว้ในตะกร้าใบเดียวกันถึงจะ ปลอดภัย
4426
ไม่ว่าเฉิงจิงจะชอบหรือไม่ชอบที่เฉิงฉือใกล้ชิดกับซ่งจิ่งหรานมากเกินไปก็ตาม แต่ถ้าหาก ว่าเฉิงฉือได้รับความโปรดปรานจากซ่งจิ่งหรานได้จริงๆ เขาก็จะมีอํานาจต่อรองกับตระกูลหยวน มากยิ่งขึ้น สําหรับเขาแล้วก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องไม่ดี
บางครั้งหยวนซื่อก็ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้!
เขาถอนหายใจยาวๆ ครั้งหนึ่ง ลุกขึ้นพร้อมกับกล่าวว่า “พรุ่งนี้เจ้าก็ไปที่ประตูเฉาหยาง สักครั้ง ไปอธิบายกับท่านแม่สักหน่อย ท่านแม่จะได้ไม่คิดว่าเจ้านิ่งดูดายน้องสะใภ้สาม อีกสอง วันบุตรชายคนโตของรองเจ้ากรมขุนนางหวังเจี่ยนจะแต่งงาน พวกข้าหลายคนปรึกษากันว่าจะไป กล่าวแสดงความยินดีแก่เขาสักครั้งหนึ่ง เย็นวันนี้จึงไม่กลับมารับประทานมื้อเย็นแล้ว”
หยวนซื่อเม้มปากแน่นไปส่งเฉิงจิงที่ประตู
เมื่อกลับมาแม่นมของหยวนซื่อจึงเกลี้ยกล่อมนางว่า “หลายปีมานี้นายท่านเองก็ไม่ง่าย เลย ข้างกายไม่มีคนคอยปรนนิบัติเลยสักคน ฮูหยินเจ้าคะบางครั้งเวลาที่ควรอ่อนโยนก็ควรจะ อ่อนโยน รอให้บุตรสะใภ้แต่งเข้ามาแล้ว นายท่านให้เกียรติท่าน ท่านเองก็มีหน้ามีตามิใช่หรือ นึก ถึงตอนแรกๆ นายท่านผู้เฒ่าให้เกียรติฮูหยินผู้เฒ่ามากมายเพียงไร!”
เพราะฉะนั้นพวกเขาที่เป็นบุตรชายและบุตรสะใภ้เหล่านี้จึงไม่มีใครกล้าละเลยฮูหยินผู้ เฒ่ากัวเลยสักคน
หยวนซื่อทอดถอนหายใจ ยิ้มขื่นพลางกล่าว “ทําไมข้าจะไม่รู้ เพียงแต่ว่าห้ามอารมณ์ที่ อยู่ในใจนี้ไม่ได้” ขณะที่นางกล่าวก็หยุดฝีเท้าลงคล้ายกับนึกบางอย่างได้ กล่าวขึ้นว่า “ไปกัน พวก เราไปเยี่ยมน้องสะใภ้รองกันสักหน่อยเถอะ”
แม่นมของหยวนซื่ออยากจะห้ามปรามหยวนซื่อ แต่หยวนซื่อเดินไปยังลานด้านหลังแล้ว นางได้แต่กลืนคําห้ามปรามเหล่านั้นลงไป
4427
สาวใช้ที่เฝ้าเวรยามอยู่ภายในเรือนของชิวซื่อกลับกล่าวว่า “ฮูหยินรองไปประตูเฉาหยาง ทางด้านโน้น บอกว่านายท่านสี่และฮูหยินสี่กลับบ้านเดิมกันวันนี้เจ้าค่ะ”
หยวนซื่อถาม “ตอนนี้ยังไม่กลับมาอีกหรือ” สาวใช้เด็กส่ายศีรษะ

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน