ตอนที่ 117 ขอถามว่าร้านเหล้าอยู่ไหน เด็กเลี้ยงวัวอยู่ที่ใด
ชีวิตของหวังเคอน่าเบื่อและไร้ชีวิตชีวามาก เขาเป็นคนบ้างาน เขาพยายามเพื่อชีวิตของตัวเองตลอดเวลา ยอมเสียทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้ปีนสูงขึ้นไป
คนที่กลัวความจนตอนเด็ก หลังจากโตขึ้นมาจึงยึดติดกับเรื่องเงินทองเป็นอย่างมาก พวกเขาปรารถนาที่จะสะสมเงินเพื่อความรู้สึกปลอดภัย
นอกจากนี้ คนที่เกิดในครอบครัวปกติยากมากที่จะเข้าใจจิตใจของเด็กที่มาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า สิ่งที่พวกเขาขาดไม่ใช่แค่ ‘ความรู้สึกปลอดภัยเรื่องเงินทอง’ ง่ายๆ แบบนั้น
โจวเจ๋อในอดีตก็เป็นแบบนี้ แต่เกิดมาสองชาติแล้ว โจวเจอจึงขี้เกียจมากขึ้น และปล่อยวางได้เยอะขึ้น
ไม่มีความยึดติดใดๆ ที่ ‘ตายหนึ่งครั้ง’ แล้วจะแก้ปัญหาไม่ได้ ถ้าหากไม่ได้ อย่างนั้นก็ตายอีกสองสามครั้ง แล้วคุณก็จะปล่อยวางเอง
หวังเคอเสนอให้เล่นไพ่โปกเกอร์ โจวเจ๋อไม่พูดอะไร ไป๋อิงอิงไม่ชอบ นักพรตเฒ่ามีใจอยากสนับสนุน แต่เล่นไพ่โปกเกอร์แค่สองคนมันเล่นไม่ได้จริงๆ จึงได้แต่ล้มเลิกไป
สุดท้ายหวังเคอจึงหยิบประวัติผู้ป่วยของตัวเองออกมาศึกษา แล้วเริ่มทำงานโดยตรง ดูไม่ออกเลยว่าเขารู้สึกหวาดกลัวมากแค่ไหน
โจวเจ๋อมอง ‘พี่ชาย’ ที่โตมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วยกัน ราวกับมองเห็นตัวเองในอดีต
ถึงแม้เป็นช่วงก่อนที่จะตาย ก็อยากจะครอบครองมากกว่านี้ อยากจะแสวงหามากกว่านี้ ทุกคนล้วนเพลิดเพลินไปกับความสุขที่ได้มาจากการทำงาน รู้สึกพึงพอใจเหมือนกระรอกที่สะสมถั่วไว้ในโพรงต้นไม้ของตัวเอง
ไม่ว่าจะมีวันพรุ่งนี้หรือไม่ ก็ต้องทำงาน
นอกหน้าต่างเริ่มมีแสงอาทิตย์โผล่ออกมา และคืนนี้ก็ผ่านไป จะว่าช้าก็ช้า จะว่าเร็วก็เร็ว ผีดิบตัวนั้นไม่มา ไม่มีใครเคาะประตู และไม่มีใครทำลายหน้าต่าง คืนนี้ผ่านไปอย่างสงบสุข
โจวเจ๋อตั้งใจรอต่ออีกนิด จนกระทั่งถึงตอนเช้า โจวเจ๋อจึงลุกขึ้น
“วันนี้พอแค่นี้ก่อน ฉันกลับแล้วนะ”
หวังเคอก็ไม่หน้าด้านขอร้องให้โจวเจ๋อปกป้องตัวเองต่อ เขาก้มหน้าดูประวัติผู้ป่วยของตัวเองต่อไป ตอนที่โจวเจ๋อบอกลา เขาจึงเงยหน้าแล้วบิดขี้เกียจด้วยความเหนื่อยล้า จากนั้นยิ้มให้โจวเจ๋อ
“กินอาหารเช้าก่อนแล้วค่อยกลับ”
นักพรตเฒ่าอยากจะพยักหน้าเป็นอย่างมาก แต่เขาต้องมองสีหน้าของโจวเจ๋อ ไม่ว่าอย่างไรสำหรับนักพรตเฒ่า เขาพอใจกับอาหารของบ้านตระกูลหวังเป็นอย่างมาก ทั้งสวยงามและประณีต เป็นอาหารที่เอาไว้ดื่มด่ำกับรสชาติอาหารเป็นหลักไม่ใช่เพื่อกินให้อิ่มท้องเท่านั้น
“ไม่แล้ว ไม่รบกวนแล้ว”
โจวเจ๋อจะตีตัวออกหากจาก ‘ของกิน’ ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบ้านตระกูลหวัง
เมื่อได้ยินดังนั้นนักพรตเฒ่าจึงผิดหวังอยู่บ้าง จริงๆ แล้วเมื่อวานเขามีลาภปากที่ไม่เลว กินของมั่วไปมากมาย อย่างนั้นแต่ไม่ท้องเสีย
“แขกจะกลับแล้วเหรอคะ” เวลานี้ภรรยาของหวังเคอเดินลงมาจากบันได
เธอใส่ชุดนอนสีดำ และเนื่องจากมีแขกอยู่ ดังนั้นเธอจึงสวมเสื้อคลุมสีขาวอีกหนึ่งตัว แต่ยังคงมองออกถึงรูปร่างที่สวยเพรียวของเธอได้ชัดเจน
สาว…สวยสง่างามและมีเสน่ห์
ไป๋อิงอิงที่ยืนอยู่ข้างโจวเจ๋อยื่นมือออกไปเขย่าแขนของโจวเจ๋อเบาๆ เขาจึงมองไปตามทางที่เธอส่งสัญญาณบอก แล้วจึงเห็นรอยสีแดงที่น่องขาข้างซ้ายของภรรยาของหวังเคอ
เหมือนจะเป็นเลือด เป็นรอยเลือดที่ไหลมาระยะหนึ่ง
“ที่รักคะ เมื่อคืนตอนฉันนอนหลับรู้สึกว่าฉันจะทำขวดยาทาเล็บสีแดงหกแต่ฉันไม่ทันสังเกต พอตื่นมาตอนเช้าจึงเห็นสีแดงเต็มพื้น ฉันตกใจเกือบจะเป็นลมเลยค่ะ ก่อนหน้านี้ฉันดูหนังสยองขวัญ คุณรู้ไหม ฉันยังคิดว่าคุณเหมือนพระเอกในเรื่องที่จะจับฉันกินตอนฉันนอนหลับ”
ภรรยาของหวังเคอเดินมาอยู่ตรงหน้าของหวังเคอ แล้วยื่นมือลูบคางของเขา สามีไม่ได้นอนมาทั้งคืน เธอรู้สึกสงสารอยู่บ้าง
“คุณผอมเกินไป ผมกินไม่อิ่มครับ” หวังเคอพูดแซว “ไปทำอาหารเช้าเถอะ”
“ไม่ต้องครับ พี่สะใภ้” โจวเจ๋อปฏิเสธอีกที “พวกเราต้องกลับก่อน ถ้าหากมีธุระอะไร มาหาฉันที่ร้านหนังสือได้ อ้อใช่ ร้านหนังสือของฉันตอนนี้ย้ายมาที่ถนนหนานต้าแล้ว อยู่ไม่ไกลจากที่นี่”
ความหมายของโจวเจ๋อคือ ถ้าหากรู้สึกผิดปกติอะไร สามารถมาหลบภัยที่ร้านหนังสือของตัวเองได้
โจวเจ๋อทำได้มากสุดเพียงเท่านี้ เขาไม่สามารถอยู่ข้างกายหวังเคอได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเพื่อปกป้องเขา และวันนี้ก็เป็นเทศกาลเช็งเม้ง เป็นช่วงที่ร้านหนังสือของตัวเอง ‘กิจการดี’ จะมีลูกค้าใหม่มากมายกรูกันเข้ามาที่ร้านหนังสือตอนเทศกาลเช็งเม้ง นี่เป็นธุรกิจใหญ่ ถือว่าเป็นช่วงขาขึ้น โจวเจ๋อจึงไม่อยากพลาด
เมื่อปฏิเสธคำขอให้อยู่ต่อของภรรยาหวังเคอแล้ว พวกโจวเจ๋อทั้งสามคนจึงออกมาจากบ้านของหวังเคอ
ทันทีที่เดินออกไป โจวเจ๋อหยุดเดินแล้วหันไปมองที่ระเบียง
ลูกสาวของหวังเคอน่าจะยังนอนหลับอยู่ ตอนนี้เป็นวันหยุดเทศกาลเช็งเม้ง เธอไม่ต้องไปโรงเรียน
สาวน้อยโลลิน่าจะยังไม่กลับมา หรือเธอคงจะกลับมาไม่ได้แล้ว ในความเป็นจริงถ้าหากสาวน้อยโลลิกลับมา คาดว่าการเป็นห่วงหวังเคอคงจะเกินความจำเป็น เพราะถ้าผีดิบตัวนั้นมาแก้แค้นที่บ้านตระกูลหวังจริง มีความเป็นไปได้สูงที่มาแล้วไม่มีทางได้กลับไป
“เถ้าแก่ คือว่า เป็นสีแดงของน้ำยาทาเล็บจริงๆ เหรอ” ไป๋อิงอิงถามอยู่ข้างหลังโจวเจ๋อ
“อาจจะเป็นความอายตอนที่มีประจำเดือนเลยหาข้ออ้าง”
“…” ไป๋อิงอิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล